พระดำรัสของฮ่องเต้ต้าโจวที่ตรัสออกมานี้ สร้างความตกตะลึงแก่ผู้คนทั้งปวง
“ให้หนิงอันเฝ้ารักษาด่านเยี่ยนหนาน นางจะทำได้หรือ?” อู่วั่นโจวกล่าว “หากเป็นเรื่องแต่งกลอนบรรยายเพลง หนิงอันย่อมไม่มีปัญหา แต่ที่นั่นคือสมรภูมินะพ่ะย่ะค่ะ!”
อู่เชียนฟานขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางกล่าวว่า “เสด็จพ่อ ทรงมีพระประสงค์ให้เยี่ยฉังเซิงติดตามหนิงอันไปเฝ้ารักษาด้วยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“ไม่” ฮ่องเต้ต้าโจวส่ายพระเศียร พลางตรัสว่า “เราเตรียมบัญชาการทหารฝีมือเยี่ยมสามแสนนายติดตามหนิงอันไปเฝ้ารักษาด่านเยี่ยนหนาน ส่วนทหารฝีมือเยี่ยมที่เหลืออีกแสนนาย ให้เฝ้ารักษาเมืองหลวง”
อู่วั่นโจวและอู่เชียนฟานต่างตกตะลึง
เมื่อครู่พวกเขาสมัครใจขอออกรบ แต่เสด็จพ่อกลับตรัสว่าพวกเขายังอ่อนด้อยเกินไป ไม่สามารถคุมทัพได้ แต่บัดนี้กลับส่งหนิงอันไปนำทัพ?
ในกระบอกน้ำเต้าของเสด็จพ่อ ซ่อนเร้นยาอะไรไว้กันแน่?
เยี่ยชิวมองฮ่องเต้ต้าโจวสองสามหน เขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง
“เสด็จพ่อ หนิงอันไม่เคยออกรบมาก่อน ให้นางเป็นผู้บัญชาการไม่เหมาะสมพ่ะย่ะค่ะ” อู่วั่นโจวกล่าว
“แล้วเจ้าเคยออกรบหรือยัง?” ฮ่องเต้ต้าโจวถาม
“ข้า...” อู่วั่นโจวหยุดไปชั่วขณะ แล้วกล่าวว่า “แม้ลูกจะมิเคยออกรบ แต่ลูกเป็นบุรุษ บุรุษเมื่อถึงสมรภูมิย่อมปรับตัวได้รวดเร็วพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ต้าโจวตรัส “ปรับตัวเข้ากับสมรภูมิแล้วได้ประโยชน์อันใด เราต้องการให้ด่านเยี่ยนหนานไร้ภยันตราย”
“ถึงหนิงอันจะมิเคยออกรบ แต่นางชำนาญตำราพิชัยสงคราม การจัดทัพและวางกลยุทธ์ แม้แต่นายพลหลี่ก็มิอาจเทียบนางได้”
“อย่ามองว่าหนิงอันเป็นเพียงสตรี นางมีสติปัญญาและกลยุทธ์อยู่ในอก เหนือกว่าพวกเจ้าสองคนนัก”
“เรื่องนี้มิต้องถกเถียงอีกต่อไป”
อู่วั่นโจวรีบมองไปที่โจวอู่หวังซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ขยิบตาเพื่อให้อู๋หวังยับยั้งฮ่องเต้ต้าโจว
“เจ้ามองข้าทำไม?” โจวอู่หวังกล่าว “บิดาเจ้าเป็นฮ่องเต้ บัดนี้ในต้าโจวเขาเป็นผู้กล่าวคำ”
ทันใดนั้น อู่ว่านโจวก็หน้าเจื่อนราวกับมะเขือถูกน้ำค้างแข็ง
ในฐานะองค์ชายใหญ่แห่งต้าโจว เขามุ่งหวังที่จะออกสู่สมรภูมิ หากชนะศึกครั้งนี้ได้ เขาย่อมได้รับเกียรติยศอันสูงส่ง และจะสามารถยืนยันฐานะรัชทายาทในอนาคตได้
แต่ไม่คาดคิดว่า ฮ่องเต้ต้าโจวจะไม่ทรงอนุญาต ยืนกรานที่จะส่งหนิงอันไปเฝ้ารักษาด่านเยี่ยนหนาน
“หนิงอันเป็นเพียงเด็กหญิงนางหนึ่ง ไม่มีพลังบำเพ็ญ ทั้งไม่เคยมีประสบการณ์ในการนำทัพออกรบ ให้เฝ้ารักษาด่านเยี่ยนหนาน เช่นนี้มิใช่เป็นการทำให้วุ่นวายหรือ?”
แม้อู่วั่นโจวจะคับข้องใจ แต่บนใบหน้ากลับไม่กล้าแสดงออกมาแม้แต่น้อย
เขารู้จักเสด็จพ่อของเขาดีนัก หากแสดงความไม่พอใจในตอนนี้ เขาย่อมถูกโบยตีอย่างหนักเป็นแน่
“ฝ่าบาท!”
ในขณะนั้น ลุงซูรีบร้อนเข้ามาจากภายนอก ข้างกายเขายังมีข่งเทียนเซี่ยติดตามมาด้วย
เมื่อเห็นข่งเทียนเซี่ย เยี่ยชิวก็หัวเราะออกมา เขาสัมผัสได้ถึงจุดประสงค์ของฮ่องเต้ต้าโจวแล้ว
ลุงซูรายงาน “ฝ่าบาท นายน้อยข่งมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ถวายบังคมฝ่าบาท” ข่งเทียนเซี่ยโค้งคำนับเล็กน้อย พลางกล่าวว่า “ฝ่าบาท ทรงเรียกข้ามาในยามดึกดื่น มิทราบด้วยเรื่องอันใดพ่ะย่ะค่ะ?”
