วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 168

มู่เวยเวยแววตาล่องลอย "พี่ชายอยู่ที่นั่น"

พ่อบ้านหวังขนหัวลุกเล็กน้อย พูดอธิบายว่า : "คุณหนู คุณตาลายแล้ว พี่ชายคุณไม่ได้อยู่ในทะเลสาบ เรากลับกันเถอะ " จากนั้นสาวใช้ก็จูงมู่เวยเวยมาที่ริมฝั่ง

"พี่ชาย ฉันจะไปหาพี่ชาย" มู่เวยเวยต่อสู้ขัดขืน พ่อบ้านหวังกับสาวใช้กล้าปล่อยมือซะที่ไหน ไม่ว่าเธอจะทำอย่างไรก็จับแขนเธอไว้แน่น ไม่ง่ายเลยที่จะลากมู่เวยเวยขึ้นฝั่ง ทั้งสองก็เหงื่อชุ่มไปทั้งตัว

เวลานี้ฉินหม่าก็วิ่งเข้ามา เห็นภาพเหตุการณ์นี้ ในใจก็เข้าใจว่าหวนคิดถึงความทรงจำที่เจ็บปวดหรือความทรงจำที่ดีในคืนวันนั้นไปก็เปล่าประโยชน์ เด็กคนนี้ยังคงคิดอยากจะตาย

"คุณหวัง เอาคุณส่งมาให้เราเถอะ" ฉินหม่าเข้าไปช่วยประคองแขนของมู่เวยเวย สิ่งที่จำเป็นสำหรับเธอที่สุดตอนนี้คืออาบน้ำอุ่น มิเช่นนั้นจะเป็นหวัดอย่างแน่นอน

หญิงตั้งครรภ์เป็นหวัดมันเป็นเรื่องยุ่งยากมาก ยาอะไรก็กินไม่ได้ อาศัยภูมิต้านทานของตัวเองได้เท่านั้น และด้วยร่างกายที่อ่อนแอของมู่เวยเวย คาดว่าจะต้านทานไม่ไหว

ฉินหม่าและสาวใช้พยุงมู่เวยเวยมาที่ห้องน้ำ รีบถอดเสื้อผ้าที่เปียกชื้นของเธอ แล้วเปิดฝักบัว

"ไป เอาม้านั่งข้างนอกเข้า" ฉินหม่าพูดกับสาวใช้

สาวใช้ทำท่าทางคล่องแคล่ว ย้ายม้านั่งหนึ่งตัว ฉินหม่าปลอบโยนมู่เวยเวยให้นั่งลงบนนั้น

"ฉินหม่า ให้คุณหนูแช่อ่างอาบน้ำไม่ดีกว่าเหรอ? ทำไมต้องทำเช่นนี้? " สาวใช้ถามอย่างไม่เข้าใจ

ฉินหม่าเหลือบมองเธอ "คนท้องพยายามอย่าแช่อ่างอาบน้ำ จะไม่ดีต่อเด็ก"

หลังจากสิบนาที ฉินหม่าสัมผัสขาของมู่เวยเวยว่าไม่เย็นแล้ว จึงปิดน้ำร้อน ใช้ผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวเธอให้แห้ง

"ฉินหม่า ทำไมไม่ให้ฉันตายไปซะ" มู่เวยเวยนอนอยู่บนเตียง มองเพดานด้วยแววตาล่องลอย เมื่อกี้ฉันเกือบจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับพ่อแม่แล้วก็พี่ชายแล้ว ทำไมต้องมาขัดขวางเธอด้วย?

ฉินหม่ามองเธออย่างจนปัญญา ท้ายที่สุดไม่รู้จะใช้คำพูดไหนมาปลอบโยนเธอ

"คุณพวกออกไปเถอะ ฉันล้าแล้ว" มู่เวยเวยพลิกตัว หันหลังให้พวกเธอ

เงามืดขนาดใหญ่ได้ห่อหุ้มเธอไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว เธอไม่อยากบุกฝ่าความมืดมิดนี้ เรี่ยวแรงสักนิดเธอก็ไม่มีแล้ว

หลังจากเย่เฉ่าเฉินได้รับโทรศัพท์จากพ่อบ้านหวัง จึงขับรถกลับบ้านอย่างรีบร้อน

"เวยเวยเป็นอย่างไรบ้าง? " เย่เฉ่าเฉินเพิ่งจะลงจากรถก็เอ่ยถามพ่อบ้านหวังอย่างร้อนใจ

"พักผ่อนอยู่บนห้องแล้ว"

