ฟูววว
สายลมหนาวส่งเสียงพัดผ่าน
เกล็ดหิมะต่างกำลังพัดพริ้วอย่างกระหน่ำ
เยี่ยชิวและคนอื่นๆส่งจิตสังหารขึ้นสู่บนท้องฟ้า และรีบวิ่งไปหาอาสมาน
"ฮ่าฮ่า ยังมีอีกสองคนสินะที่ฉันจะต้องส่งลงนรก ดีเลย"
อาสมานถือคทา ชี้ไปที่เยี่ยชิวและอีกห้าคนแล้วพูดอย่างเย่อหยิ่ง: "ฉันจะไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้ ฉันจะส่งพวกแกไปพร้อมกันให้หมดนี่เลย!"
“เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว แกยังกล้าที่จะเย่อหยิ่งอยู่อีกสินะ ดูเหมือนว่าถึงเวลาที่จะแสดงอะไรสนุกๆให้แกดูซะแล้ว”
หลังจากที่เซียวจิ่วพูดจบ เขาก็ยื่นดาบในมือให้เยี่ยชิว
เยี่ยชิวงงงัน
ไม่เข้าใจว่าเซียวจิ่วจะสื่อถึงอะไร?
“ดาบในมือนายนั้นแย่เกินไป ใช้ดาบของฉันเถอะ!” เซียวจิ่วกล่าวว่า: "แม้ว่าดาบของฉันจะไม่ดีเท่าดาบจักรพรรดิฉือเซียว แต่มันก็เปื้อนไปด้วยเลือดมานับไม่ถ้วน และยังเป็นดาบที่เหมาะสำหรับการฆ่าคนด้วย"
เยี่ยชิวถามว่า: "คุณให้ดาบผม แล้วคุณจะจัดการกับตาแก่นั่นยังไง?"
“อยากรู้งั้นเหรอ?” เซียวจิ่วยิ้มอย่างมีลับลมคมใน: "อีกเดี๋ยวนายก็จะได้รู้"
เซียวจิ่วยื่นดาบไปที่มือให้เยี่ยชิว จากนั้นเดินไปหาอาสมาน
ทุกย่างก้าวที่เขาก้าวไปข้างหน้า ดูเหมือนว่าออร่าพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แม้ว่าเซียวจิ่วจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่หลังของเขาก็ยังยืดตรงราวกับดาบศักดิ์สิทธิ์ และจะยอมสู้ตายดีกว่าจะยอมแพ้
ในเวลาเดียวกันนั้น
เซียวจิ่วเปล่งออร่าที่รุนแรงขึ้น และพลุ่งพล่านราวกับเสือสิงห์ที่พึ่งตื่นขึ้น
"ตึง!"
เซียวจิ่วตั้งใจจะจัดการภายในทีเดียว และทันใดนั้นก็มีเสียงดังเหมือนเสียงกลองสงครามตี เสียงดังสั่นสะเทือน และมีรอยแตกลึกปรากฏขึ้นบนพื้นทันที
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงเวลาเพียงชั่วครู่ เยี่ยชิวพบว่าจิตวิญญาณการต่อสู้ของเซียวจิ่วได้สูงถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ราวกับว่าเขาถูกครอบงำโดยเทพเจ้าแห่งสงคราม
เกล็ดหิมะที่กำลังร่วงโรยลงมา เมื่อพวกมันอยู่ห่างจากเสี่ยวจิ่วเพียงสองเมตร ต่างก็แตกออกเป็นชิ้นๆ
จิตสังหารนั่นถึงขั้นทำลายเกร็ดน้ำหิมะนั่นเลยทีเดียว!
ดวงตาอันเย็นชาของอาสมานฉายแววแปลกๆ ดูเหมือนกับ…
ตื่นเต้น!
ใช่ เขากำลังตื่นเต้น
เช่นเดียวตอนที่นักล่ารู้สึกเมื่อเห็นเหยื่อ
“ผู้ชนะเลิศโหว ในที่สุดนายก็จะใช้ไพ่ไม่ตายแล้วสินะ?”
“ดีมาก!”
“หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันคนนี้ต้องผิดหวัง”
ร่างกายของอาสมานยังปล่อยออร่าอันเยือกเย็นราวกับหลุดมาจากนรกทั้งเก้าซึ่งทำให้ผู้คนต้องตัวสั่นเลยทีเดียว
จากนั้น เขาก็ชี้คทาของเขาไปที่เซียวจิ่ว และตะโกนเสียงดัง: "เข้ามารับความตายซะเถอะ!"
อาสมาน ในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า เขาพูดว่า "นายเป็นแค่ปรมาจารย์อันดับเทพที่รอดเป็นคนสุดท้าย มีสิทธิอะไรมาตะโกนใส่ฉัน ไอ้ขยะ!"
ขยะ…
จะมีใครกล้าพูดแบบนี้กันวะ?
รู้ไหมว่า อาสมานเป็นปรมาจารย์อันดับที่สิบในอันดับเทพและเป็นหัวหน้าที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาสำนักพราหมณ์!
แล้วปกติจะมีใครกล้าเรียกเขาว่าขยะกันล่ะ?
แต่เซียวจิ่วกลับด่าไปแล้ว
เยี่ยชิวและคนอื่นๆ รู้สึกได้ว่าเลือดมันกำลังเดือดพลุ่งพล่าน และพวกเขาทั้งหมดรู้สึกถึงพลังครอบงำที่ไม่มีใครเทียบได้จากร่างของเซียวจิ่ว
พลังครอบงำนี้มาจากความมั่นใจในตนเองอย่างแรงกล้า
อาสมานพูดอย่างเย็นชา: "เหอะ เซียวจิ่ว นายเป็นคนแรกเลยนะที่กล้าเรียกฉันว่าไอ้ขยะ! แล้วนายจะต้องชดใช้กับคำพูดนั่นและการกระทำของนายอย่างแน่นอน!"
อย่างไรก็ตาม คำตอบตอบอาสมานนั้นมีเพียงคำเดียวเท่านั้น
“ฆ่า!”
เซียวจิ่วคำรามและพุ่งออกไป
อาสมันโจมตีเซียวจิ่วทันที
ทั้งสองต่างพุ่งชนกัน ราวกับดาวหางพุ่งชนโลก
การเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือดนี้
ในชั่วพริบตา ทั้งสองแลกใช้กระบวนท่าไปมากกว่าสามสิบกระบวนท่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...