สามชั่วโมง!
เมื่อได้ยินที่เยี่ยชิวพูด สุ่ยเซิงก็หน้าถอดสีทันที
แม้ว่าเขาพอจะคาดการณ์ได้ตั้งนานแล้วว่าอมตะชางเหม่ยมีเวลาเหลืออีกไม่มาก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเหลือเวลาเพียงสามชั่วโมงเท่านั้น
"ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ตอนนั้นไม่ว่ายังไงผมก็จะคอยเฝ้าดูอาจารย์ไม่ให้เขาลงจากเขา เป็นความผิดของผมเอง ฮือๆๆ......"
สุ่ยเซิงร้องไห้ฟูมฟายด้วยความรู้สึกผิด
เยี่ยชิวรู้สึกแย่มาก
เดิมทีเขาคิดจะรักษาอมตะชางเหม่ยด้วยวิธียืดชีวิตของเขา แต่กลับพบว่าอาการของอมตะชางเหม่ยย่ำแย่มาก อวัยวะภายในของเขาค่อยๆ หยุดการทำงานซึ่งต่างไปจากโรคทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
ไม่มีหนทางรักษาตาแก่แล้วจริงเหรอ?
เยี่ยชิวหลับตาลงและพยายามคิดหาวิธีที่บรรพบุรุษตระกูลเยี่ยเคยบอกไว้เผื่อจะมีวิธีไหนที่สามารถมารักษาให้เขา
และในที่สุดเขาก็หาวิธีช่วยชีวิตมาได้สามสิบกว่าวิธี
แต่สิ่งที่ทำให้เยี่ยชิวรู้สึกหมดความหวังก็คือ ประสบการณ์ของเขาน้อยนิดมาก ฉะนั้นวิธีการช่วยชีวิตเหล่านั้นกลับไม่สามารถนำมาใช้การได้เลย
ทำยังไงดี?
จะรอดูตาเฒ่าจากไปแบบนี้เหรอ?
ฉันทำไม่ได้หรอก!
ทันใดนั้นเอง เยี่ยชิวก็นึกถึงชี่แท้โดยกำเนิดในตัวของเขา
"ชี่แท้โดยกำเนิดสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของฉันได้อย่างรวดเร็ว มันสามารถรักษาตาเฒ่าได้ไหมนะ?"
เยี่ยชิวเองก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จไหม ทว่าตอนนี้เขาไม่มีวิธีอื่นแล้วและทำได้เพียงลองดูสักครั้ง
เขารีบประสานฝ่ามือกับอมตะชางเหม่ยและถ่ายทอดชี่แท้โดยกำเนิดเข้าสู่ร่างกายของอมตะชางเหม่ย
เวลาผ่านไป
อมตะชางเหม่ยยังคงแน่นิ่งไม่ขยับและหลับตาสนิท สีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีทีท่าว่าจะมีสติกลับมาเลยสักนิด
เยี่ยชิวร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด
"ตาเฒ่า ขอโทษด้วยที่ผมทำให้คุณต้องเป็นแบบนี้"
เยี่ยชิวพึมพำอยู่ในใจ
ทันใดนั้นเอง อมตะชางเหม่ยที่หมดสติอยู่ก็ขยับร่างกายพร้อมกับมีเสียงไอกระแอมออกมา "แค่กๆ......"
เยี่ยชิวก้มลงมองและพบว่าใบหน้าที่ซีดเผือดของอมตะชางเหม่ยเริ่มมีสีแดงระเรื่อและดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เปลือกตาของเขาค่อยๆ ขยับราวกับว่าจะลืมตาขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
ชี่แท้โดยกำเนิดได้ผล!
เยี่ยชิวรู้สึกดีใจและรีบเช็ดน้ำตา
ขณะนี้เอง อมตะชางเหม่ยก็ลืมตาขึ้นมาและเมื่อเห็นว่าเยี่ยชิวอยู่ตรงหน้าก็พูดขึ้นมา "นายมาแล้วเหรอ?"
"อืม" เยี่ยชิวตอบและถามออกไป "ตาเฒ่า ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง?"
"จะรู้สึกยังไงได้ อีกไม่นานฉันต้องจากโลกนี้ไปแล้ว โชคดีเหลือเกินที่ได้เจอนายก่อนที่ฉันจะจากโลกนี้ไป....เอ๊ะ!"
อมตะชางเหม่ยร้องอุทานและจากนั้นก็กล่าวว่า "ทำไมฉันรู้สึกว่าในร่างกายของฉันมีพลังมากกว่าเมื่อก่อนอีก?"
เมื่อพูดจบอมตะชางเหม่ยก็ใช้สองมือประคองตัวเองลุกขึ้นนั่งที่เตียง
เมื่อเห็นถึงตรงนี้ สุ่ยเซิงก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
เพราะก่อนหน้านี้ที่อมตะชางเหม่ยหมดสติและฟื้นขึ้นมาและอยากจะลุกขึ้นนั่งล้วนแต่เป็นสุ่ยเซิงที่คอยประคองเขาให้ลุกขึ้นมา และต่อให้สุ่ยเซิงเข้ามาประคองก็ยากที่จะลุกขึ้นมานั่งได้
แต่ตอนนี้อมตะชางเหม่ยกลับลุกขึ้นมานั่งได้ด้วยตัวเอง เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก
หรือว่า......
สุ่ยเซิงนึกอะไรที่น่ากลัวขึ้นมาพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟาย
"ฉันยังไม่ตาย นายจะร้องไห้หาอะไร?" อมตะชางเหม่ยด่าทออย่างไม่สบอารมณ์
สุ่ยเซิงพูดออกมาขณะยังร้องไห้ "อาจารย์ อาจารย์อย่าฝืนอีกเลย อาการของอาจารย์ตอนนี้เขาเรียกว่าแสงสายัณห์ของตะวันรอน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...