ลู่หนันเซียวกลับไม่ได้พูดอธิบายอะไรกับเธอมากมาย
เขาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา เดินออกไปโทรศัพท์ริมๆ
แต่ว่าสายนี้ ไม่ได้โทรไปหาผู้จัดการ แต่โทรไปหาสีโม่เฉิง
ใช่แล้ว ในตอนนี้ สำหรับเขาแล้ว การเอาใจกับทางด้านของสีโม่เฉิงนั้น มันสำคัญยิ่งกว่าการไปเอาใจผู้จัดการ
ถึงยังไง แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่แน่ใจว่ากู้หรันกับสีโม่เฉิงมีความสัมพันธ์อะไรกัน
แต่ทั้งสองคนจะต้องมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกันมากๆเป็นแน่
ไม่อย่างนั้น จากนิสัยที่พี่ชายที่ด้านชาเหมือนก้อนเหล็กของเขาแล้ว จะยอมมาเอ่ยปากพูดกับเขาเพื่อผู้หญิงแค่คนเดียวได้ยังไง
ไม่นานก็โทรติด
เสียงที่เย็นชาของสีโม่เฉิงดังขึ้นมาในลำโพง
“หวังว่าจะเป็นเรื่องสำคัญนะ”
พอลู่หนันเซียวได้ยินก็รู้ว่าตอนี้เขากำลังทำงานอยู่แน่นอน
ถึงยังไง ก็มีแค่ตอนที่ทำงานกับประชุมนี่แหละ ที่สีโม่เฉิงเกลียดเวลาที่มีคนโทรศัพท์ไปรบกวนเขา
เขาลูบจมูก พูดขึ้นอย่างกระวนกระวาย“เอ่อ คือ……พี่ วันนี้พี่ได้ดูข่าวบ้างไหม?”
สีโม่เฉิงขมวดคิ้ว
ไม่ได้ตอบเขาทันที แต่หันไปส่งสายตาให้กับฉินจูที่นั่งอยู่ข้างๆ
ฉินจูเข้าใจได้ทันที รีบเปิดไอแพดในมือขึ้นมา เปิดข่าวในเวยป๋ออย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เห็นกระทู้ข่าวซุบซิบข้างบนอย่างชัดเจนแล้วนั้น ก็อึ้งตะลึงไป
สีโม่เฉิงยกมือขึ้นมา ฉินจูรีบยื่นไอแพดไปที่มือของเขาทันที
เขาจึงเห็นรูปกับเนื้อหาที่อยู่บนหน้าจอทั้งหมด
แววตาที่เย็นชาหรี่ลงอย่างอันตรายทันที
อีกฝั่ง ลู่หนันเซียวเดาว่าเขาน่าจะเห็นแล้ว
ความมั่นใจในการพูดก็ลดลงไปไม่น้อย
“พี่ครับ ฟังผมพูดก่อนนะ เรื่องนี้ผมอธิบายได้……”
ถ้าเกิดในเวลานี้มีคนอื่นอยู่ด้วย เห็นท่าทางที่ถ่อมเนื้อถ่อมตัวประจบประแจงแบบนี้ของเขา เกรงว่าจะต้องตกใจจนอ้าปากค้างแน่นอน
ถึงยังไง ก็ไม่มีใครรู้ว่าคุณชายหนันเซียวคนนี้ความโด่งดังก็ไม่ได้ถือว่าสูงมากนัก แต่กลับเจ้าอารมณ์สุดๆ
ใครไปยุแหย่เขา เขายอมที่จะไม่สนสัญญานักแสดง เพื่อที่จะจัดการกับคนคนนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์ลวงอลวนรัก
มีต่อจากตอนที่ 145 มั้ยคะ...