วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 185

มู่เวยเวยสำลัก อยากจะบอกว่า สาวประเภทสองคนนี้ก็เป็นของปลอม

เมื่อสงบสติอารมณ์ลงแล้วมาคิดๆดู ถึงเธอจะมีเงิน ตัวเองก็ไม่ได้ไปขอยืมเงินเธอ จะมีความกดดันอะไร? ในสายตาของฉันคือพฤติกรรมของเธอถูกชะตา ไม่ใช่เงินทองของเธอ

เมื่อคิดแบบนี้ มู่เวยเวยก็รู้สึกดีขึ้นมาก

รถจอดอยู่ชั้นล่างในโรงแรมหรูหรา เย่ฉ่าวเฉินจัดให้ทุกคนพักผ่อนก่อนแล้วจึงไปพบลูกค้าหลังทานอาหารกลางวัน

มู่เวยเวยรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เมื่อวานก่อนออกจากบ้านเธอใส่แค่ชุดออกกำลังกาย และเอาชุดลำลองหนึ่งชุด เธอคงไม่สามารถสวมเสื้อยืดและรองเท้าผ้าใบเพื่อเข้าร่วมการประชุมหรอก นี่คงเป็นการไม่ให้เกียรติฝ่ายตรงข้าม

พวกเขาเลือกทานอาหารง่ายๆในโรงแรม เย่ฉ่าวเฉินกำหนดเวลาการประชุมในช่วงบ่ายสองโมงครึ่ง

"ฉู่เหยียน เธออยู่ไหน?" เย่ฉ่าวเฉินวิ่งไปหามู่เวยเวยอย่างเร่งรีบหลังจากวางสาย

มู่เวยเวยพูดอย่างช่วยไม่ได้ " ฉันไม่มีชุดใส่ไปพบลูกค้าบ่ายนี้ รองเท้าด้วย เมื่อกี้ฉันถามพนักงานต้อนรับแล้วเขาบอกมีห้างสรรรพสินค้าใกล้ๆ ฉันต้องไปซื้อชุดมาเปลี่ยน"

เย่ฉ่าวเฉินมองไปที่เธอ สวมเสื้อยืดสีขาวและรองเท้าผ้าใบนั้นดูไม่เป็นทางการ "เธอจะไปคนเดียวหรอ?"

"ถังซือซวินพวกเขายังดูเอกสารอยู่เลย ฉันจะกล้าไปรบกวนได้ไง? จะว่าไปแล้วก็เกรงใจนะ"

เย่ฉ่าวเฉินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและพูดว่า "ฉันจะไปกับเธอเอง ตอนนี้ว่างพอดี"

"จริงหรอ? ถ้าอย่างงั้นก็ดีเลย เธอไม่รู้หรอกว่าฉันขี้หลงทางแค่ไหน แค่เปลี่ยนสถานที่ก็แยกไม่ออก เหนือกลางใต้ละ" มู่เวยเวยหัวเราะพร้อมกับเดินออกไป "มีเธออยู่ด้วยก็ไม่ต้องกลัวหลงทางแล้ว"

เย่ฉ่าวเฉินเดินตามเธอออกไปและถามเธอว่า "ไกลไหม? หรือว่าให้จางเหอเอารถมา"

"ไม่ต้องหรอก ผู้จัดการบอกว่ามันอยู่แค่แยกข้างหน้าใกล้ๆนี้ ดูตอนนี้เป็นเวลาพักกลางวันรถติดมาก พวกเราเดินไปน่าจะไวกว่า"

“ งั้นไปกันเถอะ”

เย่ฉ่าวเฉินกับมู่เวยเวยเดินไม่ถึงสิบนาที พวกเขาก็เห็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อยู่ตรงหัวมุม สองคนขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสามโซนเสื้อผ้าสตรี แค่แวบเดียวเย่ฉ่าวเฉินก็เห็นเสื้อผ้าสตรีของเย่ฮวาง

