วันรุ่งขึ้น
สิบโมงเช้าที่สนามบินปักกิ่ง
เที่ยวบินโดยสารบินจากปักกิ่งไปเจียงโจว จะออกใน 5 นาที
ไป๋ปิงกล่าวขอโทษเยี่ยชิว "ต้องขอโทษด้วย ที่ฉันจองเที่ยวบินช้าไป เลยไม่มีที่นั่งชั้นเฟิร์สคราสหรือชั้นบิสสิเนส"
เยี่ยชิวจับมือไป๋ปิงและพูดด้วยรอยยิ้ม "มันไม่สำคัญหรอก ขอแค่ได้นั่งกับคุณ ชั้นไหนผมก็นั่งได้"
เมื่อไป๋ปิงได้ยินสิ่งที่เขาพูด เธอก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที
“คุณปู่เตรียมการอะไรไว้บ้าง” เยี่ยชิวถาม
ไป๋ปิงทำท่าทีจนปัญญาและพูดออกไปว่า "ปู่ของฉันไม่อยากกลับบ้าน และท่านก็ไม่อยากไปเจียงโจวกับฉัน ฉันเลยต้องไปขอความช่วยเหลือจากคุณถังให้พาปู่ของฉันไปที่บ้านพักคนชราเขตทหารในปักกิ่ง"
เยี่ยชิวกล่าวว่า: "แบบนั้นก็ดีแล้ว ถ้าคุณปู่กลับบ้าน อยู่คนเดียวก็คงจะเหงา ที่บ้านพักคนชรามีคนที่เกษียณแล้วจำนวนมากอยู่ที่นั้น หากท่านนายพลไป๋อยู่ด้วยกันกับพวกเขา ได้พูดคุยได้เล่นหมากรุกด้วยกัน ก็อาจจะช่วยให้หายเหงาได้บ้าง”
“ค่ะ” ไป๋ปิงตอบ “ไว้มีเวลาเราค่อยไปเยี่ยมคุณปู่กัน
ขณะที่รอ ไม่นานก็ถึงเวลาที่เครื่องบินต้องออก
แต่เครื่องบินกลับหยุดนิ่ง
ผู้โดยสารเริ่มพึมพำ:
"เกิดอะไรขึ้น?"
“ถึงเวลาเครื่องออกแล้ว ทำไมยังหยุดนิ่งอยู่?”
"ขณะนี้กำลังรีบดำเนินการค่ะ"
ขณะนี้ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินในชุดยูนิฟอร์มมายังห้องโดยสารพร้อมรอยยิ้มอย่างมืออาชีพบนใบหน้าของเธอและกล่าวว่า: "เรียนผู้โดยสารทุกท่าน ทางสายการบินต้องขออภัย เนื่องจากว่ายังมีผู้โดยสายขึ้นเครื่องไม่ครบ เราจึงยังไม่สามารถนำเครื่องขึ้นได้ค่ะ”
เยี่ยชิวเหลือบมองที่นั่งข้างเขา
ในเเถวที่เขานั่ง รวมที่นั่งพวกเขามีด้วยกันสามแถว
ที่นั่งข้างๆ เขาตรงทางเดินยังว่างอยู่ แสดงว่าผู้โดยสายที่ยังไม่ได้ขึ้นเครื่องนั่งอยู่ข้างๆเขา
เมื่อได้ยิน ผู้โดยสารต่างก็ไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม
“มันสมเหตุสมผลงั้นหรอ ที่พวกเราตั้งหลายคนต้องมารอคนเพียงคนเดียว?”
“จัดการเวลาไม่ได้เอง แล้วจะมาขึ้นเครื่องบินทำไม?”
“โชคร้ายจริงๆ ที่ได้บินกับคนแบบนี้”
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจึงกล่าวต่อ: "ต้องขออภัยทุกท่าน ผู้โดยสารท่านนี้เป็นลูกค้าวีไอพีของสายการบินเรา ดังนั้นตามกฎระเบียบ เราจึงจำเป็นต้องรอให้ผู้โดยสารท่านนี้ มาถึงก่อนจึงจะออกเดินทางได้"
“ดิฉันรู้ว่าเรื่องนี้ทำให้การเดินทางของทุกท่านล่าช้า เพื่อเป็นการขอโทษ ทางเราได้เตรียมของว่างและเครื่องดื่มไว้ให้ท่านโดยเฉพาะค่ะ”
“จะนำแจกจ่ายให้ทุกท่านในเร็วๆนี้ ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับความเข้าใจ”
ผ่านไปประมาณห้านาที
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเริ่มเดินแจกขนมและเครื่องดื่ม
ขนมปังหนึ่งชิ้นและนมหนึ่งขวดสำหรับทุกคน
ซึ่งมันก็ทำให้ผู้โดยสารอารมณ์ดีขึ้น
หลังจากรอต่อไปอีกประมาณสี่สิบนาที ผู้โดยสารคนนั้นก็ยังมาไม่ถึงสักที และผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็เริ่มที่จะทนรอไม่ไหว
ขนาดเยี่ยชิวเองยังคิ้วขมวด
แม้ว่าเขาจะไม่รีบร้อนอะไร แต่มันก็ไม่มีเหตุผลที่จะเลื่อนเวลาออกเดินทางเพื่อรอคนๆเดียว
ไป๋ปิงเริ่มสังเกตเห็นว่าเยี่ยชิวดูไม่สบอารมณ์นัก จึงรีบหาเรื่องมาเปลี่ยนบรรยากาศและถามออกไปว่า "หลินจิงจื้อรู้หรือยังว่าคุณกลับไป?"
เยี่ยชิวส่ายหัว: "พี่หลินยังไม่รู้"
“คุณคงอยากจะทำให้เธอประหลาดใจ หึ สนิทสนมอะไรกันขนาดนั้น?” ไป๋ปิงกลอกตาไปที่เยี่ยชิว ทำท่าไม่พอใจเล็กน้อย
“อะไรกัน พี่ปิงหึงงั้นหรอครับ?”
"จะบ้าหรอ"
“ดูคุณสิ คุณทำหน้าบูดขนาดนี้ ยังกล้าปฏิเสธอีกนะ” เยี่ยชิวโอบเอวไป๋ปิงแล้วกระซิบข้างหูของเธอ: “ก็จริงอยู่ ที่ผมกับพี่หลินสนิทกันมาก แต่ถ้าคุณไม่รังเกียจ เราไปด้วยกันก็ได้นะ~"
“แหม ความคิดดีเหลือเกินนะพ่อคุณ!” ไป๋ปิงตะคอก
ขณะที่ทั้งสองคุยกัน ผู้โดยสารก็เริ่มโต้เถียงกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...