ตอน บทที่ 2345 วาสนากับตัวซวย จาก วิสารทแพทย์เทวัญ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 2345 วาสนากับตัวซวย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายความสามารถแปลก วิสารทแพทย์เทวัญ ที่เขียนโดย หูหยานล่วนหยู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“เพี๊ยะ!”
อมตะชางเหม่ยตบไปที่ระฆังเหล็ก แต่ใครจะรู้ ครั้งนี้ฝ่ามือกลับตีวืดไป เพราะระฆังเหล็กพลันลอยขึ้นไปบนอากาศ
วินาทีถัดมา เยี่ยชิวกับหญิงสาวก็จับมือกันเดินออกมาจากข้างใน
“ไอ้เด็กเปรต!”
“ท่านอาจารย์!”
อมตะชางเหม่ยกับต้าลี่ร้องออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ
“เอ๊ะ พวกเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” เยี่ยชิวเห็นคนทั้งสอง ก็ถามด้วยความสงสัย
ต้าลี่กล่าวว่า “พวกเราสงสัยว่าท่านอาจารย์อยู่ในระฆังเหล็ก ก็เลยพยายามหาวิธีเปิดระฆัง แต่ใครจะรู้ว่าระฆังใบนี้ทั้งหนักทั้งแข็ง เปิดไม่ได้เลย”
ล้อเล่นน่า! นี่มันเทพศาสตราแห่งมิติระดับสูงสุดนะ พวกเจ้าจะเปิดได้อย่างไรกัน?
“ไอ้แก่ เจ้าเป็นอะไรไป? ทำไมหัวถึงมีเลือดเยอะขนาดนั้น?” เยี่ยชิวถาม
“เรื่องนี้ค่อยพูดทีหลัง ตอนนี้ระฆังใบนี้เป็นสมบัติ ข้าต้องได้มันมาครอบครองก่อน” อมตะชางเหม่ยกล่าวจบ ก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ ตบระฆังเหล็กอย่างไม่หยุดยั้ง ทว่าระฆังเหล็กกลับนิ่งสนิท
“บ้าที่สุด! เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”
“เมื่อก่อนมีปฏิกิริยาตอบสนองชัดๆ ทำไมตอนนี้กลับไม่มีแล้ว?”
“จะเล่นตัวอะไรนักหนา?”
อมตะชางเหม่ยด่าระฆังเหล็ก
“ไอ้แก่ อย่าเปลืองแรงเลย ระฆังใบนี้ไม่ใช่ของเจ้า” เยี่ยชิวกล่าว
“ไอ้เด็กเปรต! เจ้าหมายความว่าอะไร?” อมตะชางเหม่ยพูดอย่างไม่พอใจ “ไม่ใช่ของข้า แล้วจะเป็นของเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
เยี่ยชิวพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “เจ้าพูดถูกแล้ว ระฆังใบนี้เป็นของข้าจริงๆ”
“ตอแหล!” อมตะชางเหม่ยกล่าว “ข้างบนก็ไม่ได้เขียนชื่อเจ้าไว้ แล้วจะเป็นของเจ้าได้อย่างไร?”
“ไอ้เด็กเปรต ข้าจะบอกอะไรให้นะ ข้ารู้ว่าเจ้ากับคุณหนูโหรวเอ๋อร์ถูกขังอยู่ในระฆังเหล็ก เพื่อช่วยพวกเจ้า ข้าถึงได้หัวแตกเลือดไหล ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าห้ามแย่งสมบัติของข้าไปเด็ดขาด”
“ระฆังใบนี้ ข้าจะต้องเอาให้ได้”
พูดจบ อมตะชางเหม่ยก็ใช้สารพัดวิธีเพื่อพยายามครอบครองระฆังแห่งความโกลาหล ทว่าระฆังแห่งความโกลาหลกลับนิ่งเฉย
“ท่านระฆัง โปรดเมตตาเถิด ได้โปรดคล้อยตามข้าเถิด!”
อมตะชางเหม่ยเริ่มวิงวอน
ตอนนี้เขาดูเหมือนสุนัขรับใช้อย่างยิ่ง ขณะที่ระฆังเหล็กนั้น เหมือนกับฆาตกรที่ไร้อารมณ์ ไม่มีความรู้สึกใดๆ
“ไอ้แก่ อย่าเปลืองแรงเลย ระฆังใบนี้เป็นของข้าตั้งนานแล้ว”
เยี่ยชิวกล่าวจบก็ยื่นฝ่ามือออกไป พร้อมกับตะโกนว่า “เล็กลง!”
อื้อออ!
ระฆังแห่งความโกลาหลหดเล็กลงทันทีราวกับถ้วยน้ำชา ลอยลงมาจากฟ้า แล้วตกลงบนฝ่ามือของเยี่ยชิว
“ฉิบ!”
อมตะชางเหม่ยเห็นภาพนี้ ก็โมโหจัด สบถออกมาว่า “ไอ้เด็กเปรต! แกอีกแล้วนะ แกแย่งสมบัติของข้าไปอีกแล้ว!”