“ วันนี้ฉันจะซื้อเสื้อให้เธอเอง” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม

“ ซื้อให้ฉันทำไม?” มู่เวยเวยแปลกใจเล็กน้อย

"นี่ ดูสิ" เย่ฉ่าวเฉินยกคางขึ้นเบาๆและชี้ "นี่คือฉันเอง ถ้าเธอตาถึง เลือกตามสบายเลย"

"ฮ่าฮ่า ประธานเย่ใจถึงจริงๆ" มู่เวยเวยเดินไปที่ร้านก่อน เธอเห็นกระโปรงสีฟ้าขาวตรงหน้ารู้สึกคุ้นตามาก เหมือนที่เหอเหมยหลิงออกแบบเลย

พนักงานในร้านเดินมาทักทาย ทันทีที่เห็นเย่ฉ่าวเฉินก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เมื่อมั่นใจว่าใช่แล้ว แทบจะพูดไม่ออก

“ ประธานเย่ สะ......สวัสดี”

เย่ฉ่าวเฉินพยักหน้าให้เธอ และมองไปรอบๆ ชี้ไปชุดที่หุ่นนางแบบและพูดกับมู่เวยเวยว่า "ชุดนี้ชอบไหม?"

มู่เวยเวยมองตามนิ้วที่เขาชี้ มันเป็นชุดเดรสยาวถึงเข่าสีขาวที่มีกลีบดอกไม้กระจัดกระจายอยู่บนกระโปรงดูหรูหราและอ่อนโยน

"ไม่เลวนะ ฉันจะลอง"

"ขอไซส์ M ให้เธอหน่อย" เย่ฉ่าวเฉินพูดกับพนักงาน

"ได้ค่ะประธานเย่"

มู่เวยเวยหัวเราะและล้อเขา“ประธานเย่รู้ไซต์ของผู้หญิงดีจังเนอะ”

เย่ฉ่าวเฉินหยิ่งผยองมาก "ก็ฉันมีแบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิงด้วยนิ ถ้าไม่รู้สักหน่อยจะเป็นเจ้านายพวกเขาได้ยังไง"

ขณะที่ทั้งสองกำลังหยอกล้อกัน พนักงานก็ถือเสื้อและเดินมา "สวัสดีค่ะ ห้องลองชุดอยู่ทางนุ้น"

มู่เวยเวยเข้าไปลองเสื้อผ้า เย่ฉ่าวเฉินก้มลงดูโทรศัพท์มือถือของเขาและเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องเปิดก็เงยหน้าขึ้น

กระโปรงสีขาวอยู่บนร่างอันงดงามของเธอ ผมยาวคลุมไหล่ คิ้วและดวงตาที่มีเสน่ห์

“ ดูงดงามมาก” มู่เวยเวยหันซ้ายหันขวาที่หน้ากระจก เพราะเพิ่งคลอดลูก ทำให้หน้าอกของเธอใหญ่กว่าขนาดเมื่อก่อนและส่วนบนของเธอก็ตึงเล็กน้อย

สายตาของใครบางคนเห็นแล้วลอยล่อง แววตาเป็นประกาย หยิบเสื้อผ้าอีกชุดหนึ่งยื่นให้เธอ"ฉันแนะนำให้ลองชุดนี้ดีกว่า"

"ทำไมล่ะ? ชุดที่ฉันใส่อยู่ก็สวยมากนิ" มู่เวยเวยยังคงจมอยู่กับความสวยงามในกระจก

"มันสวยมาก แต่ถ้าเธอใส่ชุดนี้ไปพบลูกค้า ลูกค้าผู้ชายทุกคนต้องจ้องเธอตาเป็นมันแน่"

มู่เวยเวยมองเขาอย่างโกรธ ๆ “พวกผู้ชายแบบเธอนี่นะ ผู้หญิงอยากใส่ชุดที่ตัวเองชอบก็ต้องคิดถึงสายตาพวกเธอ เหอะๆ เธอว่าถ้าฉันใส่ชุดนี้ไป ฝ่ายตรงข้ามจะประเมินราคาต่ำให้เราไหม”

