เวลาที่เยี่ยชิวกลับมาถึงบ้าน แม่เยี่ยก็ทำกับข้าวเตรียมไว้เสร็จแล้ว
เห็นเยี่ยชิวเปียกปอนทั้งตัว แม่เยี่ยยิ้มพลางพูดถาม“ชิวเอ๋อร์ ทำไมลูกถึงตัวเปียกแบบนี้ละ คงไม่ใช่ตกลงไปในทะเลสาบจิ้งใช่ไหม?”
“แม่ แม่เก่งมาก นี่ก็ถูกแม่รู้จนได้”
“ตกลงไปในทะเลสาบจิ้งจริงๆเหรอ?”แม่เยี่ยสีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา“รีบบอกแม่มา เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เยี่ยชิวก็นำเรื่องที่ตัวเองช่วยชีวิตคนที่ทะเลสาบจิ้งให้แม่ฟังอีกครั้ง
หลังจากที่ได้ฟัง แม่เยี่ยก็ยกนิ้วให้แล้วพูด“ลูกทำดีมาก ช่วยหนึ่งชีวิตบุญกุศลมากกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น แต่ว่าชิวเอ๋อร์ ต่อไปถ้าเจอเรื่องแบบนี้ ต้องระวังให้มาก ต้องระวังความปลอดภัย ”
“ผมรู้แล้วครับ”
“รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ แล้วค่อยมากินข้าว”
“ครับ”
แม่ของเยี่ยชิวชื่อเฉียนจิ้งหลาน เป็นคนซูโจว สำหรับวงศ์ตระกูลของแม่ เยี่ยชิวรู้เพียงเล็กน้อย เมื่อก่อนเคยได้ยินจากปากของเฉียนจิ้งหลาน แม่ของเขาเกิดในตระกูลใหญ่
ส่วนเรื่องตระกูลใหญ่แค่ไหน เยี่ยชิวไม่รู้ และไม่อยากจะรู้ ถึงขั้น ในใจของเขาเกลียดตระกูลนี้มาก
ถ้าไม่ใช่ตระกูลนี้ไร้ความเมตตา ไล่เฉียนจิ้งหลานออกจากตระกูล ชีวิตของพวกเขาสองแม่ลูกคงจะไม่รันทดขนาดนี่
แต่แน่นอน เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เยี่ยชิวเกลียดพ่อตัวเองมากกว่า
หลายปีแล้ว พ่อของเขาไม่เคยมาหาพวกเขา ไม่ได้สนใจว่าพวกเขาสองแม่ลูกจะเป็นหรือจะตายโดยสิ้นเชิง
เยี่ยชิวคิดว่า ผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้ ไม่คู่ควรที่จะอยู่บนโลกนี้!
เฉียนจิ้งหลานตัวคนเดียว เลี้ยงดูเยี่ยชิวจนโต หลายปีมานี้ก็พบกับความลำบากมาก จนกระทั่งเพิ่งจะอายุสี่สิบกว่าปี จอนผมก็ปรากฏผมหงอกแล้ว
เวลาที่กินข้าว หลายครั้งที่คำพูดของเยี่ยชิวติดอยู่ที่ข้างปาก และกลืนลงไป
เขาอยากจะถามมากว่า พ่อแท้ๆของตัวเองเป็นใครกันแน่?
แต่เมื่อเห็นผมขาวที่จอนของแม่และตีนกาลึกที่หางตา เขาก็อดทนไว้
“เยี่ยเอ๋อร์ ช่วงนี้ทำไมไม่เห็นลี่ลี่ละ พวกเธอมีปัญหากันอีกแล้วใช่ไหม?”เฉียนจิ้งหลานพูดถาม
“ไม่ได้มีปัญหากัน เธองานยุ่ง”เยี่ยชิวพูดโกหก เขาไม่กล้าบอกเฉียนจิ้งหลานไปตามตรง ว่าจางลี่ลี่ทรยศเขาแล้ว
ในสายตาของเฉียนจิ้งหลาน ปฏิบัติต่อจางลี่ลี่เหมือนเป็นลูกสะใภ้มานานแล้ว ถ้าหากรู้ว่าจางลี่ลี่ทรยศเขา กลัวว่าเฉียนจิ้งหลานจะโกรธจนสลบไป
“ชิวเอ๋อร์ วันหลังพาลี่ลี่กลับมากินข้าวที่บ้าน แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ”เฉียนจิ้งหลานพูด
เยี่ยชิวมองเฉียนจิ้งหลานด้วยความสงสัย จึงถาม“แม่ แม่จะพูดเรื่องอะไรกับเธอ?”
“ยังจะพูดเรื่องอะไรอีกละ เป็นธรรมชาติที่จะพูดเรื่องแต่งงานของพวกเธอ!”เฉียนจิ้งหลานพูดพลางยิ้ม“พวกเธอสองคนคบกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจนถึงตอนนี้ ก็คบกันสองปีแล้ว ความรักก็มั่นคง แม่คิดจะหาโอกาส พบกับพ่อแม่ของลี่ลี่ นำเรื่องแต่งงานของพวกเธอจองไว้ ลูกคิดว่ายังไงบ้าง?”
“ผมคิดว่าไม่ยังไง”เยี่ยชิวพูดบ่นพึมพำในใจ“แม่ ผมกับลี่ลี่เพิ่งจะเรียนจบ เรื่องงานก็ยังไม่มั่นคง เรื่องแต่งงานไม่ต้องรีบร้อนหรอกครับ”
“ไม่รีบร้อนได้ยังไงละ ลูกชายของป้าหวังที่อยู่ข้างบ้านรุ่นราวคราวเดียวกับลูก เขาแต่งงานมีหลานให้อุ้มแล้ว”เฉียนจิ้งหลานพูด“เรื่องนี้ต้องฟังแม่ วันหลังกลับไปพาลี่ลี่มากินข้าวที่บ้าน แม่จะคุยกับเธอเอง”
เยี่ยชิวรู้สึกปวดหัวทันที
กินข้าวเสร็จแล้ว เขาก็รีบเข้านอน
นอนอยู่บนเตียง เยี่ยชิวก็นอนไม่หลับ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ ในสมองเหมือนกับภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำไปมาไม่หยุด นึกถึงจางลี่ลี่กับกัวเส่าชงอยู่ด้วยกัน เยี่ยชิวก็โกรธจนแทบทนไม่ไหว
“ต้องมีสักวัน ฉันให้เธอได้รู้ การทรยศฉันเป็นเรื่องที่เธอทำผิดพลาดที่สุดในชีวิต”
ในเมื่อนอนไม่หลับ ถ้าอย่างนั้นก็ถือโอกาสทำความเข้าใจกับของที่อยู่ในสมองเถอะ!
มรดกของบรรพบุรุษของตระกูลเยี่ย นอกจากสมุดเล่มนั้น《หนังสือคาถาเหมาซาน》ยังถ่ายทอดความรู้ด้านการแพทย์และศิลปะการต่อสู้มากมาย ยังมีวิชาล่องหนอื่นๆอีก
เยี่ยชิวหลับตาลง เริ่มฝึกฝนของเหล่านี้
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...