หลังจากที่เยี่ยชิวได้พักผ่อนมาทั้งคืน พอตื่นตอนเช้ามาก็เลยรู้สึกกระปรี้กระเปร่า
แปดโมงเช้า
ถังเฟยเคาะประตูห้องเยี่ยชิว และนำเสื้อผ้ามาให้เขา
“วันนี้จะต้องไปบ้านตระกูลไป๋ ดังนั้นเลยต้องแต่งตัวเป็นทางการหน่อย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่นายปรากฏตัวต่อหน้าคนใหญ่คนโตในปักกิ่ง” ถังเฟยยื่นชุดเสื้อคอจีนสีขาวให้กับเยี่ยชิว และบอกว่า “กลัวว่านายจะไม่ชอบใส่สูท ฉันเลยซื้อชุดคลุมยาวมาให้นายด้วย นายไปลองใส่ดูสิ ”
"ขอบใจ"
เยี่ยชิวหยิบเสื้อผ้า แล้วเข้าห้องเพื่อไปเปลี่ยนชุด เมื่อเขาออกมาอีกครั้ง ข้างนอกนั้นไม่ได้มีอยู่ถังเฟยเท่านั้น แต่หลงเยี่ยก็อยู่ที่นี่ด้วย
ทันใดนั้น ถังเฟยและหลงเยี่ยต่างก็ต้องตะลึงงัน
พอเห็นรูปร่างอันเพรียวบางของเยี่ยชิวใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาประดุจหยกเนื้อดี ดวงตาสดใสดุจดั่งดวงดาว จมูกทรงหยดน้ำ ยิ่งเขาใส่เสื้อคอจีนสีขาวด้วยแล้ว เผยให้เห็นถึงความสง่างามอย่างเหลือล้น ราวกับเทพบุตร
“พวกนายเป็นอะไร?”
เมื่อเห็นถังเฟยและหลงเยี่ยมองเขาอย่างว่างเปล่า เยี่ยชิวก็ถามด้วยความสงสัย
ถังเฟยกลับมามีสติ และอุทานว่า: "ไม่พูดก็ต้องพูด ‘ไก่งามเพราะคน คนงามเพราะแต่ง’ ประโยคนี่คงจะจริงสินะ พอนายใส่ชุดนี้แล้ว จู่ๆฉันก็นึกถึงกวีบทหนึ่งขึ้นมา "งดงามดั่งหยกเนื้อดี หล่อเหลาหาผู้ใดเปรียบมิได้”
สายตาของหลงเยี่ยสื่อถึงความอิจฉาสุดๆ และถามว่า "เยี่ยชิว หน้านายใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอะไรด้วยสินะ?”
เยี่ยชิวส่ายหัว "ฉันไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเลยต่างหาก"
“แล้วทำไมผิวนายถึงได้ดีขนาดนี้?
"เกิดมาก็เป็นอย่างนี้เลย"
น่าหมั่นไส้ โดนเขาเล่นตัวใส่อีกละ
หลงเยี่ยกัดฟัน และอยากจะชกหน้าเยี่ยชิว ไอ้บ้าเอ้ย ไม่เล่นตัวแล้วจะตายมั้ย!
“ไปทานอาหารเช้ากันเถอะ” ถังเฟยกล่าว
เยี่ยชิวถามว่า: "ฉันจะต้องไปทักทายเทพแห่งสงครามรึเปล่า?"
“ไม่ต้องไปหรอก ไปก็เท่านั้น”
"ทำไม?"
ถังเฟยกล่าวว่า: "เทพแห่งสงครามนอนไม่ค่อยหลับ ตอนเวลากลางคืนเขาเป็นคนนอนหลับยาก และเขามักจะนอนไม่หลับแบบนี้ทั้งคืน และพอถึงตอนเช้าเขาถึงจะได้นอนสักกี่ชั่วโมงเท่านั้น"
“แค่นี้อ่ะนะ” เยี่ยชิวบ่น “ทำไมนายไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้ล่ะ ถ้ารู้ให้เร็วกว่านี้ล่ะก็เมื่อคืนนี้ฉันจะได้ไปฝังเข็มให้เทพแห่งสงครามสักหน่อย แบบนั้นเขาก็คงจะนอนหลับได้”
“เมื่อคืนไม่ได้มีเรื่องให้จัดการเยอะไม่ใช่รึไง? เลยลืมไปน่ะ รอนายจัดการธุระในมือให้เสร็จก่อน ก็ไม่สายเกินไปที่จะไปฝังเข็มให้เทพแห่งสงครามหรอก ไปกัน ไปกินข้าวเช้ากันเถอะ”
หลังจากที่ถังเฟยพูดจบ เขาก็พาเยี่ยชิวและหลงเยี่ยตรงไปที่โรงอาหาร
วังซาตานเป็นหน่วยรบพิเศษที่ลึกลับที่สุดของกองทัพ ฐานทัพแห่งนี้สร้างขึ้นใต้ดินลึก 200 เมตร และสามารถทนต่อแผ่นดินไหวขนาด 10 ริกเตอร์ได้ หรือแม้แต่การโจมตีจากระเบิดนิวเคลียร์
แม้ว่าจะเป็นชั้นใต้ดิน แต่สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่นี่ก็ครบครัน นอกจากสถานที่ฝึกซ้อมประจำวัน เช่น ห้องต่อสู้ และห้องยิงปืนแล้ว ยังมียิม สระว่ายน้ำ ห้องเล่นเกม... เยี่ยชิวยังเห็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ฐานทัพอีกด้วย
กล่าวโดยสรุป สถานที่แห่งนี้สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของสมาชิกได้อย่างครบถ้วน
เมื่อประกอบกับการออกแบบถนนสีเขียวและระบบระบายอากาศที่ดีเยี่ยม ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าการอยู่ที่นี่กับการอยู่บนพื้นดินก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันเท่าไหร่
ถังเฟยแนะนำเยี่ยชิว: "ที่ที่เราอยู่ตอนนี้คือเขตพื้นที่ชีวิตประจำวัน มีโรงอาหาร หอพัก และสถานที่สำหรับออกกำลังกายและพักผ่อนต่างก็อยู่กันตรงนี้ นี่เป็นพื้นที่ที่เล็กที่สุดในหกเขตพื้นที่ในวังซาตานของเรา"
อะไรนะ ที่อยู่ตรงหน้านี้ อย่างน้อยก็สักหนึ่งพันตารางเมตรได้แล้วนะ นี่เรียกว่ายังเล็กที่สุดอีกเหรอ?
เยี่ยชิวตกตะลึง
ถังเฟยกล่าวว่า “อีกห้าเขตพื้นที่ ได้แก่ คลังอาวุธ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ สนามฝึกนักรบ สนามบินใต้ดิน และสำนักงานใหญ่”
“แม้ว่าวังซาตานะถูกสร้างขึ้นใต้ดิน แต่มันก็ใหญ่มาก ในเวลาสั้นๆนี้ฉันไม่สามารถแนะนำให้นายรู้จักได้ทั้งหมดหรอก รอนายว่างเมื่อไหร่ ฉันจะพานายไปดูพื้นที่อื่นๆละกัน”
ถังเฟยยิ้มและพูดว่า "ตอนนี้เรามากินข้าวเช้ากันก่อนเถอะ กินเสร็จแล้วจะได้ไปบ้านตระกูลไป๋"
ทั้งสามคนมาถึงที่โรงอาหาร
เมื่อเข้ามา สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนก็มองมาทางเยี่ยชิว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...