เย่ฉ่าวเฉินยัดเสื้อผ้าใส่มือเธอเปิดประตูห้องลองเสื้อ ยิ้มและพูดว่า“ตระกูลฉู่คงยังไม่ถึงขั้นที่คุณหนูต้องไปขายความงามหรอก คุณหนูฉู่ให้ไวเลย เราไม่มีเวลาแล้ว”

มู่เวยเวยยักไหล่และเดินเข้าไปห้องลองเสื้อ เมื่อเธอเดินออกมาก็เป็นชุดธรรมดาที่ไม่สะดุดตาใคร อย่างไรก็ตามรากฐานของเธออยู่ที่นั่นไม่ว่าเธอจะสวมชุดไหนก็สวยงามไปหมด

"เอาล่ะ ชุดนี้เลย" มู่เวยเวยมองตัวเองในกระจก เธอสวยและสง่างาม

"ถ้างั้นก็ใส่มันไปเลย ช่วยเอากรรไกรมาให้หน่อย" เย่ฉ่าวเฉินบอกกับพนักงาน

เย่ฉ่าวเฉินตัดป้ายออกให้เธอ ตอนเธอกำลังลองชุดเขาได้รูดการ์ดจ่ายไว้แล้ว ต่อให้เป็นท่านประธาน ก็ไม่สามารถละเมิดข้อบังคับของบริษัทได้

จะว่าไปแล้ว ยังไงก็เข้ากระเป๋าตัวเองอยู่ดี

พนักงานยื่นถุงให้เย่ฉ่าวเฉินสองถุง ถุงแรกคือเสื้อผ้าของมู่เวยเวย อีกถุงคือชุดแรกที่เธอชอบ

“ ประธานเย่ใจป๋าจังเลย ซื้อให้ตั้งสองชุด”

"เธอเคยเรียนการออกแบบแฟชั่นในยุโรปมา และยังตาถึงมองเห็นแบรนด์ของเรา นี่ถือเป็นเกียรติของเราเลยนะเนี่ย" เย่ฉ่าวเฉินพูดและหัวเราะ

"ฮ่าฮ่า ได้อยู่ได้อยู่" มู่เวยเวยพูดกลบเกลือนสั้นๆ เพราะเธอไม่มีความมั่นใจ ถ้าเกิดเขาถามถึงโรงเรียนขึ้นมา ตัวเองก็จะถูกเปิดเผย

รองเท้าอยู่ที่ชั้นสี่ มู่เวยเวยไม่มีเวลาแล้ว เธอจึงซื้อรองเท้าส้นเข็มสีเงินคู่กับกระโปรงของเธอ คาดไม่ถึงว่ารองเท้าคู่นี้จะทำร้ายเธอในตอนบ่าย

......

เย่ฉ่าวเฉินแนะนำให้พวกเขารู้จักกับซัพพลายเออร์ มีชื่อว่าจ้าวเผยหยัน พวกเขารู้จักกันในสาขาธุรกิจ ทั้งคู่ชื่นชอบพฤติกรรมของกันและกัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีมาก เพียงแต่ปีที่ผ่านมาเย่ฉ่าวเฉินมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นมากมาย จึงไม่ได้ติดต่อกัน

"แกไม่โทรหาฉันเลยเป็นเวลานานมาก ฉันคิดว่าลืมเพื่อนอย่างฉันแล้วซะอีก" จ้าวเผยหยันจับมือของเย่ฉ่าวเฉิน และปล่อยอย่างรวดเร็ว

“ มันยุ่งมากจริงๆ” เย่ฉ่าวเฉินกล่าวขอโทษ

“ ยุ่งเป็นข้ออ้างนั่นแหละ คืนนี้ห้ามไปไหน อยู่เมาด้วยกันก่อน”

