วิวาห์ครั้งใหม่ของเจ้าสาวแสนสวย นิยาย บท 8

หลังจากนั้นไม่กี่วัน มาวินไม่ได้ขับไล่ให้เธอออกจากตระกูลหงษ์ และก็ไม่ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าเธอไม่ได้รับอนุญาตให้มาที่บริษัท

ตราบใดที่เธออยู่ข้างๆเขา มาวินก็จะคิดหาสารพัดวิธีในการใช้เธอเป็นทาส

ริตาหมดแรงจากการทำงานระดับสูงอย่างหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์

เช้านี้ริตากำลังจะลุกขึ้นไปยังหงษ์กรุ๊ปตามปกติ แต่จู่ๆเธอก็รู้สึกเวียนหัวอึดอัดร่างกาย ราวกับตัวหนักจนทนไม่ไหว

ขณะแปรงฟัน เธอก็รู้สึกคลื่นไส้อยู่ครู่หนึ่ง ประคองตัวเองกับอ่างล้างหน้าอยู่หลายครั้งกว่าจะแปรงฟันเสร็จ

ริตารู้สึกงงงวย ช่วงนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองอยากอาเจียนบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นไปได้ไหมว่าเธอจะกินอะไรที่ไม่ดีลงไป?

คอของเธอก็แหบแห้ง เดาว่าน่าจะเป็นหวัด วันนี้เธอจะไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจดูอาการ

และมาวินที่มาถึงบริษัทก่อนแล้ว อดไม่ได้ที่จะดูเวลา

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปตั้งแต่เริ่มงาน แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่มา

เหอะ เขาก็นึกว่าความพยายามของเธอจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน นี่ถือจุดจบ?

“ก๊อก ก๊อก”

ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตู

“เข้ามา”

เมื่อเห็นคนที่เข้ามา มาวินก็รู้สึกหดหู่อย่างอธิบายไม่ได้

“คุณชายเยี่ยครับ นี่คือเอกสารที่ต้องได้รับการอนุมัติในวันนี้ และกำหนดการสำหรับช่วงบ่าย” อันดายื่นเอกสารด้วยความเคารพ และกล่าวต่อ “ผมได้ส่งคนไปที่โรงพยาบาลแล้ว แต่ยังไม่พบผู้หญิงที่น่าสงสัยไปที่แผนกสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา”

“เข้าใจแล้ว” มาวินโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายออกไป เมื่ออีกฝ่ายกำลังจะบอกไป เขาก็ถามขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย “เธอไม่มา?”

อันดาชะงักไปครู่หนึ่ง หลังจากรู้ว่าคุณชายเยี่ยถามถึงใครเขาก็ตอบกลับไปทันที “ใช่ครับ คุณเสิ่นไม่ได้มา ดูว่าเธอจะรู้แล้วว่าลำบากแล้วควรถอยไป”

มาวินเพียงส่งเสียง “อืม” แล้วก็ทำงานต่อไป แต่ภายในใจกลับรู้สึกไม่ค่อยดี

ในขณะเดียวกัน ที่โรงพยาบาล

ริตาหยิบหมายเลขแล้วต่อคิวเข้าแถว เมื่อถึงคิวของเธอ หลังจากบอกหมอเกี่ยวกับอาการของเธอแล้ว หมอก็มองเธอแปลกๆ

“ช่วงนี้คนมีอาการขี้เซา คลื่นไส้ หรือบางครั้งก็ปัสสาวะบ่อยๆไหม”

ริตาพยักหน้า “เกิดอะไรขึ้นกับฉันคะ ดูเหมือนเป็นหวัดอาการจะไม่ใช่แบบนี้...”

หมอเหลือบมองอย่างช่วยไม่ได้ แล้วถามเธอต่อว่า “ประจำเดือนของคุณไม่มานานแค่ไหนแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ริตาก็ลองนับดูว่า “ประมาณเดือนกว่าๆค่ะ...”

