หลังจากฟังมู่เวยเวยพูดจบ สีหน้าของเขาทั้งสองคนเหมือนหนักใจ ชายวัยกลางคนเริ่มพูดขึ้นมาว่า “บ้านของพวกเราจน ไม่มีร้านถ่ายรูป ตั้งแต่เด็กจนโตก็ไม่มีรูปถ่าย”
พอพูดถึงตรงนี้ หน้าของฝ่ายชายก็เต็มไปด้วยความรู้สึกละอาย ด้านฝ่ายผู้หญิงเงยหน้าขึ้น แล้วพูดอีกว่า ลูกสาวของฉันนามสกุลเฉียว เรียกว่าซินโยว ส่วนอื่นฉันก็ไม่มีอะไรมาเป็นหลักฐานเลย
เฉียวซินโยว?!
พอได้ยินชื่อนี้ มู่เวยเวยก็ไม่กล้าที่จะเชื่อทั้งหมด แต่ดูออกว่าคนแก่สองคนนี้เป็นคนเรียบง่าย และอีกอย่างดูจากรูปร่างหน้าตาสองคนนี้ก็มีส่วนคล้าย เพียงแต่ว่าคงเพราะทำงานหนัก ไม่พิจารณาอย่างละเอียดก็จะดูไม่ออก
ฉันรับรู้ได้ถึงความกดดันของทั้งสองคนนี้ มู่เวยเวยจึงพูดปลอบใจว่า”พวกคุณไม่ต้องรีบร้อน หน่วยงานของเรามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อเฉียวซินโยว ปีนี้อายุ 24ปี ไม่รู้ว่าอายุเท่ากันกับลูกสาวของคุณทั้งสองคนไหม?”
ได้ฟังจากการเล่าของมู่เวยเวย ทั้งสองก็พยักหน้าเป็นพัลวัน พูดด้วยความตื่นเต้น”ไม่ผิดหรอก ลูกสาวของฉันปีนี้อายุ 24ปีแล้ว สาวน้อยเธอพอจะมีวิธีที่ทำให้เราสามารถพบกับเธอได้ไหม?”
ถึงแม้ว่ามู่เวยเวยจะยังรู้สึกคลางแคลงใจ แต่ก็ไม่อยากให้กระทบจิตใจสองสามีภรรยา ก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรติดต่อหาเฉียวซินโยว และพูดว่า “ เธอรีบมาที่หน้าประตูบริษัทตอนนี้เลย ฉันมีธุระจะคุยกับเธอ”
"นี่พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกแล้วเหรอ ไม่คิดเลยว่าเธอจะมีธุระกับฉัน มีเรื่องอะไรขึ้นมาคุยด้านบนไม่ได้เหรอ?และอีกอย่างทำไมฉันต้องฟังเธอด้วย?!"
มู่เวยเวยได้ยินคำพูดประชดของเธอ อดทนอดกลั้นที่จะไม่กดตัดสายเธอ และพูดออกไปว่า "ธุระเรื่องอะไรลงมาก็รู้เอง ฉันจะรอเธอ"
พูดจบก็รีบกดวางสาย เห็นสีหน้าที่เฝ้ารอคอยของสองสามีภรรยา เขารู้สึกว่าแปลกประหลาดใจ ยังไม่กล้าที่จะปักใจเชื่่อ เฉียวซินโยวผู้มีความสามารถมุ่งมั่นและเก่ง จะมีเรื่องราวชีวิตแบบนี้!
