วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2307

สรุปบท บทที่ 2307 เจตนาฆ่าปรากฏขึ้น: วิสารทแพทย์เทวัญ

อ่านสรุป บทที่ 2307 เจตนาฆ่าปรากฏขึ้น จาก วิสารทแพทย์เทวัญ โดย หูหยานล่วนหยู

บทที่ บทที่ 2307 เจตนาฆ่าปรากฏขึ้น คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายความสามารถแปลก วิสารทแพทย์เทวัญ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หูหยานล่วนหยู อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เยี่ยชิวสะดุ้งเล็กน้อย

ด้วยระดับพลังฝึกตนของเขา การที่มีใครบางคนเข้าใกล้โดยที่เขาไม่รู้ตัวนั้น ถือเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ

เมื่อหันกลับไป เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินตรงมาหา ซึ่งก็คือหญิงสาวในรถม้าที่เขาเห็นเมื่อช่วงกลางวัน

“ผู้หญิงคนนี้ ไม่เพียงแค่มีสถานะไม่ธรรมดา เกรงว่าแม้แต่พลังฝึกตนก็คงไม่ธรรมดาเหมือนกัน”

ความคิดนี้แล่นวูบผ่านในหัวของเยี่ยชิว เขามองหญิงสาวแล้วยิ้มเล็กน้อย “เจ้าเองหรอกหรือ!”

“คารวะคุณชาย” หญิงสาวกล่าวพร้อมโค้งตัวเล็กน้อย

เมื่อได้มองใกล้ๆ เยี่ยชิวก็พบว่า หญิงสาวงดงามยิ่งกว่าเดิม

นางช่างงามราวกับหยาดน้ำค้างในยามเช้า บริสุทธิ์และสดชื่น ดวงตาของนางเหมือนดวงดาวที่ส่องแสงเจิดจ้าในยามค่ำคืน เปล่งประกายด้วยความไร้เดียงสา ผิวของนางขาวดุจหิมะ เรียบเนียนไร้ตำหนิแม้แต่น้อย ริมฝีปากของนางอวบอิ่ม มีสีชมพูระเรื่อคล้ายซากุระที่ผลิบาน

นางสวมชุดกระโปรงยาวสีขาว รูปร่างเพรียวบางสง่างาม เคลื่อนไหวราวกับปุยนุ่นปลิวลม

“บังเอิญจังเลย ได้พบกันอีกแล้ว” หญิงสาวยิ้มตาหยี ริมฝีปากโค้งขึ้นเผยรอยยิ้มหวาน

ทันใดนั้น ความมืดของราตรีก็เหมือนจะสว่างขึ้นมาเล็กน้อย

แววตาเยี่ยชิวแสดงความประหลาดใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เขาถามด้วยท่าทีสุภาพ “ไม่ทราบว่าควรเรียกแม่นางว่าอะไรดี?”

“คุณชายจะเรียกข้าว่า โหรวเอ๋อร์ก็ได้” หญิงสาวตอบกลับ

โหรวเอ๋อร์?

แค่ได้ยินก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ชื่อจริง

มันเหมือนชื่อเล่นที่พวกหญิงสาวๆในสถานเริงรมย์มักใช้กัน เช่น เมิ่งเมิ่ง ฟางฟาง จิงจิง หรือไม่ก็ชื่อผลไม้แบบ ชิงหนิง มางกั่ว...

ก็แค่รหัสเรียกชื่อเท่านั้นเอง

แต่ก็เข้าใจได้อยู่หรอก หญิงสาวที่มีทั้งรูปลักษณ์และชาติตระกูลไม่ธรรมดา เวลาออกนอกบ้านย่อมต้องระวังตัวเป็นพิเศษอยู่แล้ว

“ยินดีที่ได้รู้จักคุณหนูโหรวเอ๋อร์ ข้าชื่อเยี่ยชิว” เยี่ยชิวแนะนำตัวโดยไม่ปิดบังชื่อจริง