"ไม่มีปัญหา" เย่ฉ่าวเฉินแนะนำคนข้างๆเขา "นี่คือฉู่เหยียนผู้รับผิดชอบโครงการสวนสนุกของบริษัทMK ในเมืองA และพวกเขาทั้งหมดก็เป็นผู้จัดการของบริษัท ประธานฉู่ นี่คือจ้าวเผยหยันประธานจ้าว ผู้จำหน่ายชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองGและเมืองS "

ความกระตือรือร้นในดวงตาของจ้าวเผยหยันหายไปและแทนที่ด้วยสายตาที่สุภาพ เขายื่นมือออกมาและพูดว่า "ประธานฉู่ พบกันครั้งแรก ฉันหวังว่าเราจะร่วมงานได้ด้วยดี"

“ ฉันก็หวังอย่างนั้น” มู่เวยเวยจับมือเขา และปล่อย

นี่คือครั้งแรก ที่มู่เวยเวยรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้สุภาพ ผู้ชายส่วนใหญ่เห็นเธอครั้งแรกมักจะพูดว่า "คุณฉู่ คุณสวยมาก" "คุณฉู่ดูยังสาวยังสวยอยู่เลย" และอื่นๆ แต่เขากลับไม่สนใจเธอเลย และพูดตรงไปตรงมามาก

จ้าวเผยหยันเชิญทุกคนไปที่ห้องประชุมของบริษัท ก่อนอื่นก็ให้คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับสถานการณ์ข้อมูลของบริษัท จากนั้นก็เอารูปถ่ายผลิตภัณฑ์ของเครื่องเล่นในสวนสนุกให้มู่เวยเวยและคนอื่นดู

"ภาพถ่ายไม่เห็นถึงการใช้งาน หากคุณสนใจสามารถไปที่โรงงานของเราได้ รับประกันคุณภาพดีแน่นอน"

"ถ้างั้นไปกันเลยดีกว่า" ถังซื่อเซวียนพูดขึ้น

"ได้เลย"

ทันใดนั้นทุกคนก็ไปที่โรงงาน ระหว่างทางมู่เวยเวยไม่พูดอะไรเลย มีแต่บทสนทนาของถังซื่อเซวียนกับจ้าวเผยหยัน ผ่านไปสักพัก จ้าวเผยหยัน ก็ดึงเย่ฉ่าวเฉินไปข้างๆและกระซิบพูดว่า“ ประธานฉู่คนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ชอบพูดเลย”

เย่ฉ่าวเฉินยิ้มและพูดอย่างห้วนๆว่า "เธอแค่มาเป็นหน้าเป็นตาที่นี่ อำนาจในการตัดสินใจทั้งหมดเป็นของประธานถัง ดังนั้นแค่เธอคุณกับประธานถังก็พอแล้ว"

จ้าวเผยหยันแสดงท่าทีเข้าใจออกมา และพูดในใจว่าเป็นผู้หญิงร่ำรวยที่ต้องมาสัมผัสชีวิตลำบาก

ดังนั้นจ้าวเผยหยันจึงไปอยู่ข้างๆถังซื่อเซวียน แนะนำชิ้นส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับชิงช้าสวรรค์ในโรงงานอย่างละเอียด

เหมือนเป็นการปลดปล่อยมู่เวยเวยเลย พูดพวกนี้กับเธอก็ทำให้เธอไม่มีความสุข เพราะในตอนนี้รองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้าใหม่และตอนนั้นไม่ได้ลอง ไม่คาดคิดว่าหลังจากเดินไปสักพักรองเท้าก็กัดเท้าเธอจนได้รับบาดเจ็บ

เย่ฉ่าวเฉินมองดูเธอยิ่งเดินยิ่งช้า แถมยังทำหน้าบึ้ง เดินมาหาเธอและกระซิบถาม "เป็นอะไร? ไม่สบายตัวหรอ?"