ไม่ใช่ว่าเธอดูถูกสองสามีภรรยาเพียงแค่รู้สึกว่ามันตรงกันข้าม ถ้าหากว่าเฉียวซินโยวเป็นลูกของพวกเขาจริงๆ มู่เวยเวยไม่อยากจะคิดแทนสองสามีภรรยาเลย เพราะว่าดูจากนิสัยเจ้าแผนการของเฉียวซินโยวคิดจะจบเรื่องนี้แน่นอนว่าจบไม่ดีแน่
แน่นอน นี่เป็นเพียงการคาดการณ์ของเธอ ทั้งหมดคือต้องรอเฉียวซินโยวมาถึง
พอถึงเวลานี้ ก็เห็นพวกเขามองไปที่ประตูแบบใจจดใจจ่อ ยิ่งมองยิ่งตื่นเต้นเดินไปด้านหน้า ปากก็ไม่หยูดพูด" ลูกสาวของฉัน"ในที่สุดพ่อกับแม่ก็หาลูกเจอแล้ว!
ไม่คิดเลยว่าถ้าเฉียวซินโยวเป็นลูกของสองสามีภรรยานี้จริงๆ พอนึกถึงฉากนี้ มู่เวยเวยก็เข้าใจเธอขึ้นมาทันที เมื่อก่อนเขามักจะตำหนิเธอคิดแต่เรื่องทรัพย์สินเงินทอง จน
กระทั่งไม่เสียใจที่ทำเรื่องผิดคุณธรรม ตอนนี้เขาเพิ่งจะมาเข้าใจเธอจริงๆ
เฉียวซินโยวเดิมทีอยากจะรู้ มู่เวยเวยจริงๆแล้วมีธุระอะไร แต่ทว่าก็ไม่อยากถูกคู่สามีภรรยาก่อกวน แต่พอนึกถึงใบหน้าทั้งสองอย่างละเอียดคิ้วหนาๆก็ขมวดขึ้น พูดจาไม่ดีออกไป "พวกคุณมาได้ยังไง?แล้วใครเป็นคนบอกว่าหนูอยู่ที่นี่!
เฉียวซินโยวพูดเชิงตำหนิ ชั่วพริบตาเดียวจากการตื่นเต้นคล้ายกับเอาน้ำเย็นหนึ่งถังมาราดลงกลางใจของคู่สามีภรรยา ด้านพ่อของเธอสีหน้าก็สลดลง แต่ทว่ายังคงอดกลั้นไว้ และถามออกไปว่า "ซินโยว ช่วงปีที่ผ่านมาทำไมไม่กลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่เลย พวกเรา คิดถึงลูกมาก ถึงได้ขอร้องให้เพื่อนของลูกพาพวกเรามาที่นี่"
ด้านแม่ของเธอก็มีสีหน้าปลามปลื้ม มือที่ดำและหยาบกระด้าง ใบหน้าที่ดูอบอุ่นและพูดว่า "แม่และพ่อของลูกเอาไข่เค็มมาฝากด้วยนะ ตอนเด็กลูกชอบกินมากที่สุด
ไม่รอให้ทั้งสองคนพูดจบ ก็ถูกเฉียวซินโยวพูดตัดบท "พอได้แล้ว!พวกคุณมาที่นี่โดยพลการเอาตัวเองเป็นหลักได้อย่างไร?!พวกคุณไม่อยากให้หนูมีชีวิตดีๆใช่หรือเปล่า?หนูมีวันนี้ได้เพราะตัวของหนูเอง พวกคุณต้องการให้มันพังลงไปใช่ไหม!"
เรื่องเกิดขึ้นกะทันหันเกินความคาดหมายของทั้งสอง พวกเขาไม่คิดว่าลูกสาวที่แข่งแกร่งของเขาตลอดมา หลังจากเข้ามาที่เมืองใหญ่ตั้งแต่นั้นมา ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วนี่ทำให้พวกเขาต้องยอมรับผล!
"พวกเราจะทำลายชีวิตลูกได้อย่างไร ฉันและพ่อแค่อยากจะมาเยี่ยม เจอแล้วก็จะรีบไป....."แม่ของเธอเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนไปของลูก รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก หยดน้ำตาไหลรินลงมา
เฉียวซินโยวสีหน้าเรียบเฉย แสยะยิ้มที่มุมปากพูดด้วยความหยิ่งผยอง "ตอนนี้ก็ได้เจอแล้ว ก็รีบกลับไปซะ!ต่อไปก็อย่ามาให้หนูเห็นหน้าอีก ถ้าหากคนอื่นรู้ หนูมีชีวิตที่ลำบากทรหด สิ่งที่หนูพยายามมาทั้งหมดก็เท่ากับศูนย์!"