ในโลกฝึกตนมีไม่กี่คนที่รู้ชื่อจริงของเขา ส่วนมากรู้จักเขาในนาม เยี่ยฉังเซิงซึ่งเป็นชื่อที่ใช้บ่อยกว่า

ยิ่งไปกว่านั้น คนที่รู้จักชื่อจริงเขา ก็อยู่ในเขตตงฮวงเสียส่วนใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเหยียบเข้าดินแดนจงโจว จึงแทบไม่มีใครในที่นี่รู้จักชื่อเขาเลย

“เยี่ยชิว?” หญิงสาวยิ้มพลางกล่าวว่า “ใบไม้ใบเดียวร่วง ก็บอกได้ถึงฤดูใบไม้ร่วงของทั้งแผ่นดิน คุณชายเลือกชื่อได้งดงามจริงๆ อีกทั้ง บทกลอนของคุณชายเมื่อครู่ ก็แต่งได้ไพเราะยิ่งนัก”

นางเหลือบตามองไปยังต้นกล้วยที่ถูกฝนโปรยปรายในลานสวน ก่อนจะเอ่ยเบาๆว่า “เวลาไหลผ่านทอดทิ้งผู้คน เชอร์รีแดงฉาน กล้วยเขียวชอุ่ม ประโยคนี้ช่างเข้ากับบรรยากาศในยามนี้นัก ความหมายก็ลุ่มลึก คุณชายกล่าวออกมาได้อย่างลื่นไหล ราวกับกลอนยอดเยี่ยมที่แต่งเอง ข้าขอนับถือ”

เยี่ยชิวรู้สึกเหงื่อตกเล็กน้อย

ในใจพลันคิดว่า : “ถ้าข้ามีพรสวรรค์ด้านบทกวีจริงล่ะก็ ตอนอยู่โลกมนุษย์ ข้าคงไม่ไปเป็นหมอหรอก คงไปเป็นกวีหรือไม่ก็เป็นนักเขียนแล้ว”

เขาเองก็ไม่คาดคิดว่า แค่ท่องกลอนโบราณออกมาสักบท จะทำให้หญิงสาวตรงหน้ามองเขาเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้

เยี่ยชิวกล่าวว่า : “แม่นางเข้าใจผิดแล้ว ข้าเป็นเพียงชายบ้านๆ ไม่เข้าใจกลอนบทกวีอะไรหรอก กลอนบทนี้เป็นผู้อื่นแต่ง”

“หรือ? ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้แต่ง?” หญิงสาวถามต่อ

"คือว่า..." เยี่ยชิวกำลังจะพูดว่า "เจียงเจี่ย" แต่ก็คิดขึ้นมาได้ว่า คนในโลกฝึกเซียนจะรู้จักเจียงเจี่ยไหม?

ทันใดนั้น เขาก็ตระหนักถึงปัญหาหนึ่ง เป็นไปได้ไหมว่าคนในโลกฝึกเซียนอาจจะไม่รู้จักบทกวีจากโลกมนุษย์เลย?

เยี่ยชิวลังเลเล็กน้อย แล้วพูดว่า: "บทกวีนี้ เขียนโดยผู้อาวุโสคนหนึ่งที่แซ่เจียง"

"จริงเหรอ?" หญิงสาวยิ้มบางๆ แล้วถามต่อ "คุณชายเยี่ย ไม่ทราบว่าท่านมาจากที่ใด?"

เยี่ยชิวตอบว่า: "ขอตอบตามตรง ข้าเป็นนักพรตไร้สำนัก"

คราวนี้เขาไม่ได้พูดความจริง

ถ้าเขาบอกว่ามาจากตงฮวง แน่นอนว่าจะต้องมีคนโยงเขาเข้ากับนิกายดาบชิงอวิ๋น

เพราะตอนนี้นิกายดาบชิงอวิ๋นครองอำนาจสูงสุดในตงฮวง

หญิงสาวถามอีกว่า: "คุณชายเยี่ย มาที่เมืองผิงสุ่ยแห่งนี้ มีธุระอะไรหรือ?"