เย่เฉ่าเฉินรีบเดินขึ้นไปชั้นบน มาถึงห้องนอนของตนเอง มู่เวยเวยก็หลับไปแล้ว

เขาถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก นั่งอยู่ข้างเตียงมองหน้าเธออย่างเคร่งขรึมและด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง

เส้นทางนี้ ใจของเขาถูกมือใหญ่คู่หนึ่งจับไว้แน่น ทุกลมหายใจนำพามาซึ่งความเจ็บปวดที่เสียดแทงถึงกระดูก เขาวิ่งฝ่าไฟแดงนับไม่ถ้วน จนเกือบเกิดอุบัติเหตุ เขาไม่อยากจะเชื่อ หลังจากที่มู่เวยเวยสงบลงเป็นเวลาหลายวันอย่างนี้ ยังคงทำเรื่องที่เด็ดเดี่ยวเช่นนี้ เย่เฉ่าเฉินเริ่มสงสัยว่า ระหว่างสูญเสียเธออย่างสิ้นเชิงและปล่อยเธอไป เขาจะเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า

เขาคิดมาตลอด เวลาสามารถทำให้ความเจ็บปวดของบาดแผลหายไปได้ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหายเป็นปกติได้ ก็สามารถทำให้เธอกลับมามีชีวิตที่ปกติได้ เขาคิดผิดเหรอ

จริงๆแล้ว ต้องปล่อยเธอไปใช่ไหม?

แล้วเด็กคนนั้นจะทำอย่างไร?

นี่เป็นลูกคนแรกของเขา เขาจะยอมให้ลูกออกไปเร่ร่อนอดอยากข้างนอกได้อย่างไร?

แต่ไม่ให้เธอไป ชีวิตของเธอจะถูกใช้ไปทีละน้อยๆ จนหมดสิ้นในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้ นี่ไม่ใช่จุดจบที่เขาต้องการ เขาไม่อยากให้เธอตาย

มู่เวยเวย เมื่อก่อนคุณเด็ดเดี่ยวเข้มแข็งไม่ยอมแพ้นะ? หายไปไหนแล้ว? คุณรู้ไหม ฉันยอมให้คุณทะเลาะกับฉันทุกวันจะดีกว่า ต่อให้คุณจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะแก้แค้นฉัน ก็ไม่อยากให้คุณเงียบจนเหมือนกับหุ่นกระบอกเช่นนี้

เย่เฉ่าเฉินงอนิ้วของเขา สัมผัสใบหน้าของเธอเบาๆ ด้วยหลังมือ เป็นเวลานานมากแล้วที่เขาไม่ได้มองเธอใกล้ๆ แบบนี้

เพื่อไม่ให้เธอดูเขาอย่างรังเกียจ เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ ได้แต่เพียงอยู่ในมุมที่เธอมองไม่เห็นเท่านั้น จ้องมองภาพด้านหลังของเธอ

เย่เฉ่าเฉินไม่เคยรักใคร จะมีก็แต่ความสะเทือนใจที่มาจากเฉียวซินโยวเท่านั้น จากนั้นก็เป็นมู่เวยเวย เขาไม่รู้ว่าควรจะรักเธออย่างไร สิ่งที่เขาต้องการมอบให้เธอคือสิ่งที่เธอไม่ต้องการ สิ่งที่เธอต้องการ ทว่าเขาไม่สามารถให้ได้

อยู่ในห้องสักพัก เย่เฉ่าเฉินก็ออกไปอย่างเงียบๆ

พ่อบ้านหวังนึกถึงบทสนทนาของเขากับฉินหม่าเมื่อตอนบ่าย ก็พูดกับเย่เฉ่าเฉินว่า "คุณชาย คุณหนูจะสูญเสียจิตใจไปถ้ายังคงเป็นเช่นนี้อยู่ ความเจ็บปวดทุกข์ใจของเธอนี้ คุณต้องการจิตแพทย์สักคนมาช่วยพูดโน้มน้าวใจเธอหน่อยไหม? "

เย่เฉ่าเฉินนวดๆ ขมับที่ปวด ฟังคำพูดนี้ของพ่อบ้านหวัง ก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ "งั้นก็ให้หมอหานลองหาจิตแพทย์ดีๆ มา"

"ตกลง ฉันจะไปโทรหาหมอหานเลย"

……

วันที่สอง หมอหานก็พาเพื่อนจิตแพทย์ของตนเองมา เป็นสาวสวยวัยรุ่น สวมแว่นตา ในแววตานำมาซึ่งแสงแห่งการสืบเสาะหา