มู่เวยเวยสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เธอไม่อยากเข้าไปยุ่ง ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่ว่าเห็นเฉียวซินโยวทำพฤติกรรมไม่ดีกับพ่อแม่ของตัวเอง ตอนนี้เธอทำไม่ได้ที่จะดูอยู่ห่างๆ
"เฉียวซินโยว นี่พ่อแม่ของตัวเธอเองยังปฏิบัติกับท่านแบบนี้ เธอยังมีความเป็นคนอยู่ไหมล่ะ!"
มู่เวยเวยพูดเพื่อช่วย เฉียวซินโยวมองเธอด้วยสายตาเหยียดหยาม พูดออกมาเสียงเย็นชา "มู่เวยเวย เธอเรียกฉันมาเพราะเรื่องนี้เหรอ?! เธอไม่มีเรื่องอื่นให้ทำแล้วเหรอ!"
"ซินโยว เธอทำไมถึงได้——"เธอตำหนิเฉียวซินโยว แม่ของเฉียวซินโยวอยากจะห้าม ถึงอย่างไรพวกเขาสองคนก็ขอความช่วยเหลือจากเธอ ให้เรียกเฉียวซินโยวลงมา
"เธอหุบปาก!"เฉียวซินโยวพูดออกมาด้วยความโมโหเดือดดาล "เธอมีสิทธิอะไรมาตำหนิฉัน?"ดูสิ่งที่พวกคุณมอบให้ในวันที่จนสิปีหนึ่งยังไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่เลย !ฉันตายไปยังไม่อยากใช้ชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็นเลย..."
ลูกสาวของพวกเขาตำหนิ ทั้งสองทำได้เพียงแค่ก้มหน้า
"เฉียวซินโยว อย่าลืมว่าพวกเขาให้ชีวิตเธอ !เธอไม่เพียงแค่ไม่ดีใจ เธอยังตำหนิพ่อแม่ของตัวเธอเอง ถึงพวกเขาจะไม่มีความสามารถ แต่พวกเขาก็เลี้ยงเธอมาจนโตไม่ใช่เหรอ?"มู่เวยเวยทนดูต่อไปไม่ไหว เฉียวซินโยวผู้หญิงเห็นแก่เงินคนนี้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะสงสารคนแก่สองคนนี้ เธอก็ไม่อยากที่จะเสียเวลามาพูดกับเฉียวซินโยว!
"มู่เวยเวยเธอคิดว่าเธอเป็นใคร! เธอมีสิทธิอะไรมาสั่งสอนฉัน ?!เธอเป็นถึงคุณหนู ตั้งแต่เล็กจนโตก็อยู่สุขสบาย เธอจะมาเข้าใจอะไรฉัน !แต่ฉันก็ไม่ได้อยากให้เธอรู้สึกอะไรหรอก ฉันว่าเธอควรจะเก็บความหวังดีของเธอไว้นะ!"
สั่งสอนมู่เวยเวยเสร็จ เฉียวซินโยวหันกลับมาหาพ่อกับแม่แวบหนึ่ง ก่อนจะล้วงกระเป๋านับเงินร้อยหยวนจำนวนหนึ่ง ยัดใส่ในมือที่ดำและหยาบกร้านนั้น พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "เงินจำนวนนี้พ่อแม่ใช้ชาตินี้ก็ไม่หมด ต่อไปนี้ไม่ต้องมาหาหนูอีก ถือว่าจบกันตรงนี้!"พูดจบไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามอง
พ่อของเฉียวซินโยวมองลูกที่ไร้ความรู้สึกตัดขาดจากพวกเขา เลือดเนื้อเชื้อไขของพวกเขา เขามองลูกด้วยความเศร้าสลด มือทาบที่หน้าอกทรุดลงกับพื้น
แม่ของเฉียวซินโยวตกใจ วิ่งมาคุกเข่าลงข้างพ่อของเฉียวซินโยว ร้องไห้พร้อมตะโกน "ตาแก่!คุณเป็นอะไรไป? ฮือๆ....ช่วยด้วยค่ะ!"