"เปล่าเลย" เยี่ยชิวตอบว่า: “ข้าแค่ผ่านมา”

"แล้วคุณชายจะเดินทางไปที่ใดหรือ?"

"เมืองหลวง"

หญิงสาวกล่าวว่า: "เมืองหลวงอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เลย คุณชายควรระวังตัวให้มากตลอดการเดินทาง"

เยี่ยชิวเก็บความคิดเพ้อฝันไว้ในใจ แล้วถามขึ้นว่า “แม่นางโหรวเอ๋อร์ เจ้ามาจากเมืองผิงสุยหรือ?”

“ไม่ใช่ ข้าแค่ผ่านมาแถวนี้ระหว่างทางกลับบ้าน” หญิงสาวตอบ “บ้านของข้าอยู่ในเมืองหลวง คุณชายเยี่ย ถ้ามีวาสนาต่อกัน เราอาจจะได้เจอกันในเมืองหลวงก็เป็นได้”

“อ้อ แล้วคุณชายเยี่ยจะไปเมืองหลวงทำไมหรือ?”

เยี่ยชิวตอบว่า “ข้าจะไปหาสหายท่านหนึ่ง”

“อย่างนี่นี่เอง…” แววตาหญิงสาวมีความผิดหวังเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อว่า “ข้านึกว่าคุณชายเยี่ยจะไปเมืองหลวงเพื่อเข้าแข่งขันเป็นราชบุตรเขยเสียอีก”

“แข่งขันเป็นราชบุตรเขย?” เยี่ยชิวทำหน้ามึนงง “หมายความว่ายังไง?”

“คุณชายเยี่ยไม่รู้เหรอ?” หญิงสาวทำท่าประหลาดใจมาก

เยี่ยชิวส่ายหัวเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ข้าเพิ่งมาต้าโจวครั้งแรก ไม่ค่อยรู้เรื่องราวที่นี่เท่าไหร่”

“แบบนี้นี่เอง” หญิงสาวยิ้มแล้วอธิบาย “คือเมื่อไม่นานมานี้ จักรพรรดิได้มีพระราชโองการประกาศทั่วแผ่นดิน จะหาคู่ครองให้องค์หญิง ดังนั้น คนหนุ่มทั้งหลายที่มีความสามารถจากจงโจวก็เดินทางมาที่เมืองหลวงของต้าโจว เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเป็นราชบุตรเขย”

“ตอนที่ข้าได้ยินคุณชายเยี่ยบอกว่าจะไปเมืองหลวง ข้าก็คิดว่าคุณชายเยี่ยก็คงจะไปแข่งเพื่อเป็นราชบุตรเขย”

หญิงสาวยิ้มแล้วกล่าวต่อ “คุณชายเยี่ย อยากไปลองดูไหม? ด้วยความสามารถของคุณชายเยี่ย อาจจะสามารถครองใจองค์หญิงได้ก็ได้?”

เยี่ยชิวตอบว่า “ข้าไม่สนใจจะเป็นราชบุตรเขย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของหญิงสาวก็สะท้อนความผิดหวังเล็กน้อยอีกครั้ง

“เวลาค่ำแล้ว ปม่นาง ข้าขอตัวไปพักผ่อนก่อน ราตรีสวัสดิ์” เยี่ยชิวพูดจบก็หันหลังเดินไปห้องพักของตัวเอง

หญิงสาวยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่เห็นนางแล้วไม่พยายามหาข้ออ้างพูดคุยกับนาง หรืออยากอยู่ใกล้นางให้นานขึ้น แต่เยี่ยชิวกลับต่างออกไป เขากลับเดินไปพักผ่อนทันทีโดยไม่แม้แต่จะพูดคุยต่อ

“หรือว่า...สำหรับเขาแล้ว ข้าไม่มีความดึงดูดเลยสักนิด?”

หญิงสาวรู้สึกไม่พอใจ

ทว่า ทันใดนั้นเอง เจตนาฆ่าปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