สรุปตอน บทที่ 2342 วิชาลับอรหันต์ – จากเรื่อง วิสารทแพทย์เทวัญ โดย หูหยานล่วนหยู
ตอน บทที่ 2342 วิชาลับอรหันต์ ของนิยายความสามารถแปลกเรื่องดัง วิสารทแพทย์เทวัญ โดยนักเขียน หูหยานล่วนหยู เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ใบหน้าของเยี่ยชิวเต็มไปด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้าง
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
สวรรค์เป็นพยาน! เขาไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้นเลยจริงๆ! เขาแค่อยากให้นางเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาก็เท่านั้น
แล้วทำไมถึงกลายเป็นจูบไปได้?
เวรเอ๊ย! เป็นเพราะเสน่ห์บ้าๆ ของเขาแท้ๆ!
หลังจากหญิงสาวจูบเยี่ยชิวแล้ว ก็รีบซบหน้าอกของเขา ราวกับดอกบัวที่กำลังบำเรอความขวยเขิน
เยี่ยชิวไม่รู้จะพูดอะไรดี
บรรยากาศพลันตกอยู่ในความกระอักกระอ่วน
ผ่านไปครู่หนึ่ง
เยี่ยชิวเอ่ยขึ้นว่า “คุณหนูโหรวเอ๋อร์ เจ้าพักผ่อนไปก่อน ข้าจะลองดูอีกครั้ง ว่าจะหาทางออกไปได้หรือไม่?”
เขากลัวจริงๆ ว่าหากกอดหญิงสาวไว้แบบนี้ต่อไป อาจจะเผลอทำเรื่องที่เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานไปเสียก่อน เพราะเขาไม่ใช่หลิ่วเซี่ยฮุ่ยนี่นา
“อืม” หญิงสาวครางตอบเบาๆ
เยี่ยชิวคลายอ้อมกอด แล้วลุกขึ้นยืน เดินสำรวจรอบๆ ผนังระฆัง
จะว่าไปแล้ว ไม่ใช่แค่สำรวจหรอก แต่เขาแค่ต้องการหลีกเลี่ยงความกระอักกระอ่วนต่างหาก
หญิงสาวแอบมองเยี่ยชิวเป็นครั้งคราว ไม่รู้ว่าในใจกำลังคิดอะไรอยู่ แก้มแดงก่ำน่ารักน่าเอ็นดู
“คุณหนูโหรวเอ๋อร์ เจ้าดีขึ้นบ้างไหม?” เยี่ยชิวถามหาเรื่องคุยพลางสำรวจผนังระฆัง
“ดีขึ้นมากแล้ว” หญิงสาวตอบ
จะว่าไปแล้วก็แปลกเหมือนกัน ปกติแล้วนางจะกลัวพื้นที่ปิดทึบแบบนี้มาก แต่ไม่รู้ทำไม ตอนนี้นางกลับไม่รู้สึกหวาดกลัวเท่าเมื่อก่อนแล้ว
"หรือว่าเป็นเพราะได้อยู่กับคุณชายเยี่ยสินะ?"
หญิงสาวเท้าคาง เอียงคอ มองเยี่ยชิว แล้วรำพึงในใจว่า "หล่อเหลา พลังแข็งแกร่ง แถมยังแต่งกลอนเป็น อีกทั้งยังเชี่ยวชาญเรื่องอาหารและสุราอีก… ช่างสมบูรณ์แบบอะไรเช่นนี้!"
"หากได้พบคุณชายเยี่ยเร็วกว่านี้ก็คงจะดี จะได้ไม่ต้องมาเผชิญสถานการณ์แบบนี้"
"ไม่ได้การล่ะ พอกลับไปแล้ว ต้องพูดเรื่องนี้ให้ชัดเจน"
แม้หญิงสาวจะดูบอบบาง แต่ในตอนนี้ แววตาของนางกลับแน่วแน่ขึ้นอย่างมาก ราวกับว่านางได้ตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้ว
สีหน้าของเยี่ยชิวค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้น
“แปลกจริง ระฆังใบนี้มีที่มาอย่างไรกัน ถึงขนาดที่แม้แต่พี่สาวปริศนายังเอาชนะมันไม่ได้?”
“หรือจะลองใช้ดาบเซวียนหยวนดี?”
“ดาบเซวียนหยวนถึงแม้จะคมกริบไร้เทียมทาน แต่ไร้ซึ่งวิญญาณดาบ ก็ไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาได้”
“อีกอย่าง ระฆังใบนี้ยังสามารถกักขังข้าไว้ได้ แสดงว่ามันเป็นสมบัติที่ไม่ธรรมดา หากถูกดาบเซวียนหยวนแทงทะลุไป คงน่าเสียดายแย่ สู้ถามเหล่าจิ่วดีกว่า!”
“เหล่าจิ่ว เหล่าจิ่ว…”
เยี่ยชิวพยายามสื่อสารกับเหล่าจิ่วอีกครั้ง
ทว่า โลงศพเลือดแดง กลับนิ่งสนิท
“เหล่าจิ่ว เจ้าตื่นเถอะ ข้าถูกขังไว้แล้ว หากเจ้ายังทอดทิ้งไม่ช่วยอีก ข้าจะต้องตายแน่ๆ” เยี่ยชิวกล่าว
แต่ใครจะรู้ โลงศพเลือดแดง ก็ยังคงนิ่งเฉย
ไม่รู้ว่าเหล่าจิ่วหลับไปแล้ว หรือจงใจไม่สนใจเยี่ยชิว สรุปก็คือ ไม่มีข่าวคราวใดๆ
“เหล่าจิ่ว หากเจ้าไม่ยอมออกมา ระวังข้าจะจุดไฟเผาโลงศพเลือดแดงเสียเลย!” เยี่ยชิวขู่
ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ
“ดูท่าแล้ว เหล่าจิ่วคงจะยังหลับใหลอยู่ ข้าคงต้องหาวิธีด้วยตัวเองเสียแล้ว”
เยี่ยชิวเริ่มครุ่นคิดในสมอง ว่าจะใช้วิธีไหนจึงจะสามารถออกจากที่นี่ไปได้?