มู่เวยเวยที่เห็นเหตุการณ์ คิ้วขมวดขึ้น เธอรีบตรวจดูอาการพ่อของเฉียวซินโยว พบว่ายังหายใจอยู่ รีบโทรหา119สักพักรถฉุกเฉินมาถึง นำพ่อของเฉียวซินโยวขึ้นรถ มู่เวยเวยไม่วางใจขึ้นรถไปด้วย
เมื่อถึงโรงพยาบาล พ่อของเฉียวซินโยวโรคหัวใจกำเริบ ถูกนำตัวส่งเข้าห้องผ่าตัดทันที เป็นครั้งแรกที่แม่ของเฉียวซินโยวเคยมาโรงพยาบาลขนาดใหญ่ นอกจากร้องไห้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ เป็นธุระเรืองเข้ารับการรักษาคือมู่เวยเวยจัดการทุกอย่าง รวมไปถึงค่าผ่าตัดด้วย เป็นเธอที่ช่วยดูแล
การช่วยเหลือผ่านพ้นไป พ่อของเฉียวซินโยวพ้นขีดอันตรายแล้ว ย้ายไปที่ห้องพักธรรมดา แต่หมอก็ยังต้องคอยเฝ้าดูอาการ 24ชั่วโมง พอเจอเหตุการณ์นี้ เธอก็อยู่คอยปลอบใจแม่ของเฉียวซินโยว
เมื่อรู้ว่าพ่อของเฉียวซินโยวไม่อะไรมากแล้ว ผู้เป็นภรรยาก็คลายความกังวลลง เขาพูดด้วยความซาบซึ้งใจกับมู่เวยเวยว่า "เวยเวย เมื่อกี้ขอบคุณมากนะ ถ้าไม่ใช่หนู ฉันกับตาแก่อาจจะ——"
ไม่รอเขาพูดจบ มู่เวยเวยพูดปลอบใจว่า "คุณป้า อย่าคิดแบบนั้นสิคะ คุณลุงมีเทวดาคุ้มครอง หนูเชื่อว่าคุณลุงต้องไม่เป็นอะไรค่ะ"
แม่ของเฉียวซินโยวพยักหน้าตอบรับ ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า ในกระเป๋ามีเงินของเฉียวซินโยวให้มาจำนวนหนึ่ง ยัดเข้าที่มือของมู่เวยเวย พร้อมพูดว่า "ฉันก็ไม่รู้ว่าพอหรือไม่ เงินนี้หนูรับไปก่อน ถ้าหากไม่พอพวกเราจะหาวิธีเอามาคืนให้"
มองที่เงินหนึ่งหมื่นหยวน มู่เวยเวยรู้สึกใจหวิว เธอยัดเงินกลับใส่มือแม่ของเฉียวซินโยว พูดว่า "เงินนี้คุณป้าเก็บไว้เถอะนะคะ ที่พวกเราได้เจอกันเป็นพรหมลิขิต คุณป้าไม่ต้องเกรงใจหนู"
"จะทำแบบนั้นได้อย่างไร?! ฉันได้ยินหมอพูดว่าค่าผ่าตัดหนึ่งหมื่นกว่าหยวนนะ ฉันไม่เคยติดเงินใคร ไม่ว่าจะพอหรือไม่พอหนูต้องรับไว้"
มู่เวยเวยพยักหน้า พูดอย่างจริงจัง"คุณป้า ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณลุงพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ว่ายังเป็นโรคหัวใจอยู่ เงินนี้คุณป้าเก็บไว้นะคะ เผื่อวันหน้าจำเป็นต้องใช้"
แม่ของเฉียวซินโยวซาบซึ้งน้ำตาคลอ พูดด้วยเสียงสะอื้น"เวยเวยหนูเป็นเด็กดี พวกเราสองคนชีวิตรันทด ขนาดลูกแท้ๆยังไม่อยากรู้จักพวกเรา"
มู่เวยเวยถอนหายใจออกมา ไม่หยุดที่จะปลอบประโลมแม่ของเฉียวซินโยว ในใจรู้สึกอ่อนแรงกับการกระทำมู่เฉียวซิน ตอนนี้สิ่งที่เธอทำได้คืออยู่เป็นเพื่อนพวกเขา แม้เธอจะไม่ใช่เฉียวซินโยว ทำกับเธอเหมือนโกรธเกลียด สุดท้ายแล้วจะทำอย่างไรได้......
