เยี่ยชิวและเฉียนตัวตัวรีบเดินไปข้างหลังเฉียนซือยวี่
"พี่ พี่เป็นอะไร?"
เยี่ยชิวถามออกไป
เฉียนซือยวี่ตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงพร้อมกับรีบเช็ดน้ำตาและหันไปกล่าว "ไม่มีอะไร"
"พี่ซือยวี่ มีคนรังแกพี่ใช่ไหม? พี่บอกผมมา ผมจะช่วยพี่จัดการเขาคนนั้นเอง" เฉียนตัวตัวพูดเสียงดัง
"ฉันไม่เป็นอะไร"
เยี่ยชิวดูออกว่าเฉียนซือยวี่ไม่ยอมพูดออกมาพร้อมกับพูดปลอบ "พี่ ถ้าพี่เจอเรื่องไม่สบายใจอะไรก็บอกพวกเรามาได้เลย เราต่างก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน"
เฉียนซือยวี่ได้ยินประโยคนี้ก็รู้สึกซาบซึ้งใจจนน้ำตาคลอ
"ไม่มีอะไรจริงๆ ขอบคุณพวกนายมากนะ"
เฉียนซือยวี่พูดจบก็รีบเดินเข้าไปในห้องโถง
เธอเดินออกไปไม่เท่าไร เฉียนตัวตัวก็กล่าวขึ้นมา "พี่ซือยวี่จะต้องเจอเรื่องอะไรสักอย่างแน่ และต้องเป็นเรื่องใหญ่มากด้วย"
"นายรู้ได้ยังไง?" เยี่ยชิวถาม
เฉียนตัวตัวกล่าว "นายอย่าคิดว่าพี่ซือยวี่ดูอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง แต่ที่จริงแล้วพี่เขามีจิตใจที่แข็งแกร่งมากเลยนะ"
"ตั้งแต่เล็กจนโตฉันแทบไม่เคยเห็นพี่เขาร้องไห้เลยสักครั้ง"
"นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นพี่เขาร้องไห้หลังจากแต่งงานไป พี่เขาต้องเจอเรื่องอะไรเข้าแน่ๆ"
เยี่ยชิวถาม "สามีของพี่ซือยวี่ทำงานอะไรเหรอ? ทำไมคุณตาป่วยหนักขนาดนี้แล้วยังไม่เห็นเขากลับมา?"
คำถามนี้เขาอยากจะถามมาตั้งนานแล้ว
เมื่อสองวันก่อนที่ผู้อาวุโสเฉียนต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่จากโรคทีกำเริบขึ้นและอาจไม่รอดชีวิต ทุกคนในตระกูลเฉียนล้วนกลับมากันหมด มีเพียงเฉียนซือยวี่ที่กลับมาช้าสุดและยังมาพร้อมกับลูกสาวโดยไม่มีสามีของเธอตามกลับมาด้วย
เฉียนตัวตัวกล่าว "สามีของพี่ซือยวี่ชื่อเกาเฟย เมื่อก่อนเขาทำงานอยู่ที่หน่วยวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของรัฐ อายุได้สามสิบกว่าปีก็ขึ้นตำแหน่งระดับสูง ถือว่าอนาคตการงานของเขากำลังไปได้ดีเลยล่ะ"
"แต่ไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆ เขาก็ลาออกจากตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว บอกว่าจะออกมาทำธุรกิจของตัวเอง"
"เพราะเรื่องนี้เลยทำให้คุณลุงตำหนิเกาเฟยอย่างหนักมาครั้งหนึ่ง คุณปู่เองก็โกรธมากด้วย แถมยังบอกอีกว่าต่อไปห้ามเกาเฟยเข้ามาเหยียบที่บ้านตระกูลเฉียนอีก"
