ซั่งหลิงเจินเหรินสังเกตเห็นใบหน้าของเยี่ยชิวไม่ค่อยดีนัก เขาจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้นำเยี่ย ท่านไม่สบายหรือเปล่า?”
“แค่บาดเจ็บเล็กน้อยน่ะ ไม่ได้ร้ายแรงอะไรหรอก” เยี่ยชิวโกหกแบบผ่านไปที
ที่จริงแล้วเขาไม่สามารถบอกซั่งหลิงเจินเหรินว่า อาจารย์ที่เคารพของพวกเขาเป็นคนไม่ได้เรื่องได้ราวใช่หรือไม่?
ซั่งหลิงเจินเหรินเชื่อสนิทใจ และกล่าวว่า “ภูเขาอู่ตานของพวกเรามียาวิเศษที่รักษาอาการบาดเจ็บอยู่มากมาย กลับไปฉันจะเตรียมให้ผู้นำเยี่ยสักหน่อย”
“ขอบใจมากเจินเหริน”
หลังจากนั้นไม่นาน
มีเงาของคนเดินออกมาจากวิหาร
นักบวชเต๋าผู้นี้
อายุของเขาประมาณเจ็ดสิบกว่า สวมจีวรสีขาว หนวดเคราเผ้าผมของเขาเป็นสีขาวทั้งหมด ใบหน้าเปล่งปลั่งในมือถือแส้ขนหางจามรี ประหนึ่งว่าเป็นเทพเจ้า
ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าของนักบวชเต๋าดูเมตตาอ่อนโยน ใบหน้าเป็นระเบียบเรียบร้อย เห็นได้ว่าตอนที่เขายังเป็นหนุ่มนั้นคงจะหล่อระดับแนวหน้าก็ว่าได้
ในระหว่างที่นักบวชเต๋าเดินอยู่นั้น ทั่วทั้งตัวของเขาคล้ายกับว่ามีพลังที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่ในตัวของเขา
หรือว่านี่จะเป็นพระอาจารย์ชงซวีเต้าเหรินแห่งอู่ตาน?
ช่างวิเศษจริงๆ!
ทันใดนั้นเยี่ยชิวก็ตระหนักได้ว่า ทำไมอมตะชางเหม่ยถึงได้จองหองมากเมื่อพูดถึงชงซวีเต้าเหริน ดูเหมือนว่าตอนนี้ อมตะชางเหม่ยจะอิจฉาริษยาอยู่ไม่น้อย
ไม่ว่าจะเป็น รูปร่างหน้าตา จิตใจและการฝึกฝนของชงซวีเต้าเหรินนั้น เหนือกว่าอมตะชางเหม่ยโดยสิ้นเชิง
นอกจากนี้ชงซวีเต้าเหรินยังเป็นผู้นำนิกายลัทธิเต๋าที่ได้รับความเคารพและศรัทธาจากผู้คนเป็นจำนวนมาก และมีสถานะสูงสุดในองค์กร อย่างนี้แล้วจะไม่ให้อมตะชางเหม่ยอิจฉาได้อย่างไร?
ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่จุดเดียวกันกับอมตะชางเหม่ยก็ต่างพากันอิจฉาและชื่นชม ทุกคนคือลัทธิเต๋า ทำไมเจ้าถึงเก่งกว่าข้า?
มีสิทธิ์อะไร?
“คารวะท่านอาจารย์!”
หลังจากที่นักบวชเต๋าก้าวเท้าผ่านออกจากประตู ซั่งหลิงเจินเหรินและซั่งเจินเจินเหรินโค้งคำนับด้วยความเคารพทันที
“หลงเหมินเยี่ยชิว คารวะท่านผู้อาวุโส” เยี่ยชิวประสานมือเป็นกำปั้นที่หน้าอกพร้อมกับโค้งตัวคำนับ
ถึงอย่างไรก็ตาม ชงซวีเต้าเหรินก็คือพระอาจารย์อู่ตาน คุณธรรมและบารมีสูง ยิ่งกว่านั้น จุดประสงค์ที่สำคัญในการมายังภูเขาอู่ตานของเยี่ยชิวในครั้งนี้เขาต้องการเข้าไปในหอคัมภีร์ เพื่ออ่านความลับของศิลปะการต่อสู้ที่เก็บสะสมอยู่ในภูเขาอู่ตาน เพื่อที่จะเลื่อนขั้นการฝึกฝน และขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม เยี่ยชิวไม่ทันที่จะโน้มตัวของเขาลงไป เขาถูกมือหนึ่งดึงขึ้นด้วยความอ่อนโยน
“ผู้นำเยี่ย ไม่จำเป็นต้องมากพิธีหรอก เจ้ามาถึงภูเขาอู่ตานได้ ข้าก็ดีใจแล้ว”
เสียงของชงซวีเต้าเหรินเปรียบเสมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิและฝนตกปรอยๆ ทำให้ผู้คนที่ได้ฟังรู้สึกถึงความใกล้ชิดจากก้นบึ้งของหัวใจ
เยี่ยชิวเงยหน้าขึ้นและยิ้มเล็กน้อย
ชงซวีเต้าเหรินมองไปที่เยี่ยชิวไม่กี่ครั้ง เขายิ้มและพูดว่า “ผู้นำเยี่ยยังหนุ่มเช่นนี้ ก็เป็นผู้ดูแลหลงเหมินแล้ว ช่างเป็นคนที่ฉลาดปราดเปรื่องเสียจริง แต่ละคนเป็นผู้นำมานับร้อยปี ผู้อาวุโสพูดชื่นชม”
เยี่ยชิวพูดอย่างถ่อมตัวว่า “ผู้อาวุโสก็ชมเกินไปครับ ผู้น้อยแค่โชคดีเท่านั้นเอง”
“ผู้นำเยี่ยไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้ามีพลังที่งดงามเหมือนหยก ความสงวนท่าทีของเจ้า คงจะเป็นผู้ที่ร่ำรวยมั่งคั่งเป็นแน่ เนื่องจากท่านเป็นผู้ดูแลหลงเหมิน นอกจากเป็นความโชคดีของหลงเหมินแล้ว ยังเป็นนความโชคดีของประเทศอีกด้วย” ชงซวีเต้าเหรินยังพูดต่ออีกว่า “ผู้นำเยี่ย ข้าได้ยินซั่งเจินพูดว่า เจ้าได้ฝึกฝนชี่แท้โดยกำเนิดด้วย”
“ครับ” เยี่ยชิวตอบอย่างเปิดเผย
เมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่ไปส่งไท้เจี่ยนที่ดินแดนแม้ว คนจากเมืองต้องห้าม(จื่อจิ้นเฉิง)เข้ามาก่อกวน ชี่แท้โดยกำเนิดได้ปรากฏให้เห็นตอนที่เยี่ยชิวได้ต่อสู้กับพวกเขา
ในเวลานั้น ซั่งหลิงเจินเหรินได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย และเขาเป็นพยานได้
ชงซวีเต้าเหรินกล่าวว่า “ผู้อาวุโสยังไม่เคยเห็นชี่แท้โดยกำเนิดนั่นว่าเป็นยังไงมาก่อนเลย ผู้นำเยี่ยแสดงให้ข้าเห็นทีสิ”
“ได้ครับ” เยี่ยชิวพูดจบ เขาก็ทำการเปิดชี่แท้โดยกำเนิดให้ทุกคนได้เห็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...