พระราชวังนั้นใหญ่โตมาก
มีทั้งหมดห้าชั้น
มีซุ้มประตูและเสาที่แกะสลัก
ช่างเรียบง่ายและวิจิตรบรรจง
เยี่ยชิวเงยหน้าขึ้นมอง เห็นว่าบนประตูใหญ่ของพระราชวังมีป้ายทองแดงแขวนอยู่ มีสามคำสลักอยู่บนนั้น
หอเก็บคัมภีร์!
“ประมุขเยี่ย ผู้หญิงไม่สามารถเข้าไปในหอคัมภีร์ได้ ฉันจะให้ซั่งหลิงกับซั่งเจินพาหญิงสาวไปเดินเล่นบนภูเขา คุณคิดว่าอย่างไร?” ชงซวีเต้าเหรินพูดออกมา
เยี่ยชิวมองไปที่เซียวอี้เหริน
เซียวอี้เหรินพยักหน้า “ได้”
ชงซวีเต้าเหรินจึงส่งสัญญาณทางสายตาให้ซั่งหลิงเจินเหริน ทันใดนั้นซั่งหลิงเจินเหรินและซั่งเจินเจินเหรินก็พอเซี่ยวอี้เหริยนออกไป
เยี่ยชิว มองไปรอบๆ ไม่เห็นผู้พิทักษ์หรือองครักษ์ลับเลยสักคน ก็อดที่จะรู้สึกแปลกใจไม่ได้และถามว่าออกมาว่า “ผู้อาวุโส หอเก็บคัมภีร์เป็นที่สำคัญของวัดอู่ตาง ทำไมถึงไม่มีใครเฝ้าเลยล่ะ?”
ชงซวีเต้าเหรินถอนหายใจยาว เขาไม่ตอบคำถามนาน แต่กลับพูดว่า “ประมุขเยี่ย กรุณาตามมา”
ทั้งสองมาถึงหน้าประตู
ประตูมีกุญแจทองแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่
ชงซวีเต้าเหรินหยิบกุญแจยาวออกจากแขนเสื้อ เขาปลดล็อกกุญแจทองแดง แล้วผลักประตูเพื่อเปิดออก
ทันใดนั้น กลิ่นอับประหลาดพุ่งเข้าใส่
“ขออภัยด้วย หอคัมภีร์ปิดมาหลายปีแล้ว จึงมีฝุ่นมากไปหน่อย” ซงซวีเต้าเหรินทำท่าเชิญ “ประมุขเยี่ย เชิญ!”
หลังจากพูดจบ ซงซวีเต้าเหรินก็ก้าวนำเข้าไปด้านในก่อน
เมื่อคิดว่าเร็วๆนี้จะได้เห็นคัมภีร์วิชาการต่อสู้มากมาย เยี่ยชิวก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาบ้าง เขาจึงรีบตามเข้าไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าไปแล้ว เยี่ยชิวก็ตกใจ
เมื่อมองไปรอบๆ ห้องที่กว้างขวางนั้น เต็มไปด้วยชั้นหนังสือนับไม่ถ้วน แต่ชั้นหนังสือกลับว่างเปล่า ไม่มีหนังสือเล่มไหนเลย
คัมภีร์วิชาการต่อสู้อยู่ที่ไหน?
ในใจของเยี่ยชิวเต็มไปด้วยความสงสัย เขาเงยหน้าขึ้นมองชั้นบน และคิดในใจว่า หรือว่าคัมภีร์อยู่ชั้นบน?
ขาเพิ่งคิดจนจบ ก็ได้ยินชงซวีเต้าเหรินพูดว่า "ประมุขเยี่ย โปรดตามข้ามา"
จากนั้น ชงซวีเต้าเหรินก็พอเยี่ยชิวเดินขึ้นบันไดไม้ไปยังชั้นสองของหอเก็บคัมภีร์
สถานการณ์ชั้นสองเหมือนกับชั้นหนึ่งเป๊ะ
ชั้นหนังสือเต็มไปด้วยฝุ่น ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย
เยี่ยชิวอดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า “ผู้อาวุโส.....”
“ประมุขเยี่ยโปรดรอสักครู่ โปรดตามมา” ชงซวีเต้าเหรินไม่ได้รอให้เยี่ยชิวถามคำถามที่อยู่ในใจออกมา ก็นำเยี่ยชิวไปต่อ
หลังจากมาถึงชั้นสาม
เยี่ยชิวพบว่าสถานการณ์ก็เหมือนเดิม
ชั้นหนังสือยังคงว่างเปล่า ไม่เห็นคัมภีร์ใดๆ
ในใจของเยี่ยชิวเริ่มรู้สึกไม่ดี หรือว่าหอเก็บคัมภีร์นี้แค่เป็นการตกแต่ง?
“ประมุขเยี่ย เราขึ้นไปชั้นบนกันต่อเถอะ” ชงซวีเต้าเหรินนำเยี่ยชิวขึ้นไปชั้นสี่ของหอคัมภีร์
ในชั้นสี่ ไม่มีชั้นหนังสือ เพียงแต่มีภาพวาดประมาณสิบกว่าภาพ
ภาพวาดถูกแขวนอยู่ทั่วบนผนังรอบด้าน
ชงชวีเต้าเหรินชี้ไปที่ภาพวาดแล้วพูดว่า "ภาพเหล่านี้เป็นของประมุขรุ่นต่างๆ ของภูเขาอู่ตางมาแต่โบราณ หลังจากที่พวกเขาแปลงร่างเป็นภูติและขึ้นสวรรค์ ภาพของพวกเขาก็จะถูกแขวนไว้ที่นี่เพื่อให้รุ่นหลังสักการะ หลังจากที่ฉันแปลงร่าง ภาพของฉันก็จะถูกแขวนไว้ที่นี่เช่นกัน"
เยี่ยชิวไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เลย ตอนนี้เขาสนใจเพียงอย่างเดียวคือ คัมภีร์วิชาการต่อสู้อยู่ที่ไหน?
เยี่ยชิวถามอีกครั้งว่า “ผู้อาวุโส ทำไมถึงไม่เห็น....”
“ประมุขเยี่ย เราไปชั้น 5 กันเถอะ” ชงซวีเต้าเหร้าขัดจังหวะเยี่ยชิวและเดินขึ้นไปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...