วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2219

“แก่นจิตวิญญาณดวงที่เจ็ด”

“แก่นวิญญาณของชางเหม่ยเต้าจ่างปรากฏออกมาแล้ว”

“ในนิกายดาบชิงอวิ๋นของพวกเรายังไม่มีใครฝึกฝนจนมีแก่นวิญญาณได้ถึงเจ็ดดวงเลยใช่ไหม”

“ในอดีตไม่เคยมีใครทำได้ และในอนาคตคงจะไม่มีใครเทียบได้เช่นกัน!”

“ชางเหม่ยเต้าจ่างสุดยอดไปเลย!”

“……”

ฝูงชนรอบด้านที่จับตามองมาต่างก็ส่งเสียงฮือฮา

ตกตะลึงกันใหญ่

ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเองก็คงจะไม่เชื่อว่าจะมีใครคนหนึ่งสามารถฝึกฝนจนทำให้จิตวิญญาณปรากฏออกมาได้ถึงเจ็ดดวง

“ต้องบอกเลยว่า แม้แต่ในอดีต บุตรเทพแรก ฉีเทียนซึ่งถูกขนานนามว่าอัจฉริยะไร้เทียมทานแห่งสำนักหยินหยาง ยังสามารถฝึกฝนได้เพียงแค่แก่นวิญญาณสองดวงเท่านั้นเอง”

ในเวลานั้น เหล่าลูกศิษย์ของนิกายดาบชิงอวิ๋นมองไปที่อมตะชางเหม่ยด้วยสายตาบูชาราวกับว่ากำลังมองดูพระเจ้า.....

ฟึบฟึบฟึบฟึบ!

“ร่างเงาทั้งสี่ปรากฎตัวขึ้นอย่างรวดเร็วที่หน้าประตูห้องโถงพิธีการใหญ่ เงาเหล่านั้นก็คือเซียนกระบี่ทั้งสี่”

“ขอคารวะท่านอาจารย์! ขอคารวะท่านประมุข!”

เซียนกระบี่ทั้วสี่รีบโค้งคารวะต่อจื่อหยางเทียนจุนและหยุนซาน

“เป็นไง เรื่องนี้ทำให้พวกเจ้าสนใจได้เหมือนกันสินะ” หยุนซานถามด้วยรอยยิ้ม

เซียนกระบี่จิ่วเจี้ยนเซียนมองไปยังอมตะชางเหม่ยที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่กลางอากาศ แล้วกล่าวด้วยความทึ่งว่า “ไม่น่าเชื่อเลยว่า เต้าจ่างชางเหม่ยที่มักจะทำตัวบ้าๆบอๆ จะมีความสามารถที่น่ากลัวถึงขั้นนี้”

ฉีเจี้ยนเซียนก็ตกตะลึงเช่นกันพร้อมกล่าวว่า “หากข้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ข้าก็คงไม่เชื่อ”

“ใครจะเถียงได้ล่ะ ชูเจี้ยนเซียนพูดต่อว่า “เพียงพริบตาเดียว ชางเหม่ยเต้าจ่างก็สามารถฝึกฝนจนสร้างแก่นวิญญาณขึ้นมาได้ถึงเจ็ดดวงในคราวเดียว พรสวรรค์ของเขาโดดเด่นเหนือกว่าผู้คนนับหมื่น”

ฮว่าเจี้ยนเซียนกล่าวว่า “พวกเราฝึกฝนมามากกว่าพันปีแต่กลับไปไม่ถึงสุดยอดขั้นทงเสินเสียที แต่ชางเหม่ยเต้าจ่างที่ฝึกฝนไม่ได้นานสักเท่าไหร่กลับแซงหน้าพวกเราไปแล้ว ถ้าเทียบกับเขา เราก็เป็นได้แค่ขยะ”

จื่อหยางเทียนจุนกล่าวว่า “พวกเจ้าอย่าได้ดูถูกตัวเอง พรสวรรค์ของพวกเจ้าก็มีไม่น้อย เพียงแต่ชางเหม่ยนั้นมีร่างกายที่พิเศษ บวกกับโชคชะตาอันแข็งแกร่ง หลังจากได้รับการฝึกฝนจากคางคกทองคำก็ทำให้เขาพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว”

จิ่วเจี้ยนเซียนที่ได้ยินดังนั้นก็สะเทือนใจจึงได้กล่าวกับคางคกทองคำว่า “ผู้อาวุโส ท่านช่วยสอนข้าหน่อยได้หรือไม่”

“แน่นอนอยู่แล้ว!” คางคกทองคำกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ขอแค่พวกเจ้าไม่กลัวการถูกทุบตีก็พอ”

จิ่วเจี้ยนเซียน “.....”

