ป่าเมเปิลหันหน้าไปทางทะเลด้านหนึ่ง และหันไปทางภูเขาอีกด้านหนึ่ง เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงมากในเมืองหยางเฉิง
ที่นี่มีต้นเมเปิลปลูกไว้หลายพันเอเคอร์
ทุกฤดูใบไม้ร่วง โดยจะมีฉาก “ภูเขาแดงไปหมด”ปรากฏขึ้น
เยี่ยชิวและผู้อมตะชางเหม่ยเดินอยู่ในป่าเมเปิ้ลสักพักหนึ่ง จู่ๆก็หยุดลง เพียงแค่เห็นพื้นที่ว่างหนึ่งร้อยเมตรตรงหน้า เฉายวนและคนอื่นๆ กำลังเผชิญหน้ากับศัตรู
โดยอาศัยไฟถนน เยี่ยชิวมองเห็นรูปลักษณ์ของศัตรูอย่างชัดเจน
ทั้งหมดมีแปดคน
ชายเจ็ดหญิงหนึ่ง
“ทำไมถึงมีคนมากขนาดนี้” เยี่ยชิวตะลึง จากการคาดเดาของชิงหลงก่อนหน้านี้ ศัตรูน่าจะมีเพียงแค่ห้าหกคนเท่านั้น
ผู้อมตะชางเหม่ยทำปากมุ่ย พูด : “การคาดการณ์ของชิงหลงผิดพลาดแล้ว”
“คนเหล่านั้นคุณรู้จักทั้งหมดเหรอ” เยี่ยชิวถาม
“ส่วนใหญ่รู้จัก” ผู้อมตะชางเหม่ยแนะนำ : “คนหัวล้านทางซ้ายสุด ชื่อว่าหวู่จิง เชี่ยวชาญวิชาหมัดวัชระ เดิมทีเป็นลูกศิษย์ของภูเขาหวู่ไท่ ต่อมาได้ฝ่าฝืนพระบัญญัติ เลยถูกขับออกจากสำนัก”
“กระโปรงแดงที่อยู่ด้านข้างเขาคนนั้น ผู้หญิงที่แต่งตัวสวยอย่างมาก ชื่อว่าแม่นางหง เชี่ยวชาญด้านยาพิษ”
ผู้อมตะชางเหม่ยถามอย่ากะทันหัน : “เยี่ยชิว นายมองเห็นคนแคระคู่นั้นไหม”
“มองเห็นแล้ว”
เยี่ยชิวสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้ว ท่ามกลางศัตรเหล่านั้น มีผู้ชายสองคนที่ร่างกายเตี้ยอย่างมาก สูงประมาณหนึ่งเมตรเท่านั้น มีหน้าตาที่ขี้เหร่อย่างมาก นอกจากนี้ดูเหมือนว่าหน้าตาจะเหมือนกันแปะๆ
“พวกเขาเป็นฝาแฝดเหรอ” เยี่ยชิวถาม
“ใช่แล้ว” ผู้อมตะชางเหม่ยพูด : “พวกเขาก็คือพี่น้องตระกูลถันจากตระกูลถันของเมืองเซียงซี พี่คนโตชื่อถันเหมียนฮวา คนรองชื่อถันจี๋ทา”
พุฟ——
เยี่ยชิวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ พูดด้วยรอยยิ้ม : “ชื่อของสองคนนี้ตั้งได้ดีอย่างมาก สามารถจำได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยิน”
“ได้ยินมาว่า พ่อแม่ของตระกูลถันอยากให้ลูกชายของพวกเขาหลังจากที่เติบโตแล้วอาศัยด้วยมือกินข้าว แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ผู้ชายสองคนนี้ ตอนนี้ล้วนแล้วอาศัยขากินข้าว”
“คำพูดนี้หมายความว่ายังไง”
ผู้อมตะชางเหม่ยอธิบาย : “พี่พี่น้องตระกูลถันฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ต่อมาได้เป็นลูกศิษย์ผู้เฒ่าในตระกูลคนหนึ่ง เรียนรู้วิชาขาตระกูลถันที่แท้จริง”
“นายอย่ามองว่าพวกเขาร่างกายไม่สูง อันที่จริงอายุเข้าใกล้ห้าสิบปีแล้ว พวกเขาฝึกฝนวิชาขาตระกูลถันมานานหลายทศวรรษ สองพี่น้องร่วมมือกันอย่างไม่มีที่ติ”
“หลายปีมานี้ พวกเขาสองพี่น้องร่วมมือกัน จัดการคนโดดเด่นไปไม่น้อย”
“ถ้าหากนายต่อสู้กับพวกเขา อย่างนั้นก็ต้องคิดหาวิธีจัดการคนใดคนหนึ่งก่อน ทำลายความร่วมมือของพี่น้องพวกเขา แบบนี้ถึงจะสามารถชนะได้ ไม่อย่างนั้นอันตรายอย่างมาก”
เยี่ยชิวพยักหน้าเบาๆ : “ผมเข้าใจแล้ว”
“ชายชราผอมแห้งที่ยืนอยู่ข้างพี่น้องตระกูลถันคนนั้น เป็นผู้อาวุโสใหญ่ของลัทธิแม่มด ชื่อเว่ยเล่อหรัน”
น้ำเสียงของผู้อมตะชางเหม่ยกลายเป็นเคร่งขรึมเล็กน้อย พูด : “ทักษะของชายชราคนนี้ไม่อ่อนแอ น่าจะได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของลัทธิแม่มด”
“เทียบกับคุณล่ะ” เยี่ยชิวถาม
ผู้อมตะชางเหม่ยเงยคางขึ้น พูดอย่างดูถูก : “คนไร้ค่าคนหนึ่งมีคุณสมบัติอะไรมาเทียบกับฉัน”
แสร้งทำเป็นเก่ง
“ใช่แล้ว มีอีกอย่างที่ผมสงสัย” เยี่ยชิวพูด : “เหตุใดลัทธิแม่มดจึงยืนกรานที่จะต่อต้านหลงเหมิน”
“นายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของหลงเหมิน แม้แต่เรื่องนี้นายก็ไม่รู้เหรอ” ผู้อมตะชางเหม่ยตะลึงอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...