"คุณเย่ นี่คือเพื่อนของฉัน เป็นจิตแพทย์ที่ดีที่สุด

หมอคนสวยยื่นมือออกมา "สวัสดีค่ะ ฉันซิ่งเหยียน เรียกฉันว่าหมอเหยียนก็ได้"

เย่เฉ่าเฉินจับเบาๆ เล็กน้อยแล้วปล่อยทันที "เย่เฉ่าเฉิน"

"คนไข้อยู่ไหนคะ? " หมอเหยียนทักทายพอเป็นพิธี ก็เข้าประเด็นเลย เพราะว่าเวลาของเธอนับเป็นนาที

"กรุณาตามฉันมา" เย่เฉ่าเฉินพาทั้งสองไปที่ประตู ผลักเปิดประตูแล้วพูดว่า "พวกคุณเข้าไปดูสักหน่อยก่อน"

มู่เวยเวยนั่งอาบแดดอยู่ที่ระเบียง สวมชุดคลุมถักสีเทาควันบุหรี่ ท้องนูนขึ้นเล็กน้อย ผมยาวสยายอยู่บนบ่า มองแวบแรกเธอดูเหมือนผู้หญิงที่สุภาพและอ่อนโยนมาก

ได้ยินเสียงฝีเท้า เธอก็ไม่หันมา ตอนนี้เธอหมดความสนใจในทุกสิ่งไปแล้ว

"เวยเวย สีหน้าคุณดูดีขึ้นมากเลย" หมอหานเดินเข้าไปใกล้ๆ เธอ ยิ้มแล้วพูดอย่างอบอุ่น

มู่เวยเวยหันมามองเขา พูดเบาๆ ว่า "หมอหาน นี่คุณพูดตลกเกินไปแล้ว"

"คาดไม่ถึงว่าจะฟังออกว่าฉันพูดเล่น? " หมอหานประหลาดใจ พูดต่อว่า "คุณเป็นคนที่ดื้อรั้นที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา ฉันจำไม่ได้ว่าช่วยคุณไว้กี่ครั้งแล้ว"

"ฉันก็จำไม่ได้" ดวงตาของมู่เวยเวยมองไปที่สระว่ายน้ำที่อยู่ไกลๆ เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยยืมเงินเย่เฉ่าเฉินหนึ่งล้าน ถูกเขาแกล้งให้กระโดดลงสระว่ายน้ำเพื่อหาปากกา ท้ายที่สุดก็เกือบจมน้ำตาย ครั้งนั้นก็เป็นหมอหานที่ช่วยเธอไว้

ตอนนี้กลับมาคิด ก็อดถอนหายใจไม่ได้ ในตอนแรกตนเองมุ่งมั่นที่จะเข้ามาได้อย่างไร?

ถ้าเธอรู้หลายสิ่งหลายอย่างจะเกิดขึ้นในภายหลังแบบนี้ แน่นอนว่าเธอจะไปตามโชคชะตา จมน้ำตายในสระว่ายน้ำก็จบ ก็ตัดเรื่องราวมากมายในภายหลังทิ้งไป บางทีพี่ชายก็ไม่ต้องมาตาย

"เวยเวย นี่คือเพื่อนของฉัน คุณสามารถคุยเล่นกับเขาได้ไหม? " หมอหานพูดอย่างระมัดระวัง

มู่เวยเวยไม่ลืมตา พูดอย่างเย็นชาว่า "อยากคุยอะไร? "

หมอเหยียนนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามเธอ ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า "คุยอะไรก็ได้ ฉันเป็นผู้ฟังที่ดีมาก"

"แต่ฉันไม่มีอะไรอยากจะพูด" มู่เวยเวยพูดถึงตรงนี้ก็หยุด หันไปมองหมอเหยียน "บางที คุณก็สามารถบอกฉันได้ ว่าวิธีตายแบบไหนที่จะไม่สามารถถูกค้นพบ"

หมอเหยียนนิ่งอึ้งไปสองสามวินาที เธอแทบไม่เคยเห็นคนไข้ถามคำถามแบบนี้เลยในครั้งแรกที่พบกัน เธอได้กลิ่นลมหายใจแห่งความสิ้นหวังและความเบื่อหน่ายที่มีต่อโลกบนตัวมู่เวยเวย

เมื่อวานตอนเย็น หมอหานได้บอกเล่าข่าวคราวเกี่ยวกับมู่เวยเวยให้เธอฟัง ในเวลาเดียวกันเธอก็ตกตะลึงกับความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของเธอ ก็ยังเห็นใจเธออย่างสุดซึ้ง