“ข้าเป็นคนเจอเจ้ามันก่อนแท้ๆ”
“รีบเอามันมาให้ข้าเดี๋ยวนี้”
เยี่ยชิวหัวเราะ “ให้เจ้าก็ได้ แต่ข้ากลัวเจ้าจะควบคุมมันไม่ได้”
“อย่าพูดมาก รีบเอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นระวังข้าจะไม่ไว้หน้าเจ้า!” อมตะชางเหม่ยตะคอก
“ก็ได้!” เยี่ยชิวโยนฝ่ามือขึ้น ระฆังแห่งความโกลาหลก็ลอยไปหาอมตะชางเหม่ย
“แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย” อมตะชางเหม่ยยิ้มร่าเริง เลียนแบบเยี่ยชิว เขายื่นฝ่ามือข้างหนึ่งออกไปรับระฆังแห่งความโกลาหล
ใครจะรู้ว่า ทันทีที่ระฆังแห่งความโกลาหลตกลงบนฝ่ามือของเขา มันก็ขยายใหญ่ขึ้นด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และหนักขึ้นเรื่อยๆ
ฝ่ามือของอมตะชางเหม่ยถึงกับบิดเบี้ยวผิดรูป
ยิ่งกว่านั้น ระฆังแห่งความโกลาหลยังคงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“ไอ้แก่ ปล่อยมือเถอะนะ เจ้าควบคุมมันไม่ได้จริงๆ” เยี่ยชิวเตือนด้วยความหวังดี
“อืม” ต้าลี่พยักหน้า แล้วถามว่า “ท่านอาจารย์ แล้วปีศาจโลหิตเล่า?”
“ตายแล้ว” แม้เยี่ยชิวจะไม่ได้เห็นปีศาจโลหิตตายด้วยตาตัวเอง แต่เขาส่งไฟพิเศษระดับจักรพรรดิเข้าไปในร่างกายของปีศาจโลหิต เขาเชื่อว่าปีศาจโลหิตนั้นไม่มีทางรอดไปได้
ต้าลี่ถามอีกว่า “ท่านอาจารย์ ท่านกับคุณหนูโหรวเอ๋อร์ไปอยู่ในระฆังเหล็กได้อย่างไร? พวกท่านไม่เป็นอะไรนะ?”
เยี่ยชิวหัวเราะ “ไม่เพียงไม่เป็นอะไร แต่ยังสบายดีด้วยซ้ำ”
ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของหญิงสาวก็แดงก่ำเล็กน้อย รีบก้มหน้าลงทันที
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว พวกเราออกไปกันเถอะ!” ต้าลี่กล่าว
“อืม ได้เวลาออกไปแล้ว” เยี่ยชิวประคองหญิงสาว แล้วเดินออกจากถ้ำ
ออกมาแล้ว เห็นอมตะชางเหม่ยนั่งยองๆ อยู่ไม่ไกล กอดอก เหมือนภรรยาตัวน้อยที่โดนรังแก มองเยี่ยชิวด้วยสายตาเศร้าสร้อย
“พอได้แล้ว เมื่อก่อนที่ตงฮวง เจ้าก็ได้สมบัติมาตั้งมากมายแล้ว อย่ามาทำเป็นเศร้าสร้อยเลย” เยี่ยชิวกล่าว “เดี๋ยวครั้งหน้าเจอสมบัติ ข้าจะยกให้เจ้าเอง ดีไหม?”
อมตะชางเหม่ยพูดด้วยปราณแค้นเต็มเปี่ยมว่า “นี่เจ้าพูดเองนะ หากครั้งหน้าเจ้ายังมาแย่งสมบัติของข้าไปอีก ข้าจะตัดขาดกับเจ้า!”
“ไปกันเถอะ กลับจวนเจ้าเมือง” เยี่ยชิวกล่าวจบก็โอบเอวหญิงสาว แล้วเหินไปในอากาศ
“เต้าจ่าง ท่านอาจารย์ไปแล้ว พวกเราก็ไปกันเถอะ” ต้าลี่กล่าว
อมตะชางเหม่ยมองแผ่นหลังของเยี่ยชิวที่จากไปอย่างลับๆ กัดฟันกรอดๆ แล้วกล่าวว่า “ต้าลี่ เจ้าดูสิ โอบเอวกันแล้ว พวกเขาทั้งสองคนต้องมีความสัมพันธ์กันแน่นอน”
“ไอ้เด็กเปรตคนนี้ แย่งสมบัติของข้าไปแล้วยังไม่พอ ยังได้สาวงามกลับมาอีก”
“เพราะอะไร?”
“ข้าโมโหจะตายแล้ว!”
ต้าลี่ปลอบใจว่า “เต้าจ่าง เจ้าอย่าโกรธเลย ก็ใครใช้ให้ท่านอาจารย์ของข้าหล่อเล่า”
ความโมโหที่อมตะชางเหม่ยเพิ่งจะกดเอาไว้เมื่อครู่ ก็พลุ่งขึ้นมาอีกครั้ง เขาจ้องเขม็งไปที่ต้าลี่ แล้วตะคอกว่า “ต้าลี่! แกมันหมายความว่าอะไร? แกจะบอกว่าข้าหน้าตาอัปลักษณ์อย่างนั้นหรือ?”
“ทำไม? พูดความจริงก็ผิดหรือ?” ต้าลี่กล่าวจบก็เหินจากไปในอากาศเช่นกัน
“ฮึ่ม! รู้อยู่แล้วว่าชอบรังแกข้า” อมตะชางเหม่ยด่าหนึ่งที แล้วรีบตามไปอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...