สิ่งที่เยี่ยชิวอยากรู้อยากเห็นมาโดยตลอด คือเยี่ยหวู่ซวงอยู่อันดับที่เท่าไหร่ของอันดับเทพ?
ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ยินเฉียนจิ้งหลานพูดว่าเยี่ยหวู่ซวงเก่งที่สุดในโลก แต่ชื่อของเยี่ยหวู่ซวงกลับไม่ได้อยู่ในอันดับมังกร ซึ่งหมายความว่าชื่อของเยี่ยหวู่ซวงจะต้องอยู่ในอันดับเทพเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงกว่าก็คือการที่เยี่ยหวู่ตี้ตอบกลับมาว่า: “พี่ใหญ่ไม่ได้อยู่ในอันดับเทพหรอกนะ”
“ไม่หรอครับ?” เมื่อได้ยิน เยี่ยชิวรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากจึงถามออกไปอีกว่า “พ่อแข็งแกร่งขนาดนั้น ชื่อของเขาจะไม่อยู่ในอันดับเทพได้ยังไงกัน?”
เยี่ยหวู่ตี้ส่ายหัว "ก็จริงอยู่ที่พลังของพี่ใหญ่นั้นแข็งแกร่งพอที่จะมีชื่ออยู่ในอันดับ"
“แล้วทำไมถึงไม่อยู่ในอันดับล่ะ?” เยี่ยชิวสงสัย
เยี่ยหวู่ตี้ยิ้มและพูดว่า: "เพราะการจัดอันดับเทพครั้งสุดท้าย คนที่ทำการจัดอันดับก็คือพี่ใหญ่น่ะสิ"
สุดยอด!
เยี่ยชิวถึงกับตกตะลึง
“และนี้เป็นเหตุผลที่เมืองต้องห้ามต้องการฆ่าพี่ใหญ่ นอกจากพวกมันจะต้องการแผนที่แล้ว เหตุผลที่สำคัญอีกประการก็คือพลังของพี่ใหญ่เป็นภัยคุกคามต่อพวกมัน” เยี่ยหวู่ตี้กล่าวต่อ: "ในปีนั้น พี่ใหญ่และหลงยี่แห่งเมืองต้องห้ามได้ต่อสู้กัน”
“ผลแพ้ชนะเป็นยังไง?” เยี่ยชิวถามอย่างกังวล
“พี่ใหญ่ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพียงครึ่งกระบวนท่า”
ตึกตัก!
หัวใจของเยี่ยชิวเต้นแรงจนสามารถได้ยิน
เมืองต้องห้ามเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดที่มีชีวิตอยู่มามากกว่าเจ็ดสิบปี สำหรับหลงยี่เขามีชีวิตอยู่มานานกว่าร้อยปีและยังเป็นปรมาจารย์ที่ไม่มีใครเทียบได้
ไม่มีใครคาดคิดว่าหลงยี่จะพ่ายแพ้ให้แก่พ่อของเขา
“แกไม่เคยเห็นการต่อสู้ของพ่อแกมาก่อน ไม่แปลกหรอกที่แกจะไม่รู้ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ฉันจะบอกแกให้รับรู้ไว้ ว่าตอนที่พี่ใหญ่ยังอยู่ แค่เขาเดินผ่านทุกคนก็ถึงกลับหวาดกลัว”
“คนเมืองต้องห้ามมักจะถือว่าตนเองเป็นปรมาจจารย์ที่เฝ้าดูโลกนี้มาช้านาน โดยเฉพาะหลงยี่ที่คิดว่าตนเองนั้นเป็นเทพเจ้า แต่สำหรับตัวฉัน ฉันไม่ได้หวังว่าจะสามารถเอาชนะพี่ใหญ่ได้”
“ตอนนั้นพี่ใหญ่ของฉันยังเด็กมาก เขามีอนาคตที่สดใส จึงทำให้ผู้คนในเมืองต้องห้ามต่างพากันตื่นตระหนก กลัวว่าเมื่อไหร่ที่เขาโตขึ้น เขาจะเป็นคนทำลายล้างทุกสิ่ง”
“ตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงต่างพากันหวาดกลัว เพราะในเวลานั้นพ่อของพวกเรามีอำนาจบารมีสูงส่ง และพี่ใหญ่ก็เจิดจรัสราวกับดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า จึงไม่มีใครกล้ามายุ่งกับตระกูลเยี่ยของเรา”
“สำหรับคนที่รุ่นราวคราวเดียวกัน พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกอับจนหนทาง หลายๆคนรู้สึกว่าตนเองชาตินี้ก็ไม่มีทางเอาชนะพี่ใหญ่ได้”
“แน่นอนว่ารวมถึงตัวฉันเองด้วย!”
เยี่ยหวู่ตี้กล่าวต่อ: "บอกตามตรงว่าฉันเองก็อิจฉาพี่ใหญ่ อิจฉาความแข็งแกร่งของเขาด้วย ตอนที่เขายังอยู่ ก็ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว แต่รวมถึงชายหนุ่มหญิงสาวทุกคนที่อยู่ในเมืองหลวง ไม่ว่าพวกเขาจะโดดเด่นแค่ไหน สุดท้ายก็โดนความแข็งแกร่งของเขาจัดการอยู่ดี ”
“ถ้าพี่ใหญ่เปรียบเสมือนดวงจันทร์บนท้องฟ้า พวกเราก็เป็นได้แค่หิ่งห้อยบนพื้นดิน”
“ดวงจันทร์สว่างไสวอยู่บนท้องฟ้า แสงริบหรี่ของหิ่งห้อยอย่างเราจะกล้าไปสู้ได้อย่างไร”
เมื่อเยี่ยหวู่ตี้พูดจบ สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่เยี่ยชิวและพูดขึ้นว่า: “ฉันเห็นเงาของพี่ใหญ่ในตัวแกนะ”
“บางทีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แกอาจจะกลายเป็นคนที่โดดเด่นจนเป็นที่รู้จักของทุกคน
“เยี่ยชิว เเกต้องสู้ต่อไป!”
คำพูดของเยี่ยหวู่ตี้ให้กำลังใจเยี่ยชิวเป็นอย่ามาก
เพราะคำพูดนั้นทำให้เยี่ยชิวตระหนักได้ว่า ก่อนที่จะมาเป็นนเยี่ยหวู่ซวงได้ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรค์ หนทางนั้นยังอีกยาวไกล
“อันดับหนึ่งของอันดับเทพคือหลงยี่หรือเปล่า?” เยี่ยชิวถามขึ้นอีกครั้ง
"ใช่" เยี่ยหวู่ตี้พยักหน้า "พี่ใหญ่เป็นคนที่ยุติธรรมมากในการจัดอันดับของอันดับเทพ หลงยี่มีชีวิตอยู่มาหลายร้อยปีแล้ว ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงไม่ธรรมดา"
“อาสาม ถ้าผมต้องเจอกับหลงอี้ตอนนี้ คิดว่าผมจะมีโอกาสชนะมากน้อยแค่ไหน?”
เยี่ยชิวอยากรู้ว่าหลงยี่นั้นแข็งแกร่งแค่ไหน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...