"เวยเวย คุณเห็นแสงแดดข้างนอกดีขนาดนี้ ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างคุ้มค่าที่เราจะค้นหาติดตาม ทำไมถึงอยากจะตายล่ะ? "

มู่เวยเวยยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน "แล้วสิ่งเหล่านั้นเกี่ยวข้องอะไรกับฉัน? ท้ายที่สุดก็ต้องสูญเสียมันไป ฉันแค่อยากไปถึงจุดจบของชีวิตก่อนเวลาก็เท่านั้น คงจะเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม? "

หมอเหยียนมองใบหน้าที่เย็นชาของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "พูดสิ่งที่อยู่ในใจของคุณกับฉันได้ไหม? "

มู่เวยเวยเงียบไป เธอไม่อยากพูด แล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าพูดด้วย

"อย่าแบกภาระอะไรไว้ในใจเลย คุณว่าฉันเป็นโพรงไม้ก็ได้ อยากพูดอะไรก็ได้ทั้งสิ้น โปรดเชื่อมั่นในจรรยาบรรณในวิชาชีพของฉัน" เธอส่งสายตามให้หมอหาน หมอหานพยักหน้า แล้วเดินออกไป

ที่หน้าประตู เย่เฉ่าเฉินกอดอกและรออย่างใจจดใจจ่อ เห็นหมอหานออกมา ก็รีบถามว่า "เป็นอย่างไรบ้าง? "

"หมอเหยียนกำลังคุยกับเธออยู่"

เย่เฉ่าเฉินมองไปที่ประตูที่ปิดแน่นอยู่ มีความกังวลใจเล็กน้อย

ถ้าจิตแพทย์ยังไม่มีหนทาง เขาก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรแล้วจริงๆ

เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา หมอเหยียนเดินออกมาอย่างค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อย เธอมองไปที่ตาสีฟ้าของเย่เฉ่าเฉิน "ภรรยาของคุณมีอาการซึมเศร้าอย่างรุนแรง เธอปฏิเสธที่จะคุยกับฉัน"

"แต่คุณอยู่ด้านในนานขนาดนั้น……"

"เธอถามฉันเป็นประโยคซ้ำแล้วซ้ำเล่า"

เย่เฉ่าเฉินมีลางสังหรณ์ไม่ดี แต่ยังคงถาม "ว่าอะไร? "

หมอเหยียนพูดอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม "วิธีตายได้อย่างไร จึงจะได้ผลมากที่สุด"

สมองของเย่เฉ่าเฉิน"วึ้ง"ไปเล็กน้อย ตามด้วยการหายใจถี่ขึ้นมา เขาต้องเสียเธอไปจริงๆ ใช่ไหม?

"คุณเย่ สำหรับคนที่จดจ่อต้องการอยากตาย คุณต้องมีความอดทนมากยิ่งขึ้น" หมอเหยียนใจไม่แข็งพอ อย่างไรก็ตามมู่เวยเวยยังอายุน้อยเช่นนั้น

"ฉันรู้ แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจคำพูดอะไรของใครทั้งนั้น ฉัน……" เย่เฉ่าเฉินพูดด้วยความเจ็บปวดใจ "หนทางสักนิดฉันก็ไม่มี"

หมอเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "พรุ่งนี้ฉันจะมีอีกครั้งหนึ่ง ดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม"

"รบกวนด้วย" เย่เฉ่าเฉินขอบคุณอย่างสุดซึ้งออกมาจากใจ

"นี่เป็นความรับผิดชอบของหมอ ฉันไปก่อนนะ"

กลุ่มคนมาถึงประตู เมื่อจะขับรถออกไป หมอเหยียนก็พูดว่า "การที่เธออยู่ในบ้านตลอดมันก็ไม่ดี มีเวลาก็พาเธอไปที่ที่ชอบเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ มีส่วนช่วยในการรักษา"

"ขอบคุณมาก"

หลังจากที่ทั้งสองคนออกไปแล้ว เย่เฉ่าเฉินพยายามคิดอย่างหนัก ว่าเธอชอบที่ไหน? เธอมีสถานที่ที่ชอบไหม? ถึงแม้ว่ามี แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เคยบอกเขา

เดี๋ยวนะ เย่เฉ่าเฉินนึกออกสถานที่หนึ่ง ไม่รู้ว่าเธอจะชอบไหม แต่จะไม่สามารถไม่ชอบได้อย่างแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