มู่เวยเวยชี้ไปที่ข้อเท้า "รองเท้าใหม่ กัดเท้า"

เย่ฉ่าวเฉินก้มลงมอง ข้อเท้าสีขาวบางของผู้หญิงถลอกเป็นสีแดง แต่ยังไม่มีเลือดออก

"ถ้างั้น……"

"ไม่เป็นไร ฉันแค่เดินช้าๆก็พอแล้ว ฉันคงไม่อยากให้ตระกูลฉู่ขายหน้า" มู่เวยเวยยิ้มฝืนๆ"ยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงโดนรองเท้าใหม่กัดก็เป็นเรื่องธรรมดา"

เมื่อเห็นสิ่งที่เธอพูด เย่ฉ่าวเฉินก็ต้องยอมใจเธอ เพราะในโรงงานก็ไม่มีอะไรช่วยได้

จ้าวเผยหยันและถังซื่อเซวียนสนทนากันอย่างเพลิดเพลินอยู่ข้างหน้า หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็เยี่ยมชมโรงงานทั้งหมดครบ ถังซื่อเซวียนพูดกับมู่เวยเวยด้วยความพอใจว่า"ประธานฉู่ ฉันคิดว่าเจ้านี้ไม่เลว ถ้าหากราคารับได้ พวกเราก็ตกลงเอาเจ้านี้เถอะ"

"ได้สิ" จริงๆในใจมู่เวยเวยอยากบอก เธอดีใจก็พอละ ฉันแค่อยากกลับโรงแรม

เมื่อกลับมาถึงรถ มู่เวยเวยโล่งใจก้มลงไปดูเท้าที่โดนรองเท้ากัด ตอนไม่มองก็ไม่เป็นไร มองแล้วก็ถอนหายใจออกมา

ข้อเท้าข้างซ้ายของเธอเสียดสีจนเป็นตุ่มพอง สีขาวนูนป่อง ถ้าไปแตะโดนมันจะแตก เท้าขวารุนแรงกว่ามีเลือดไหลออกมาจนทำให้เชือกสีเงินกลายเป็นสีแดง

“ นี่มันรองเท้าบ้าอะไรเนี่ย เจ็บชะมัด” มู่เวยเวยบ่นออกมาเบาๆ ต่อไปนี้จะซื้อรองเท้าคงต้องลองดีๆแล้ว

ประตูรถเปิดออก เย่ฉ่าวเฉินเข้ามานั่งในรถ สายตามองไปที่ข้อเท้าเธอ รู้สึกเจ็บแทนในใจ พูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงว่า"มันถลอกหรอ? เมื่อกี้ทำไมไม่บอก?"

"ฉันก็เพิ่งเห็นเหมือนกัน" มู่เวยเวยพิงเก้าอี้ยิ้มอย่างขมขื่น "เห็นหรือยัง ผู้หญิงเพื่อความสวยงามต่อให้เลือดตกยางออกก็ยอม"

"พอแล้ว จะมาอวดเก่งให้ได้อะไร" เย่ฉ่าวเฉินหันกลับมาและสั่งจางเหอที่กำลังขับรถ "ถ้าเห็นร้านขายยาก็หยุด ซื้อยาทำแผล"

“รับทราบครับคุณชาย”

เย่ฉ่าวเฉินขมวดคิ้วและมองข้อเท้าที่แดงระเรื่อ ไม่รู้จะทำอย่างไร เขาไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน

"อย่ามาจ้องมันสิ เธอยิ่งมองฉันยิ่งรู้สึกเจ็บ" มู่เวยเวยบอก

"ตอนกลางคืนมีดื่มสังสรรค์ ดูเธอตอนนี้ก็ไม่ต้องไปร่วมงานละ"

"ฉันไม่ไปร่วมได้หรอ? จริงๆก็ไม่ชอบไปงานอะไรแบบนี้" มู่เวยเวยพูดและหลับตาลง

ใจของเย่ฉ่าวเฉินแทบร่วงไปถึงตาตุ่ม“ ถ้าอย่างนั้นเธอก็พักผ่อนอยู่ที่โรงแรม ฉันจะบอกประธานจ้าวเอง เพราะยังไงพวกเธอก็เป็นฝ่ายซื้อ”

