"นางนั่นเอง!"
เยี่ยชิวมองไปที่ห้องฝั่งตรงข้ามแล้วจำได้ทันที หญิงสาวที่พักอยู่ในห้องตรงข้ามก็คือหญิงสาวคนเดียวกับที่เขาเห็นในรถม้าก่อนหน้านี้
หญิงสาวดูเหมือนจะรู้สึกถึงบางสิ่ง เธอยกหน้าขึ้นมองไปที่เขา สายตาของทั้งคู่สบกัน แล้วเธอก็ยิ้มและพยักหน้าทักทาย
เยี่ยชิวก็พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการทักทายตอบกลับ
แต่ว่า ไม่นานนักหน้าต่างฝั่งตรงข้ามก็ถูกปิดลง
"โลกนี้มันช่างเล็กเสียจริง" เยี่ยชิวพึมพำแล้วหันหลังกลับไปในห้อง
ไม่นานนัก เสี่ยวเอ้อก็เดินขึ้นมาพร้อมกับอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมทั้งวิ่งขึ้นลงสองรอบจนเอาอาหารมาได้สิบกว่าจาน
"คุณชาย โรงเตี๊ยมของเรายังมีสวนหลังบ้าน คุณชายถ้าท่านอยากเดินเล่นก็สามารถไปดูที่สวนด้านหลังได้ขอรับ" เสี่ยวเอ้อพูดด้วยความกระตือรือร้น
"ดี" เยี่ยชิวตอบแล้วถามต่อ "ช่วยบอกข้าหน่อย คนที่พักห้องฝั่งตรงข้ามคือใคร?"
เมื่อเสี่ยวเอ้อได้ยินคำถาม สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นตึงเครียดทันที เขากล่าวด้วยเสียงต่ำว่า "คุณชาย ห้องฝั่งตรงข้ามมีหญิงสาวท่านหนึ่งพักอยู่"
"นางเป็นคนที่มีฐานะสูงส่งมาก ท่านอย่าไปยุ่งกับนางดีกว่า ถ้าไม่อยากมีปัญหา"
เยี่ยชิวรู้สึกสนใจและถามต่อ "ทำไมเจ้าถึงรู้ว่านางมีฐานะสูงส่ง?"
เสี่ยวเอ้อกล่าวว่า: "ผู้ติดตามของนางที่พามาด้วยนั้น ทุกคนเป็นองครักษ์วังหลวงของราชวงศ์ต้าโจว ข้าเผอิญเห็นตราประจำตัวของพวกเขา"
"คุณชาย อย่าทำให้พวกเขาขุ่นเคืองเลย"
"องครักษ์วังหลวงนั้นคือผู้คุ้มกันของจักรพรรดิ ถ้าท่านไปยุ่งกับพวกเขา อาจจะถึงขั้นถูกฆ่าล้างตระกูลก็เป็นได้"
เยี่ยชิวหยิบหินวิญญาณสองสามก้อนโยนให้เสี่ยวเอ้อแล้วยิ้มกล่าวว่า: "ข้ารู้แล้ว เจ้ากลับไปได้แล้ว"
“คุณชายเชิญรับประทานอาหาร หากต้องการอะไรเรียกหาข้าได้เลย” เสี่ยวเอ้อหยิบหินวิญญาณจากไปอย่างมีความสุข
อมตะชางเหม่ยพลางกินอาหารและพูดว่า: “ไอ้เด็กเปรต ทำไมเจ้าใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ ดูเหมือนว่าจะให้หินวิญญาณเสี่ยวเอ้อไปเกินร้อยก้อนแล้วใช่ไหม?”
เยี่ยชิวไม่สนใจและกล่าวว่า: “ท่านกังวลหรือ? อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ว่าท่านเองก็มีหินวิญญาณหลักพันล้านพกติดตัวท่านนะ”
อมตะชางเหม่ยกล่าวว่า: “มีหินวิญญาณมากก็จริง แต่ก็ไม่ควรใช้โดยไม่คิด ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถึหญิงสาวคนนั้น นางเป็นใครกัน?”
เยี่ยชิวตอบว่า: “หญิงสาวที่อยู่ในรถม้าที่นั่น ก็พักอยู่ตรงข้ามห้องพวกเรานี่เอง”
"อ้อ?" อมตะชางเหม่ยยิ้มแล้วกล่าวว่า: "ในวันเดียวกัน บังเอิญเจอกันสองครั้ง ตอนนี้ยังพักอยู่ในโรงเตี๊ยมเดียวกันอีก ไอ้เด็กเปรต ดูเหมือนข้าจะทายไม่ผิด เจ้ากับหญิงสาวคนนั้นอาจจะมีวาสนาร่วมกันก็ได้"
"อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระ." เยี่ยชิวจ้องมองไปที่อมตะชางเหม่ยแล้วกล่าวต่อว่า: "แต่ข้าก็ไม่คิดว่า ทหารที่ตามหญิงสาวคนนั้นมาเป็นทหารองครักษ์วังหลวง"
อมตะชางเหม่ยกล่าวว่า: "เมื่อกี้เสี่ยวเอ้อบอกว่า องครักษ์วังหลวงเป็นองครักษ์ประจำตัวจักพรรดิ ดังนั้น คงจะเห็นได้ว่า หญิงสาวคนนั้นน่าจะเป็นคนในราชวงศ์"
"ไอ้เด็กเปรต ข้ามีความคิดหนึ่ง"
"ทำไมเจ้าไม่ลองเสียสละตัวเอง แล้วพยายามทำความรู้จักกับหญิงสาวคนนั้นดู แล้วให้นางนำทางพวกเราไปยังเมืองหลวงของต้าโจวล่ะ?"
เจ้าวัวต้าลี่ที่กำลังง่วนอยู่กับการกิน เงยหน้าขึ้นมากล่าวว่า: "ข้าคิดว่าคำแนะนำของท่านเต้าจ่าง นี่ก็ดีเหมือนกันนะ"
ใครจะรู้ว่า เยี่ยชิวจะปฏิเสธทันที
"ช่างเถอะ เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องยุ่งยากไปกันใหญ่" เยี่ยชิวกล่าว "พอไปถึงเมืองหลวงแล้ว เราไปหาอู่เชียนฟานก็พอ ใครจะไปรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นทาสของข้า"
"ไอ้เด็กเปรต เจ้าอยากตายหรือ?" อมตะชางเหม่ยกล่าว "อู่เชียนฟานองค์ชายรองของราชวงศ์ต้าโจว กลายเป็นทาสของเจ้า เขาไม่พอใจอยู่ในใจ แล้วเจ้าจะไปหาเขาทำไม? มันไม่เหมือนการเอาแกะไปให้เสือกินเหรอ?"
เยี่ยชิวหัวเราะ "ไม่ต้องห่วง อู่เชียนฟานไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก"
อมตะชางเหม่ยกล่าวต่อ "ถึงแม้อู่เชียนฟานจะไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ถ้าผู้คนในราชวงศ์ต้าโจวอู่เชียนฟานเป็นทาสของเจ้าล่ะก็ เจ้าคิดว่าพวกเขาจะยอมทนต่อเจ้าหรือ?"
"เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับเกียรติยศของราชวงศ์ จักรพรรดิของต้าโจว ย่อมไม่ยอมให้ลูกชายของเขากลายเป็นทาสของเจ้า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...