เยี่ยชิวยืนอยู่ด้านนอกวิลล่า แต่ก่อนจะเข้าไปเขาก็หยุดกะทันหัน
“นี่คือบ้านของพ่อฉัน พ่อฉันก็อยู่ในนั้น”
ซวีจื้อหมิงอธิบายให้เยี่ยชิวฟัง จากนั้นเดินไปที่ประตูวิลล่า
เดินเพียงสองก้าว
เมื่อเห็นว่าเยี่ยชิวไม่ติดตามซวีจื้อหมิง จึงหันกลับไปกล่าว “เสี่ยวเยี่ย พ่อของฉันอยู่ข้างใน”
ดูเหมือนเยี่ยชิวจะไม่ได้ยินคำพูดของซวีจื้อหมิง และจ้องไปที่วิลล่าด้วยสายตาแปลกๆ
“เยี่ยชิว คุณกำลังดูอะไรอยู่?” ซูชางจินถาม
เยี่ยชิวกล่าว “พวกเธอรู้สึกไหมว่าอุณหภูมิที่นี่ต่ำกว่าที่อื่น”
ซูชางจินรู้นึกได้และพูดว่า “ที่นี่หนาวกว่าที่บ้านนิดหน่อย”
ซวีจื้อหมิงกล่าว “เสี่ยวเยี่ย คุณไม่รู้อะไรเลย มีบ่อปลาอยู่ด้านหลังบ้านพ่อของฉัน น่าจะเป็นบ่อปลา อุณหภูมิจึงต่ำกว่าที่อื่น”
เยี่ยชิวส่ายหัว “มันไม่เกี่ยวอะไรกับบ่อปลา”
ซ่งฮุ่ยเสียนถามทันที “เสี่ยวเยี่ย คุณคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้อุณหภูมิที่นี่ต่ำล่ะ?”
เยี่ยชิวกล่าว “พลังหยิน”
พลังหยิน?
เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของซวีจื้อหมิงและซ่งฮุ่ยเสียนก็เปลี่ยนไป
ทั้งคู่รู้จักวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมเป็นอย่างดี ดังนั้นพเขาจึงรู้ว่าพลังหยินคืออะไร
ซูชางจิไมไดสังเกตเห็นอะไรที่ผิดปกติจากใบหน้าของพ่อแม่เขา และถามอย่างสงสัย “เยี่ยชิว พลังหยินคืออะไร?”
เยี่ยชิวตอบ “พูดง่ายๆคือ มันเป็นเรื่องที่ไม่สะอาด”
ซูชางจินยี่วสับสนมากขึ้น “อะไรคือสิ่งที่ไม่สะอาด?”
เมื่อเห็นว่าเธอยังคงไม่เข้าใจ เยี่ยชิวจึงพูด “คุณเคยได้ยินเรื่องผีไหม พลังหยินเป็นเหมือนผี”
“อะไร?”
ใบหน้าของซูชางจินซีดลง ดวงตาของเขามีความกลัว เขาขยับตัวเข้าใกล้เยี่ยชิวโดยไม่รู้ตัว แล้วกอดแขนเยี่ยชิวแน่นด้วยมือทั้งสองข้าง
ซวีจื้อหมิง สังเกตเห็นแบบนั้น และมองไปที่ซูชางจินและเยี่ยชิวราวกับว่าเขาเข้าใจอะไรบางอย่าง
“เยี่ยชิว คุณกำลังบอกว่ามีผีอยู่ในบ้านของปู่เหรอ?” ซูชางจินถามอย่างกังวล
“ถ้าเป็นผีจริงๆก็คงแก้ได้ง่ายกว่า แต่เกรงว่าไม่ใช่”
ดวงตาของเยี่ยชิวจ้องมองไปที่วิลล่า
แล้วค่อยๆปิดตาลงเงียบๆ
ทันใดนั้น ชั้นหมอกสีดำหนาก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเยี่ยชิวราวกับม่านสีตำปกคลุมวิลล่า
นอกจากพลังหยินแล้ว เสี่ยยียยังรู้สึกถึงพลังหยินแห่งความตายอันแข็งแกร่งจากหมอกสีดำนั้นด้วย
“คุณลุงซู พาฉันไปพบกับผู้อาวุโสซูเถอะ!” เยี่ยชิวพูดพร้อมกับสายตาของเขา
“ได้” หลังจากที่ซวีจื้อหมิงพูดจบ เขาก็พาเยี่ยชิวเข้าไปในวิลล่า
เยี่ยชิวรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาเข้าไปในประตู
ในห้องนั่งเล่นมีคนประมาร20-30คน ดูจากเสื้อแล้ว คนเหล่านี้เป็นหมอ
หลังจากที่คนพวกนี้เจอกับซวีจื้อหมิง พวกเขาก็ทักทายอย่างอบอุ่น
“พวกเขาทั้งหมดเป็นหมอที่พ่อฉันชวนมารักษาคุณปู่ของฉัน ข้างบนก็มีหมอด้วย และข้างบนก็เป็นหมอเกาหลีทั้งนั้น” ซูชางจินพูดด้วยน้ำเสียงเบา
เยี่ยชิวพยักหน้าเล็กน้อยว่าเขาเข้าใจ
เขาเดินตามซวีจื้อหมิงไปชั้นที่สอง เหมือนที่ซวีจื้อหมิงกล่าวว่ามีแพทย์อย่างน้อย50-60คนในห้องนั่งเล่นที่กว้างขวาง
หลายคนเป็นชายชราผมขาว
ซวีจื้อหมิงหยุดพูดคุยกับแพทย์ แล้วพูดกับเยี่ยชิว “คนเหล่านี้เป็นแพทย์เกาหลีที่มีขื่อเสียงที่ฉันเชิญมาทั้งนั้น”
“พวกเขาอยู่ที่นี่มาสองสามวันแล้ว เพื่อวินิจฉัยพ่อของฉันทุกๆ 4 ชั่วโมง”
“ฉันถามพวกเขาแล้ว แต่ก็ไม่พบสาเหตุของอาการป่วยของพ่อฉัน”
“พวกเขายังบอกด้วย ว้าพ่อของฉันอาจมีชีวิตอยู่ได้เพียงสองสามวันเท่านั้น”
เมื่อซูชางจินได้ยินสิ่งนี้ น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาของเขา
เยี่ยชิวปลอบใจเขา “ฉันเชื่อมาโดยตลอดว่าไม่ว่าจะเป็นโรคอะไร ก็ต้องมีสาเหตุ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...