เมื่อเยี่ยชิวถามถึงเรื่องเมืองต้องห้ามขึ้นมา เทพแห่งสงครามก็ได้แต่ถอนหายใจ
"เมืองต้องห้ามเป็นสถานที่มีความพิเศษแห่งหนึ่ง ที่พวกเขาอยู่กันมาได้จนถึงทุกวันนี้เพราะมีเหตุผลทางประวัติศาสตร์และเหตุผลอื่นๆ ประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งอธิบายได้ยาก"
"แม้พวกเขาจะเป็นเพียงกลุ่มอำนาจกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ความสามารถและอำนาจของพวกเขาก็มากมายมหาศาลมาก"
"การดำเนินการของเมืองต้องห้ามนั้นเหมือนนักเลงอันธพาลที่ไม่ได้สนใจและแยแสต่ออำนาจทางโลกแม้แต่นิดเดียว แต่นั่นก็เป็นเพราะพวกเขามีความแข็งแกร่งมากพอ....ช่างเถอะ ไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว นายจะได้ไม่เก็บไปคิดมาก"
เทพแห่งสงครามกล่าว "เมืองต้องห้ามนอกจากจะมีหลงชีและหลงปาแล้วนั้น ยอดฝีมือระดับสูงอีกหลายคนต่างกำลังบำเพ็ญเพียรระยะเวลานานสุดสามถึงห้าปี และน้อยสุดก็หนึ่งหรือสองปีถึงจะออกมา"
"หากพวกเขาบำเพ็ญเพียรเสร็จเมื่อไร พวกเขาจะต้องมาคิดบัญชีแก้แค้นแทนหลงจิ่วอย่างแน่นอน"
"ฉะนั้นเยี่ยชิว หลังจากนี้นายจะต้องพยายามคิดทุกวิถีทางเพื่อทำให้วรยุทธ์ของนายพัฒนาบรรลุขั้นขึ้นก่อนที่คนเหล่านั้นจะบำเพ็ญเพียรเสร็จและออกมา"
เยี่ยชิวไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเมืองต้องห้ามเท่าไรนักจึงได้ถามออกไป "ทำยังไงถึงจะมีพลังความสามารถเพื่อป้องกันตัวเองได้?"
"อย่างน้อยต้องสู้กับฉันได้" เยี่ยหวู่ตี้กล่าว
สีหน้าของเยี่ยชิวเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองลงทันที
เยี่ยหวู่ตี้ฝึกฝนวรยุทธ์มาหลายสิบปีถึงมีวรยุทธ์สูงส่งระดับนี้ได้ หากจะให้เขาร้ายกาจได้เหมือนเยี่ยหวู่ตี้ภายในระยะเวลาเพียงสามหรือห้าปีคงเป็นเรื่องเพ้อฝันอย่างแน่นอน
"เทพแห่งสงคราม คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ผมต้องการทำอะไร?"
"ทำอะไร?"
เยี่ยชิวกล่าว "ผมแค่อยากอยู่เฉยๆ"
"สารเลว!" เยี่ยหวู่ตี้ตะโกนด่าทอและตำหนิออกไป "เป็นหนุ่มเป็นแน่นแต่กลับพูดมาได้ว่าอยากอยู่เฉยๆ นายต้องมีความทะเยอทะยานและกล้าหาญสิ"
"นายรู้ไหมว่าอะไรคือความรับผิดชอบ?"
"ขณะที่เกิดภัยอันตรายจะต้องมีคนกล้าเข้าไปเผชิญกับอันตรายเพื่อขจัดปัญหาให้ประชาชน เมื่อประเทศตกอยู่ในอันตรายก็จะมีคนที่จงรักภักดีมาแสดงความรับผิดชอบ เมื่อได้ทำงานหนักก็จะได้รับความไว้วางใจ"
"ต่อให้นายเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งก็ไม่สมควรที่จะอยู่เฉยไม่สนใจอะไร นายก็ควรจะลุกขึ้นสู้เพื่อประเทศและทุกคน"
"อีกอย่างนายเองก็ไม่ใช่คนธรรมดา ในตัวของนายยังมี....."
เยี่ยหวู่ตี้พูดถึงตรงนี้ก็หยุดลง
"มีอะไร?" เยี่ยชิวมองไปที่เยี่ยหวู่ตี้และถามด้วยรอยยิ้ม
"นาย ในตัวของนายยังมีความปรารถนาที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ในฐานะที่เป็นทหารของวังซาตาน นายควรจะแสดงความกล้าหาญมีความรับผิดชอบและเรียกร้องความสงบสุขให้กับประชาชนและประเทศ!"
เชอะ!
เยี่ยชิวเบะปาก
เขารู้ดีว่าอันที่จริงแล้วเยี่ยหวู่ตี้ต้องการบอกเขาว่าในตัวของเขายังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลเยี่ย ทว่าในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ เยี่ยหวู่ตี้กลับไม่ได้พูดคำนี้ออกมา
"เยี่ยชิว ฉันรู้ว่าสิ่งนี้ทำให้นายรู้สึกกดดันอย่างมาก แต่ถึงยังไงนายก็ต้องเผชิญหน้ากับมันและพยายามพัฒนาระดับวรยุทธ์ความแข็งแกร่งของตัวเอง"
"วันที่ผู้อาวุโสของเมืองต้องห้ามเสร็จสิ้นการบำเพ็ญเพียรเมื่อไรก็จะเป็นวันตัดสินความเป็นความตาย"
"ถึงตอนนั้นจะมีชีวิตรอดหรือต้องตายก็คงต้องมาคอยดูกัน"
เทพแห่งสงครามแสดงสีหน้ากังวลใจ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเมืองต้องห้ามเองก็ทำให้เขารู้สึกกดดันอยู่มาก
เดิมทีเยี่ยชิวคิดอยากจะถามอะไรอีก แต่เมื่อเห็นว่าเทพแห่งสงครามเหมือนไม่อยากพูดอะไรก็เลยไม่ได้ถามออกไป
"เยี่ยชิว อาการบาดเจ็บของนายยังไม่หายดี พักฟื้นให้มากล่ะ ฉันกับหวู่ตี้ขอตัวกลับก่อน"
เทพแห่งสงครามหันไปส่งสายตาให้เยี่ยหวู่ตี้
เยี่ยหวู่ตี้เห็นเข้าก็เข็นเทพแห่งสงครามกลับออกไป เขาเพิ่งจะเปิดประตูออกไปก็ได้ยินเสียงของเยี่ยชิวร้องเรียกตามออกมา
"อาสาม ขอบคุณมาก!"
เยี่ยหวู่ตี้หยุดชะงักและตัวแข็งทื่อทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...