..........
คฤหาสน์ตระกูลเย่
อาหารหรูหราเต็มโต๊ะ เย่ฉ่าวเฉินมองอย่างไม่ตั้งใจไปที่เก้าอี้ตรงข้ามที่ว่าง คิ้วขมวดขึ้น พูดออกมาด้วยความกระวนกระวายใจ "มู่เวยเวยตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเหรอ?ถึงเวลารับประทานอาหารแล้วยังจะให้ทุกคนมานั่งรอ?"
เฉียวซินโยวที่ไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไร ในใจมีความคิดแอบแฝง เธอหวังว่าให้มู่เวยเวยเกิดเรื่อง แบบนั้นก็ตามแผนการของเธอ!
เย่ฉ่าวเหยียนเช็ดที่มุมปาก ใบหน้าที่เรียบเฉย พูดขึ้นว่า"ถ้าพี่ไม่พูดผมก็ลืมเลย เวยเวยโทรหาผมแล้ว บอกว่าคืนนี้ไม่กลับมานอนที่บ้าน พวกเราไม่ต้องเป็นห่วง"
ฟังเย่ฉ่าวเหยียนพูดจบ เย่ฉ่าวเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอวางแผนคืนนี้จะไม่กลับบ้าน?ในเมื่อไม่กลับมาแล้วโทรบอกเย่ฉ่าวเหยียน สุดท้ายแล้วเธอเห็นเขาอยู่ในสายตาไหม!
ผู้หญิงสมควรตายคนนี้!
เย่ฉ่าวเหยียนมองหน้าพี่ชายแวบหนึ่ง ในใจครุ่นคิด สิ่งที่คิดยิ่งเริ่มชัดเจนขึ้น หลายสิ่งทำให้เขาประหลาดใจ
บรรยากาศการรับประทานเงียบสนิท หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเย่ฉ่าวเฉินไปห้องหนังสือ บอกว่ามีงานต้องสะสาง เพียงแค่เย่ฉ่าวเหยียนบังเอิญเห็นจางเห่อรีบขับรถออกไป เย่ฉ่าวเหยียนเพียงคาดการณ์ไว้
ดึกแล้วจางเห่อขับรถออกไปทำอะไร ไม่น่าเชื่อและทำให้อยากรู้......
วันถัดมา เย่ฉ่าวเฉินให้เฉียวซินโยวไปที่บริษัทเอง เขาบอกว่ามีธุระ เฉียวซินโยวไม่ค่อยพอใจ แต่ต้องแกล้งทำเป็นเข้าใจ และขึ้นรถอีกคันไปบริษัท
เย่ฉ่าวเหยียนกำลังดูทีวีอยู่ที่บ้าน ได้ยินเสียงข้อความจากโทรศัพท์ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มองเห็นด้านบนเขียนว่า คุณชายถึงโรงพยาบาลใจกลางเมืองแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...