ใบหน้าของจินหลิงหลิงเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอรีบลุกขึ้นยืนและก้าวออกไป
เยี่ยชิวพยักหน้าเป็นการขอบคุณและเดินไปห้องน้ำ
เขาไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าใบหน้าของจินหลิงหลิงที่อยู่ข้างหลังเขาตอนนี้น่าเกลียดมาก เต็มไปด้วยความหงุดหงิด ความอาย และความโกรธ...
ตอนนี้ จินหลิงหลิงอยากจะขุดพื้นแล้วมุดหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด
ตั้งแต่เธอเดบิวต์มา เธอไม่เคยอับอายเช่นนี้มาก่อน และเธอก็รู้สึกหงุดหงิดมากเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นเยี่ยชิวยังพูดเสียงดังอีก อย่างน้อยๆ คนที่นั่งอยู่แถวหน้าและเเถวหลังก็ต้องได้ยินเสียงเขาแน่ๆ
“เขาจงใจทำมันสินะ”
จินหลิงหลิงจ้องมองไปที่แผ่นหลังของเยี่ยชิวด้วยความหงุดหงิดและไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
เธอเชื่อว่าด้วยรูปร่างและชื่อเสียงของเธอ ไม่มีผู้ชายคนไหนในประเทศจีนที่ไม่รู้จักเธอ ดังนั้นเยี่ยชิวจงใจที่จะทำให้เธออับอาย
ยิ่งนึกถึงเรื่องนี้ จินหลิงหลิงก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
“ไอคนสารเลว ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ”
“ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ”
“ฉันก็ต้องทำให้เขาอับอายเหมือนกัน”
จินหลิงหลิงแอบกำหมัดของเธอไว้แน่น
ในฐานะคนดัง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือใบหน้า
ดวงตาของจินหลิงหลิงหันไปตกลงที่ไป๋ปิง และเธอก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
เธอมัวแต่ถ่ายรูปไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้าง ดังนั้นเธอเพิ่งจะสังเกตเห็นไป๋ปิง
เมื่อเธอเห็นใบหน้าและรูปร่างของไป๋ปิง จินหลิงหลิงก็ถึงกับตกตะลึงอีกครั้ง
น่าทึ่ง
น่าทึ่งมาก!
จากนั้นความอิจฉาริษยาก็ปรากฏขึ้นในใจของเธอ
จินหลิงหลิง รู้ดีว่าสาเหตุส่วนใหญ่ที่เธอกลายเป็นเทพธิดาโอตาคุได้ก็เพราะรูปร่างที่ร้อนแรงของเธอ
คนอื่นไม่รู้ มีแต่ตัวเธอเองรู้ดีว่าสาเหตุที่รูปร่างของเธอดูดีมากก็เพราะว่าเธอได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ที่โรงพยาบาลความงามชั้นนำในเกาหลีก่อนที่เธอจะเดบิวต์ สิ่งที่เธอทำ ได้เเก่ เสริมจมูก เสริมริมฝีปาก ดูดไขมัน ใช้ไฮยาลูโรนิก ฉีดผิว เติมซิลิโคน...
จนทุกวันนี้ จินหลิงหลิงยังมีช่วงที่เธอหายตัวไปจากสาธารณะเป็นระยะเวลาหนึ่ง เธอเรียกมันว่าวันหยุด แต่จริงๆแล้วเธอไปเพิ่มเติมความงามที่โรงพยาบาลเสริมความงามในเกาหลี
เมื่อเธอมองไปที่ไป๋ปิงที่อยู่ตรงหน้า จินหลิงหลิงก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
“ในโลกใบนี้ ยังมีคนสวยแบบนี้ได้ยังไงกัน”
“เธอสวยมาก รูปร่างดี ดูท่านิสัยก็น่าจะดีด้วย และดูเหมือนว่าตัวเธอจะไม่ได้ผ่านการทำศัลยกรรมใดๆเลย มันเหลือเชื่อมาก”
“อยากเป็นเธอจัง ถ้าเป็นได้ก็คงไม่ต้องเสียเงินหลายล้านไปเสริมความงามอยู่ทุกๆปี”
“เอาไว้ก่อน ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะพูดคุยกับผู้ชายคนเมื่อกี้ พวกเขามาด้วยกันหรอ?”
เมื่อจินหลิงหลิงนึกถึงเรื่องนี้ เธอก็ตรงไปนั่งข้างๆไป๋ปิง
“สวัสดีค่ะ คุณช่วยนั่งที่อื่นได้ไหมคะ ตรงนี้เป็นที่แฟนของฉัน” ไป๋ปิงพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
เธอไม่ได้เป็นดาราใหญ่เท่าจินหลิงหลิง ดังนั้นน้ำเสียงที่เธอใช้จึงดูสุภาพ
ไป๋ปิงไม่เคยใฝ่ฝันที่จะเป็นดารา เธอเป็นหมอและแสวงหาความจริงทางวิทยาศาสตร์
ยิ่งไปกว่านั้น ในสายตาของเธอ ดาราหญิงอย่างจินหลิงหลิง แต่งตัวเปิดเผยเนื้อหนังจนแทบไม่มีอะไรปิดไว้ ก็ไม่ต่างจากสาวขายบริการ
“คนสวย ฉันขอแนะนำตัวเองหน่อยนะ ฉันจินหลิงหลิง”
หลังจากที่จินหลิงหลิงพูดจบ เธอเห็นว่าไป๋ปิงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เธอก็พูดต่อ: "เอาแบบนี้ ฉันคิดว่าคุณดูดีเลยทีเดียว รูปร่างของคุณก็ดีมาก ฉันสนใจจะพาคุณเข้าสู่วงการบันเทิง คุณว่าไง? "
เด็กผู้หญิงธรรมดาคงจะตื่นเต้นเนื้อตัวแตก ถ้าได้ยินดาราดังพูดแบบนี้ใส่ด้วยตัวของเธอเอง
แต่กับไป๋ปิง เธอไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาเลย
“ไม่สนใจค่ะ” ใบหน้าของไป๋ปิงมีแต่ความเย็นชาเย็นชา
“คุณไม่อยากมีชื่อเสียงเหรอ? ตราบใดที่ผู้หญิงมีชื่อเสียง เธอก็จะได้พบกับผู้ชายที่โดดเด่นมากมาย ผู้ชายคนนั้นไม่เห็นจะคู่ควรกับคุณเลย…”
“อย่ามาพูดพล่อยๆถึงแฟนฉันนะ” ก่อนที่จินหลิงหลิงจะพูดจบ ไป๋ปิงก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา: "ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะดีไปกว่าแฟนของฉันแล้ว"
จินหลิงหลิงหัวเราะ "ที่คุณพูดแบบนี้ ก็เพราะว่าคุณรู้จักพวกผู้ชายน้อยเกินไป ให้ฉันบอกคุณให้เอาบุญนะ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเข้าสู่วงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นชายหนุ่มรูปงาม หรือทายาทตระกูลดัง คนเหล่านั้นจะพยายามสายตัวแทบขาดเพียงเพื่อได้รู้จักกับคุณ”
ไป๋ปิงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า "ที่ฉันไม่อยากเข้าวงการบันเทิง รู้ไหมว่าทำไม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...