"ขอบคุณนะ"

ในใจของเย่ฉ่าวเฉิน เขากลัวว่าจะเมาไม่ได้สติจนอ้วก และเขาก็ไม่ยอมให้มู่เวยเวยไปสังสรรค์กับคนอื่น เธอเป็นภรรยาของตัวเองก็ต้องดูแลเธอดีๆ ไม่ใช่ให้เธอมาดูแล

ไม่นานหลังจากรถเข้าเมือง จางเหอก็เห็นร้านขายยาและค่อยๆจอดรถไว้ข้างทาง

"ไม่ต้องขยับ เดี๋ยวฉันไปซื้อเอง" เย่ฉ่าวเฉินหยุดมู่เวยเวยที่กำลังจะเปิดประตูรถ และรีบลงจากรถเข้าไปที่ร้านขายยา

มู่เวยเวยมองเขาที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกในใจ ดูเหมือนว่าฉู่เหยียนและเย่ฉ่าวเฉินมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นมาก

หลังจากนั้นไม่นาน เย่ฉ่าวเฉินก็เดินออกมาจากร้านขายยาพร้อมถุงเล็กๆ ข้างในมียา

เย่ฉ่าวเฉินเข้าไปในรถและถามเธอว่า "จะทายาตอนนี้หรือกลับไปทาที่โรงแรม?"

"กลับไปทาที่โรงแรม" จะทาบนรถยังไงพื้นที่แคบขนาดนี้? เธอพรึมพรำในใจ

"ก็ได้ จางเหอ ขับเร็วหน่อย"

เย่ฉ่าวเฉินพยุงมู่เวยเวยเข้าไปในโรงแรมและในลิฟต์ จากนั้น

ห้องนอน

"อันนั้น เดี๋ยวฉันทำเอง เธอรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ วันนี้ขอบคุณมากๆนะ" มู่เวยเวยนั่งลงบนโซฟาและมองเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำ

"ฉันไม่เหนื่อย" เย่ฉ่าวเฉินเดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูชุบน้ำ "เช็ดหน้าก่อน"

มู่เวยเวยทำตัวไม่ถูก ในขณะที่เธอกำลังเช็ดหน้า ก็ถูกอุ้มขึ้นไปวางอยู่บนตักของเขา

ผู้หญิงตกตะลึง กำลังจะพูดว่า "ฉันจะทำเอง" เท้าที่เป็นแผลของเธอก็รู้สึกเจ็บจนร้องออกมา"โอ้ย เจ็บเจ็บเจ็บ เบาหน่อยสิ"

เย่ฉ่าวเฉินเป็นผู้ชาย เขาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน เขาถอดรองเท้าแรงไปหน่อยจนมู่เวยเวยร้องออกมา เขาก็เบามือลง

รองเท้าทั้งสองข้างถูกโยนลงบนพื้น เท้าทั้งสองข้างก็ถูกเสียดสีจนแดงไปหมด

"ฉันถามคนในร้านขายยาแล้ว เขาบอกว่าแผลตุ่มพองห้ามทำแตกเพราะกลัวติดเชื้อ ฉันจะเอาผ้ากอซติดให้เพื่อป้องกันเชื้อโรค" เย่ฉ่าวเฉินพูดในขณะที่กำลังแกะถุงผ้ากอซ ติดแผ่นผ้ากอซขนาดใหญ่ที่ตุ่มพอง และใช้เทปขาวติดผ้ากอซไว้

มู่เวยเวยเฝ้าดูเขาทำทุกอย่างเงียบๆ รู้สึกทั้งอึดอัดทั้งมีความสุขในใจ

"ทนหน่อยนะ ที่ถลอกต้องฆ่าเชื้อ" เย่ฉ่าวเฉินก้มหน้าและยุ่งไม่ทันสังเกตเห็นการแสดงออกที่ซับซ้อนในดวงตาของเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