คำพูดของเธอชะงักลง ดูเหมือนว่าเธอจะคิดอะไรบางอย่างออก และสีหน้าของเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

หมอยิ้มแล้วพูดว่า “ช่วงนี้คุณเพิ่งมีเพศสัมพันธ์มาหรือเปล่า คุณควรใส่ใจกับสถานการณ์ของตัวเองมากขึ้น หมอจะยังไม่จ่ายยานะครับ คุณไปรับหมายเลขเพื่อตรวจอีกครั้งเถอะ”

ริตาแทบจะอกสั่นขวัญหายออกจากโรงพยาบาล

เธอไม่กล้าไปรับหมายเลข แต่ไปร้านขายยาเพื่อซื้อที่ตรวจครรภ์แทน เธอขังตัวเองให้ห้องน้ำหลังจากกลับมาที่บ้านของตระกูลหงษ์

หลังจากรออย่างกระวนกระวายใจเป็นเวลานาน เมื่อเธอเห็นว่าที่ตรวจครรภ์มีผลเป็นบวก จากตอนแรกสีหน้าของเธอก็แย่จากการป่วยอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กลับแย่ลงกว่าเดิม

เธอมองไปที่หน้าท้องแบนราบของตัวเอง ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้นมันกะทันหันเกินไป เธอไม่เคยประสบกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เธอหนีกลับบ้านด้วยความตื่นตระหนก แล้วถูกบังคับให้แต่งงานกับใครสักคน แล้วยังอกหักจนเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย จึงลืมไปว่าต้องกินยาคุมฉุกเฉิน

ตอนนี้มีเมล็ดพันธุ์ของชายคนนั้นตกอยู่ในท้องจริงๆ!

ริตาเอื้อมมือออกมาปิดปากอย่างยากที่จะเชื่อ

ไม่ได้ เธอไม่สามารถทำให้สถานการณ์ของตัวเองยุ่งเหยิงได้ อาจเป็นเพราะที่ตรวจครรภ์มันผิดพลาด ไม่แม่นยำ เธอยังต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ริตาก็เก็บของทิ้งลงขยะทันที ลุกขึ้นแล้วออกมาจากห้องน้ำ ในใจรู้สึกใจฝ่อ เธอออกมาแล้วมองไปสำรวจรอบๆ เพราะกลัวว่ามาวินจะมาปรากฏโดยไม่รู้ตัว

เนื่องจากอาการป่วยอีกทั้งยังตั้งครรภ์ ทำให้ริตารู้สึกมึนงง ก็เลยถือโอกาสเพียงแค่นอนอยู่บนเตียงแล้วหลับไปจนพระอาทิตย์ตกดิน

ริตาสัมผัสที่ท้องด้วยความหิวโหย เธอจึงลงไปข้างล่างเพื่อหาอะไรกิน

บนบันได มีคนใช้หลายคนเดินผ่านเธอไป และหนึ่งในนั้นเดินกระแทกไหล่เธอด้วยเจตนาที่ร้าย

“อ้า!” ริตาไม่ทันได้ระวังจึงถูกชนจนล้มลงตรงบันได

“อ้าว ที่แท้เป็นคุณหญิงรองนี่เอง นึกว่าเป็นคนรับใช้ ขอโทษนะ ให้ฉันช่วยพยุงไหมจ๊ะ”

แม้ว่าปากจะพูดแบบนี้ แต่สาวใช้คนนั้นก็ไม่ขยับเลย

ริตาเหลือบมองสาวใช้โมโห แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ลุกขึ้นแล้วเดินลงไปข้างล่างอย่างเงียบๆ

ใครจะไปคิด เธอไม่ได้อย่างก่อเรื่อง แต่คนอื่นไม่ยอมปล่อยเธอไปดีๆ

“เชี่ย เธอคิดจริงๆไหมว่าถ้าได้แต่งงานกับตระกูลหงษ์ตัวเองจะได้กลายเป็นหงส์? ถ้าคุณชายรองของพวกเราไม่ชอบเธอ แม้แต่คนใช้อย่างพวกเราเธอก็สู้ไม่ได้หรอก”

“ใช่เลย ดูท่าทางบ้านนอกๆของเธอนั่นสิ เธอดูเหมือนคุณหญิงรองตรงไหนกัน? ฉันได้ยินมาว่าคุณชายรองให้เธอเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลเท่านั้นแหละ!”

“ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะรีบเก็บของแล้วจากไปเลย จะได้ไม่ต้องอับอายกับที่นี่อีก”

“ผู้หญิงแบบนี้หน้าด้านจะตาย! เพื่อเงินแล้ว อะไรจะทำไม่ได้บ้าง”

เมื่อได้ยินคำเยาะเย้ยเหล่านั้นที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเลยแม้แต่น้อย ผิวขาวของริตาก็ซีดจางยิ่งกว่าเดิม ร่างกายที่ผอมและอ่อนแอก็สั่นเทาอย่างกลั้นไว้ไม่ได้

เธอหันหน้าไปกำลังที่จะพูดอะไรบางอย่าง น้ำเสียงที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งก็ดังขึ้นมา “ทำไมคนรับใช้ของตระกูลหงษ์กำเริบเสิบสานเช่นนี้ ไม่มีมารยาทกันแล้ว?”