ฉีเจี้ยนเซียน “.....”

ชูเจี้ยนเซียน “.....”

ฮว่าเจี้ยนเซียน “.....”

กลางอากาศ

อมตะชางเหม่ยเหลือบมองไปรอบๆแล้วพบว่าบรรดาลูกศิษย์ของนิกายดาบชิงอวิ๋นมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและเคารพนับถือราวกับกำลังมองดูเทพเจ้าอยู่ ซึ่งนั่นตอบสนองต่อความหลงตัวเองของเขาได้มากเลยทีเดียว

“แน่นอนว่าถ้าไม่มีไอ้เด็กเปรตคนนั้น ตัวข้าก็คงกลายเป็นหนุ่มที่หล่อที่สุดในแถบนี้แล้ว”

“ไม่แปลกใจเลยที่ไอ้เด็กเปรตชอบทำตัวเท่ๆ เพราะเวลาที่คนอื่นชื่นชม มันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง”

อมตะชางเหม่ยได้ฝึกฝนจนแก่นวิญญาณทั้งเจ็ดปรากฏขึ้น และหลังจากแก่นวิญญาณทั้งเจ็ดปรากฏขึ้น พวกมันก็ได้นั่งขัดสมาธิอยู่เหนือศีรษะของเขาเพื่อดูดซับพลังวิญญาณสวรรค์และโลกและนำพลังนั้นมามอบให้กับร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง นั่นจึงทำให้อมตะชางเหม่ยรู้สึกทรงพลังกว่าที่เป็นมา

ช่วงเวลานั้น อมตะชางเหม่ยรู้สึกราวกับตัวเองเก่งกาจ และไม่มีใครหน้าไหนสามารถเอาชนะเขาได้

ในความเป็นจริง เขาเองก็รู้ว่าแม้ว่าเยี่ยชิวจะทะลวงขอบเขตพลังจนถึงขั้นทงเสิน แต่ถ้าไม่ใช้เทพศาสตราและไฟพิเศษก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้

“ยังไงไอ้เด็กเปรตก็ยังเป็นไอ้เด็กเปรตอยู่วันยันค่ำ ไม่เคยคิดล่ะสิว่าข้าจะพัฒนาไปได้ถึงขนาดนี้ รอให้ไอ้เด็กนั่นออกมาจากการปิดด่านก่อนเถอะ เจ้านั่นจะต้องตะลึงแน่นอน”

ในใจของอมตะชางเหม่ยเต็มไปด้วยความสุขจนเผลอพูดกับตัวเองว่า “ในที่สุดข้าก็มีโอกาสอวดอะไรสักอย่างต่อหน้าคนอื่นแล้ว ต้องรีบคว้าโอกาสนี้ไว้และทำให้พวกเขาตะลึงให้มากกว่านี้อีก”

พอคิดถึงตรงนี้ สายตาของอมตะชางเหม่ยเป็นประกายและรีบเคลื่อนพลังทั้งหมดในร่างกายเขาทันที

และในเวลาต่อมา

“แก่นวิญญาณดวงที่แปด ออกมาเดี๋ยวนี้”

อมตะชางเหม่ยคำรามเสียงดังลั่น และที่ด้านบนร่างกายของเขาก็มีเสียงดัง “ตูม”ออกมา เสียงนั้นดังสนั่นราวกับฟ้าผ่า

เพียงชั่วพริบตา กลางหว่างคิ้วของเขาก็เปิดออกอีกครั้ง และแก่นวิญญาณที่มีความสูงเท่ากับกำปั้นก็ได้เดินออกมา

แก่นวิญญาณดวงที่แปดปรากฏตัวออกมาแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