“อาการของศิษย์น้องของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” ฮ่องเต้ต้าโจวถาม
ข่งเทียนเซี่ยตอบว่า “ศิษย์น้องยังไม่ฟื้นสติเลยตั้งแต่หมดสติไปเมื่อกลางวัน ชีพจรสงบพ่ะย่ะค่ะ ไม่น่าเป็นอันใดมาก”
“ดีแล้ว” ฮ่องเต้ต้าโจวกล่าว “ที่เรียกเจ้ามากลางดึกเช่นนี้ เรามีเรื่องจะขอให้เจ้าช่วยเรื่องหนึ่ง”
“ฝ่าบาทโปรดตรัส”
ฮ่องเต้ต้าโจวกล่าว “เจ้าเป็นศิษย์พี่ของหนิงอัน ไม่ว่าเมื่อใด เจ้าจะปกป้องหนิงอันให้ปลอดภัยใช่หรือไม่?”
“ย่อมเป็นเช่นนั้น” ข่งเทียนเซี่ยกล่าว “หนิงอันเป็นศิษย์น้องเล็กของข้า ในฐานะศิษย์พี่ ปกป้องนางให้ปลอดภัย เป็นหน้าที่ที่ข้าไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
“แต่ว่า ศิษย์น้องเล็กมิได้มีพี่เยี่ยปกป้องอยู่แล้วหรือ?”
ฮ่องเต้ต้าโจวจึงเล่าเรื่องการเปิดศึกของต้าเว่ยโดยย่อ แล้วกล่าวว่า “เราเตรียมส่งหนิงอันนำทัพสามแสนนาย ไปเฝ้ารักษาด่านเยี่ยนหนาน”
“แม้เราจะรู้ว่าหนิงอันมีกลยุทธ์อยู่ในอก แต่นางไม่เคยออกสู่สมรภูมิ เราหวังว่าเจ้าจะช่วยเหลือนาง”
ฮ่องเต้ต้าโจวเห็นว่าเรื่องนี้ตกลงกันได้แล้ว ก็ตรัสว่า “เสี่ยวข่ง พรุ่งนี้เช้าเจ้าจะต้องนำทัพออกเดินทาง เวลาก็ไม่เช้าแล้ว เจ้าจงรีบกลับไปพักผ่อนเถิด!”
“พ่ะย่ะค่ะ” ข่งเทียนเซี่ยทักทายกับเยี่ยชิว แล้วออกจากตำหนักไป
เขาจากไป อู่วั่นโจวก็กล่าวขึ้นทันที “เสด็จพ่อ ข่งเทียนเซี่ยเป็นเพียงหนอนหนังสือ ไม่รู้วิธีนำทัพออกรบเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“อีกทั้ง เขาก็เพิ่งจะทะลวงถึงจุดสูงสุดของปราชญ์ ไม่แน่ว่าจะปกป้องหนิงอันได้ปลอดภัย”
“ให้หนิงอันนำทัพนับว่าเป็นความเสี่ยงยิ่งนัก ให้ลูกไปดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้ต้าโจวกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เจ้ามันรู้บ้าอะไรกัน! ไปไกลๆ หน้าข้าเลย!”
“เสด็จพ่อ...” อู่วั่นโจวยังจะพูดต่อ ฮ่องเต้ต้าโจวก็เบิกพระเนตรกว้าง “ไป!”
อู่วั่นโจวจำต้องเดินจากไปอย่างไม่เต็มใจ
“เชียนฟาน พรุ่งนี้เช้า เจ้ากับพี่ใหญ่ของเจ้าเริ่มออกตรวจตราเมือง เมืองหลวงเป็นสถานที่สำคัญ ห้ามเกิดข้อผิดพลาดใดๆ โดยเด็ดขาด” ฮ่องเต้ต้าโจวบัญชา
“พ่ะย่ะค่ะ” อู่เชียนฟานตอบรับ
“พอแล้ว เจ้าไปพักผ่อนได้แล้ว อาบน้ำอาบท่าเสียหน่อย ตัวเหม็นหึ่งแล้ว” ฮ่องเต้ต้าโจวโบกพระหัตถ์
“ลูกขอทูลลา” อู่เชียนฟานก็จากไป
บัดนี้ ภายในตำหนัก เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
“ท่านลุง ช่างเป็นกลอุบายที่ยอดเยี่ยมนัก!” เยี่ยชิวกล่าวพลางยิ้ม
“เจ้าดูออกแล้วหรือ?” ฮ่องเต้ต้าโจวหัวเราะ
“ชัดเจนถึงเพียงนี้ ข้าจะดูไม่ออกได้อย่างไร?” เยี่ยชิวกล่าว “ให้ข่งเทียนเซี่ยช่วยหนิงอันเฝ้ารักษาด่านเยี่ยนหนาน นี่เท่ากับเอาฟูจื่อไปย่างบนกองไฟเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”
“ฟูจื่อฝากความหวังไว้กับข่งเทียนเซี่ยอย่างมาก ทั้งยังรักหนิงอันมาก ในฐานะท่านอาจารย์ ฟูจื่อก็คิดไม่ออกว่าจะไม่ลงมือได้อย่างไร”
“ช่างเป็นกลบังคับให้จนตรอกที่แยบยลนัก!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 261-281 ทำไมมีตอนละไม่กี่บรรทัด...
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...