วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 512

เยี่ยชิวทำการปล่อยกำลังภายในในสู่ร่างกายของอมตะชางเหม่ยเพื่อคิดจะกระตุ้นการทำงานภายในร่างกายของอมตะชางเหม่ย

ทว่ากลับไม่เป็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้

"ไม่มีประโยชน์ อาการต้านนี้เปรียบเสมือนกับอาการบาดเจ็บในสมัยโบราณ หากคิดจะรักษาให้หายถือเป็นเรื่องยากอย่างมาก" อมตะชางเหม่ยกล่าว

เยี่ยชิวหยิบเข็มสีทองขึ้นมาสามเล่มและทำการฝังเข็มไปตามจุดชีพจรบนศีรษะโดยไม่สนใจ

แต่ผลลัพธ์กลับเป็นเหมือนเดิม เข็มสีทองกลับไม่สามารถทำอะไรกับอาการต้านนี้ได้เลย

ทำไมถึงเป็นแบบนี้?

เยี่ยชิวรู้สึกเศร้าหมอง

อมตะชางเหม่ยดึงเข็มออกพร้อมกับกล่าวออกไป "อย่าเสียเวลาอีกเลย ฉันรู้อาการของตัวเองดี"

"ผู้อาวุโส ขอโทษด้วย....."

อมตะชางเหม่ยหัวเราะออกมาโดยไม่รอให้เยี่ยชิวพูดจบ "นายขอโทษฉันทำไมกัน ชีวิตคนเรามีกันแค่ครั้งเดียว ถึงยังไงวันนั้นก็ต้องมาถึง"

"แต่ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะผม คุณก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้ ผมผิดเอง"

เยี่ยชิวมองไปที่อมตะชางเหม่ยพร้อมกับพูดออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง "ผู้อาวุโสวางใจได้ ผมจะต้องหาวิธีรักษาคุณให้ได้อย่างแน่นอน"

"จะเป็นหรือตายก็แล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิต"

อมตะชางเหม่ยพูดจบก็ลุกขึ้นยืน "นายเคยไปที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ไหม?"

เยี่ยชิวส่ายหน้า

"ไปกันฉันหน่อยได้ไหม ฉันยังไม่รู้เลยว่ามหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศเป็นยังไง"

อมตะชางเหม่ยพูดจบก็เดินนำออกไปก่อน

อดพูดไม่ได้ว่าอาคารสิ่งก่อสร้างภายในมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่นั้นมีความสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก บรรยากาศของที่นั่นเต็มไปด้วยวิชาการที่เข้มข้น

ไม่นานพวกเขาก็มาถึงศาลาโบราณสองหลังที่สง่างาม

ตรงกลางศาลาโบราณมีแผ่นจารึกแนวนอนแขวนอยู่ โดยมีคำว่า "มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่" เขียนอยู่ ซึ่งสวยงามและสง่างามมาก

บนเสาสีแดงทั้งสองด้านมีบทกวีคู่ห้อยอยู่

"แสงจากภูเขาที่อยู่นอกธรณีประตูเป็นสถานที่พิเศษที่มีการเปลี่ยนแปลงนับพันครั้งในสี่ฤดู เงาเมฆในหน้าต่างเคลื่อนตัวจากตะวันออกไปตะวันตก เหนือและใต้ และนี่คือดินแดนแห่งสวรรค์"

ช่างเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!

"ไม่แปลกใจเลยที่เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ แถมยังมีสภาพแวดล้อมที่ดีมากอีกด้วย"

"บทกวีนี้เขียนได้ดีมาก เทียบได้กับบทกวีของนักพรตเต๋าได้เลย"

"หากอนาคตนายมีลูกก็ให้ลูกนายเข้าเรียนที่นี่สิ.....ปัดโธ่ นายไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยเหรอ?"

อมตะชางเหม่ยหันกลับไปมองเยี่ยชิวพร้อมกับขมวดคิ้วบ่น "นายทำหน้าเศร้าให้ใครดูกัน"

"ฉันยังไม่ตายซะหน่อย"

"ฉันจะบอกนายให้นะ ถ้านายยังทำหน้าเศร้าอีก ฉันจะกระโดดถีบนายเลยคอยดู!"

เยี่ยชิวพยายามฝืนยิ้มออกมา

เมื่อสักครู่เขากำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่บรรพบุรุษของตระกูลเยี่ยหลงเหลือเอาไว้และสิ่งที่น่าเสียดายก็คือ กลับไม่สามารถหาอะไรที่มาช่วยรักษาอมตะชางเหม่ยได้เลย

สิ่งนี้ทำให้เยี่ยชิวรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก!

แม้ว่าปกติแล้วอมตะชางเหม่ยจะไม่มีประโยชน์อะไรเท่าไร แต่สำหรับเยี่ยชิวแล้ว อมตะชางเหม่ยคือเพื่อนของเขาคนหนึ่ง เป็นเพื่อนที่สามารถฝากชีวิตไว้

และหากไม่ใช่เป็นเพราะเขา อมตะชางเหม่ยก็คงไม่ต้องประสบปัญหาที่หนักหนาขนาดนี้ สิ่งนี้ทำให้เยี่ยชิวรู้สึกผิดในใจอย่างมาก

"ไปกันเถอะ เข้าไปดูข้างในกัน"

อมตะชางเหม่ยพาเยี่ยชิวเดินเข้าไปข้างในจนมาถึงบริเวณสระบัว

เมื่อมองออกไปก็เห็นดอกบัวกำลังบานสะพรั่งพร้อมกับส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณ

อมตะชางเหม่ยชื่นชมกับบรรยากาศความสวยงามตรงหน้าอยู่นานโดยไม่พูดอะไร

เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