"เพราะคุณปู่ให้ความสำคัญกับเกาเฟยมาก และเดิมทีก็คิดรอให้เกาเฟยหาประสบการณ์จากตำแหน่งนั้นก่อนแล้วค่อยหาหนทางติดต่อเล่นเส้นสายเพื่อให้เกาเฟยขึ้นตำแหน่งระดับสูงขึ้นไปกว่าเดิม"
"หากเป็นไปตามที่คุณปู่วางแผนไว้ ตอนที่เกาเฟยอายุประมาณห้าสิบปีเขาก็จะได้กลายเป็นข้าราชการระดับสูงระดับภูมิภาค"
"แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันเช่นนี้ขึ้นมา"
"เกาเฟยเหมือนคนที่ถูกร่ายมนตร์สะกด เขาเอาแต่บอกว่าจะไปทำธุรกิจของตัวเองโดยไม่สนใจคำพูดของใครเลย และเพราะเหตุนี้ทำให้เขาและคุณปู่ทะเลาะกันจนแทบมองหน้ากันไม่ติด"
"ตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา เกาเฟยก็ไม่เคยได้กลับเข้ามาในตระกูลเฉียนอีกเลย"
"ปีใหม่เมื่อปีที่แล้ว พี่ซือยวี่ได้พาเกาเฟยพร้อมกับลูกสาวมาสวัสดีปีใหม่คุณปู่ แต่คุณปู่กลับไม่ยอมให้เข้าบ้าน ทำให้เกาเฟยต้องยืนรออยู่ข้างนอกนานกว่าหนึ่งชั่วโมง"
หัวโบราณชะมัดเลย!
เยี่ยชิวแอบบ่นผู้อาวุโสเฉียนในใจ
แต่เขาก็พอเข้าใจได้
เพราะตระกูลเฉียนเป็นตระกูลเก่าแก่โบราณ และในสายตาของผู้อาวุโสเฉียนนั้นเขายังคงให้ความสำคัญกับเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์อะไรเหล่านั้น ฉะนั้นเขาเลยมองว่าการทำการค้าหรือนักธุรกิจนั้นไม่ได้มีตำแหน่งหน้าตาทางสังคมเท่าไรนัก
และต่อให้ไม่ใช่ผู้อาวุโสเฉียน หากเป็นคนอื่นก็คงรู้สึกโกรธเช่นนี้เหมือนกัน
ลองคิดดูว่า เกาเฟยอายุน้อยแถมยังได้เลื่อนขั้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าได้เร็ว แต่กลับลาออกและบอกว่าจะไปทำธุรกิจ แบบนี้ไม่เรียกว่าบ้าจะให้เรียกว่าอะไรได้?
เยี่ยชิวกล่าว "ตัวตัว นายพูดแบบนี้ทำให้ฉันนึกอะไรขึ้นมาได้ พ่อของนายก็ทำธุรกิจ แต่ทำไมตอนนั้นคุณตาถึงยอมได้ล่ะ?"
"เฮ้อ เรื่องนี้จะโทษพ่อของฉันไม่ได้ เป็นเพราะเขาโชคไม่ดีต่างหาก"
เฉียนตัวตัวกล่าว "แม้ว่าพ่อของฉันจะไม่รวยเหมือนคุณลุง เขาถึงยังไงเขาก็จบปริญญาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังเชียวนะ"
"หลังจากที่เขาเรียนจบก็เป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ในมหาวิทยาลัย ใครจะไปรู้ว่าปีนั้นมีนักศึกษาของเขาคนหนึ่งกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะเรื่องนี้ทำให้มหาวิทยาลัยสั่งยุติการสอนของพ่อฉันลง"
"หลังจากที่เขาหยุดพักได้ไม่นานก็กลับไปสอนหนังสือในอีกมหาวิทยาลัย นักศึกษาคู่รักคู่หนึ่งในห้องเรียนมีปัญหากันและจากนั้นก็จบชีวิตลงเพราะปัญหาความสัมพันธ์"
"ทำให้พ่อของฉันถูกหยุดสอนอีกครั้ง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...