อมตะชางเหม่ยควักกระดองเต่าออกมาจากแขนเสื้อและถือเอาไว้ในมือ
เยี่ยชิวสังเกตเห็นว่าบนกระดองเต่านั้นมีจุดสีดำสลับขาว และสลักด้วยยันต์ 8 ทิศเอาไว้
ตาเฒ่านี้คิดจะทำอะไร?
ทำนายงั้นหรอ?
ยังไม่ทันที่เยี่ยชิวจะคิดจบ เขาก็เห็นอมตะชางเหม่ยเขย่ากระดองเต่าด้วยมือทั้งสองข้าง และมีเสียงดัง“ติงต่าง”ดังออกมา
สิบวินาทีต่อมา
อมตะชางเหม่ยก็ได้เปิดกระดองเต่าออก และเหรียญทองแดงสามเหรียญก็ตกลงบนพื้นเป็นรูป“เฉิง”
“เป็นยังไงบ้าง” เยี่ยชิวถามขึ้น
อมตะชางเหม่ยเก็บเหรียญทองแดงและกระดองเต่า พร้อมพูดอย่างมีความสุขว่า:“มันเป็นลางดี”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเยี่ยชิวก็เขียวขึ้นมา
เพราะว่าเขารู้จักอมตะชางเหม่ยเป็นอย่างดี ตาเฒ่านี้ดูดวงหรือทำนายอะไรไม่เคยแม่น ปกติแล้วต้องฟังและเชื่อฝั่งตรงกันข้ามที่อมตะชางเหม่ยทำนายเสมอ
ถ้าอมตะชางเหม่ยพูดว่าเป็นลางดี ก็เชื่อได้เลยว่าเกินครึ่งนั้นเป็นลางร้าย
“ไปกันเถอะ!”อมตะชางเหม่ยพูดและก้าวเดินไปข้างหน้า
เยี่ยชิวเดินตามหลังอมตะชางเหม่ย โดยกำหมัดด้วยมือขวาอย่างเงียบๆ เพื่อป้องกันอันตรายได้ตลอดเวลา
และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
พวกเขาเดินไปได้เพียงหนึ่งกิโลเมตรก็พบเจอกับหมาป่า
หมาป่านั้นมีขนาดใหญ่มาก ตัวของมันยาวกว่าสองเมตรเหมือนเสือดาว
“ตาเฒ่า นี้หรอลางดีที่ว่า”เยี่ยชิวพูดขึ้นอย่างถากถาง
อมตะชางเหม่ยยิ้มและพูดขึ้นว่า: “ก็แค่หมาป่า ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวล”
เยี่ยชิวพูดต่อว่า:“แต่เท่าที่ข้ารู้ หมาป่าเป็นสัตว์สังคม โดยปกติแล้วมันไม่ได้เดินตามลำพัง ไม่แน่อาจมีฝูงหมาป่าอยู่ที่นี่ก็เป็นได้”
อาวู้——
ทันใดนั้น หมาป่าก็ส่งเสียงหอนออกมา ตามด้วยเสียงหอนของหมาป่าในภูเขาและรอบป่า
“อาวู้——”
“อาวู้——”
เมื่ออมตะชางเหม่ยหันหน้าไปดูก็พบว่า อยู่ห่างไปไม่ไกลมีสายตาที่เปล่งแสงสีเขียวออกมาเป็นจนวนมาก
และสิ่งที่เปล่งแสงสีเขียวนั้นออกมาก็คือ สายตาของพวกหมาป่า
“ให้ตายเถอะ หมาป่ากำลังมา! เยี่ยชิวแกนี้มันปากหมาจริงๆ!”
อมตะชางเหม่ยพูดขึ้นพร้อมวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
เยี่ยชิวกำลังจะวิ่งตามไป แต่ในขณะนั้นเอง หมาป่าที่อยู่หน้าเขาก็กระโดดข้ามาและขวางทาง
“ออกไป!” เยี่ยชิวตะโกนอย่างหนักแน่น
หมาป่าไม่เพียงไม่ไม่หลีกทางให้แก่เยี่ยชิวท่านั้น มันยังแยกเขี้ยวให้แก่เยี่ยชิวด้วย ในดวงตาสีเขียวของมันเต็มด้วยแสงอันดุร้าย
“ล้นหาที่ตาย!”
เยี่ยชิวชกออกไป พลังอันมหาศาลนั้นก็ทำให้หมาป่ากระเด็นออกไป
“ปัง!”
หมาป่ากระเด็นไปชนกับต้นไม้แก่และมีเสียงดัง “บูม”ทันใดนั้นเองต้นไม้แก่ก็หักลงมาทันที
สำหรับหมาป่าตัวนั้น มันยังไม่ทันได้ส่งเสียงร้องออกมาเลยแม้แต่น้อย มันก็ตายทันที
ส่วนทางด้านเยี่ยชิวนั้นก็ไม่แม้ที่จะหันกลับไปมองเลย เขาก็วิ่งตามอมตะชางเหม่ยไปทันที
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงหอนของหมาป่าดังขึ้นมาอีก แต่ครั้งนี้เสียงนั้นทรงพลังมากกว่าเดิมมากนัก
เยี่ยชิววิ่งไปขำไป เขาพูดถากถางอย่างติดตลกขึ้นว่า:“ลางดีงั้นหรอ? ฮ่าฮ่า สมกับที่เป็นหมอดูที่เก่งที่สุดในยุทธภพ ทำนายได้แม่นจริงๆ”
อมตะชางเหม่ยพูดขึ้น:“ไอ่เด็กนี้ จะว่าโทษข้าได้ยังไงกัน?ถ้าเจ้าไม่ปากหมาล่ะก็ พวกหมาป่าก็ไม่โผล่มาหรอก”
เยี่ยชิวส่วนกลับ:“ตัวเองทำนายไม่แม่นเองยังจะมาโทษข้าอีก ช่างไร้ยางอายจริงๆ”
อมตะชางเหม่ยพูดอย่างข้างๆคูๆขึ้นว่า:“ยันต์นี้แสดงให้เห็นว่าเป็นลางดี มันแปลว่าเราจะได้พบเจอความชั่วร้ายก่อน แล้วร้ายนั้นจะกลายเป็นดี”
“ถึงแม้ว่าเมื่อสักครู่จะมีฝูงหมาป่าโผล่มา แต่พวกเราก็ไม่ได้รับอันตราย”
“แกยังจะหาว่าไม่ใช่ลางดีอีกหรอ?”
ไร้ยางอาย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...