จะดีที่สุดคือ หากสามารถทำได้โดยไม่ทำลายระฆังใบนี้
คิดไปคิดมา เยี่ยชิวก็ยังหาวิธีที่ดีที่สุดไม่ได้
“อรหันต์?” เยี่ยชิวสงสัย
เหล่าจิ่วกล่าวว่า “เขาพระสุเมรุมีวิชาลับอย่างหนึ่ง พระที่ฝึกวิชาลับนี้จะไม่มีแก่นวิญญาณ ร่างกายเป็นอมตะ ฟันแทงไม่เข้า ไม่รู้สึกเจ็บปวด พวกเขาไม่กินอาหาร แต่ดำรงชีวิตด้วยการดูดเลือด เรียกพวกเขาว่าอรหันต์”
“พวกเขาจะเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายเท่านั้น”
“พูดง่ายๆ ก็คือ วิชาลับนี้เป็นวิชาหุ่นเชิดนั่นเอง”
เหล่าจิ่วกล่าวว่า “เมื่อหลายปีก่อน เขาพระสุเมรุมีพระปีศาจองค์หนึ่งเกิดขึ้นมา บุคคลนี้มีพรสวรรค์เป็นเลิศ แต่ไม่เลือกเดินในทางที่ถูกต้อง กลับมุ่งแต่ศึกษาวิชามาร”
“วิชาลับในการฝึกอรหันต์นี้ก็เป็นสิ่งที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้นมา”
“วิชามารนี้สร้างความเดือดร้อนมากมาย หลังจากที่พระผู้ใหญ่แห่งเขาพระสุเมรุได้รู้เรื่องเข้า ก็ผนึกพระปีศาจและทำลายวิชาลับนั้นทิ้งไป”
“ไม่คิดเลยว่า หลังจากผ่านไปนานหลายปี วัดสายฟ้าใหญ่จะมีพระอรหันต์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง น่าสนใจจริงๆ น่าสนใจ”
เยี่ยชิวถามว่า “เหล่าจิ่ว ที่เจ้าพูดถึงเขาพระสุเมรุเมื่อครู่ คือภูเขาวิญญาณใช่หรือไม่?”
“ไม่ใช่” เหล่าจิ่วกล่าวว่า “เมื่อหลายปีก่อน ซีมั่วมีแต่เขาพระสุเมรุ ไม่มีภูเขาวิญญาณ”
“เขาพระสุเมรุต่างหากที่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายพุทธที่แท้จริง”
“พระสงฆ์อาวุโสแห่งภูเขาวิญญาณในปัจจุบัน เมื่อก่อนก็เคยบวชที่เขาพระสุเมรุนี่แหละ หลังจากนั้นเขาได้ทรยศต่อเขาพระสุเมรุ สังหารศิษย์ร่วมสำนัก แล้วก่อตั้งภูเขาวิญญาณ สร้างวัดสายฟ้าใหญ่ขึ้นมา แทนที่ตำแหน่งของเขาพระสุเมรุในใจของบรรดาผู้ฝึกพุทธในซีมั่ว”
เยี่ยชิวกล่าวว่า “เจ้าพระสงฆ์อาวุโสแห่งภูเขาวิญญาณนี่มันทรยศอาจารย์และบรรพบุรุษจริงๆ ไม่ใช่คนดีเลย”
เหล่าจิ่วกล่าวว่า “ร่างกายของข้าไม่สมบูรณ์ มีหลายเรื่องที่ข้าจำไม่ได้แล้ว แต่ข้ารู้สึกว่า ด้วยพลังของพระสงฆ์อาวุโสแห่งภูเขาวิญญาณ ไม่น่าจะสามารถทำลายเขาพระสุเมรุได้เลย”
“เขาพระสุเมรุถึงแม้จะเสื่อมถอยลงไปมากแล้ว พลังไม่เหมือนเมื่อก่อน แต่ถึงกระนั้น พลังของพวกเขาก็ยังใกล้เคียงกับสำนักปู่เทียนที่เพิ่งถูกทำลายไปเมื่อไม่นานมานี้”
“ไม่ต้องพูดถึงพระสงฆ์อาวุโสแห่งภูเขาวิญญาณในตอนนั้น แม้แต่พลังของเขาในตอนนี้ ก็ไม่สามารถทำลายเขาพระสุเมรุได้”
“ข้าคิดว่า บนตัวของพระสงฆ์อาวุโสแห่งภูเขาวิญญาณจะต้องซ่อนความลับที่ไม่มีใครรู้ไว้อย่างแน่นอน”
“เจ้าหนู หากในอนาคตเจ้าไปซีมั่ว ต้องระวังพระสงฆ์อาวุโสแห่งภูเขาวิญญาณให้มาก”
เยี่ยชิวกล่าวว่า “อย่าเพิ่งพูดถึงพระสงฆ์อาวุโสแห่งภูเขาวิญญาณเลย เจ้าช่วยข้าคิดหาวิธีหน่อย ว่าจะออกไปได้อย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...