วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 228

เป็นอย่างที่คิดไว้ กับที่อลิซพูดไม่ต่างกันแม้แต่น้อย เธอมาถึงห้องอาหาร ประตูก็ปิดหมดแล้ว

"คุณมาทำอะไรอยู่ที่นี่?"

มู่เวยเวยตกใจ หมุนตัวกลับไปเห็นกาวินยืนอยู่ไม่ไกล แววตาเย็นชา

"ฉัน เมื่อเช้าฉันยุ่งจนลืม รับประทานอาหารเช้า" มู่เวยเวยพูดอย่างทำตัวไม่ถูก

กาวินมองเธอพูดอยู่อย่างเงียบๆพูดขึ้นว่า"ตามผมมา"

มู่เวยเวยไม่ได้คิดอะไรมาก เข็นรถเด็กตามเขาไป ลูกเห็นเขาแล้วมีความสุขก็ร้องอ้อแอ้ออกมา กาวินก็ไม่ได้หลีกเลี่ยง คว้าที่เอวของเขาออกมาจากรถเด็ก

"ที่รัก เมื่อคืนหลับดีไหม?" เสียงเล็กของเขาถาม ถ้าหากว่ามู่เวยเวยไม่ได้เห็นกับตา เธอไม่มีทางเชื่อว่าผู้ชายคนนี้มีน้ำเสียงที่อบอุ่น

เด็กน้อยหัวเราะคิกคักเสียงอ้ำๆอึ้งๆไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร แต่ว่ามู่เวยเวยดูออก ลูกชอบกาวินมาก

"หลับสบายไหม?" กาวินมีความอดทนที่จะคุยกับเขา

"อา——"

"โอเค ฉันรู้แล้ว รออีกสักครู่ฉันจะพาไปเล่นที่ชายหาดดีไหม?"

เด็กน้อยปรบมืออย่างดีใจ ไม่ยอมรับไม่ได้เลยว่า ไอคิวของเขาแตกฉานแล้ว ได้เจอเด็กอัจฉริยะอย่างนี้ ไม่มีใครไม่ชอบ

แต่ทว่ามู่เวยเวยมีความรู้สึกแปลกใจ ไม่ใช่ว่าเขาได้แผนที่ล้ำค่าที่สมบูรณ์แล้วเหรอ?ทำไมยังไม่ออกเดินทาง?หรือว่าคนของเขาไปนานแล้ว เขารอข่าวอยู่ที่นี่ก็พอ

เกิดคำถามมากมายกาวินก็พาเธอมาที่ห้องรับแขก หน้าต่างกระจกที่ใหญ่โตด้านในกว้างขวางสว่างไสว โซฟาวงกลมฝีมือละเอียดและงดงาม ตรงกลางเป็นโต๊ะคริสตัลหนึ่งตัว บนโต๊ะมีผลไม้กับอาหารว่างหลายชนิด

"เชิญนั่งตามสบาย " กาวินพูดอย่างไม่อะไร "ถ้าหิวแล้วก็รับประทานอาหารว่างรองท้องก่อน"

มู่เวยเวยมองเขาอย่างสงสัย ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงทำดีกับเธอขึ้นมาทันที?ไม่คุ้นชินเลย

กาวินไม่ได้สนใจเธอ และนั่งเล่นลงที่โซฟากับเด็กน้อย สองมือจับที่แขนของเด็ก สอนให้เขารู้จักกระโดดกับยืน ชายทั้งสองเล่นกันอย่างสบายอกสบายใจไม่มีที่สิ้นสุด

มู่เวยเวยไม่รู้ว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับเขาทันที เกลียดไหม? แน่นอนว่าเธอเกลียด ลูกเพิ่งจะเกิดได้สามวันก็พรากแม่ลูกออกจากกัน แต่ว่าเห็นเขาทำดีกับลูก ก็รู้สึกว่าไม่ได้เกลียดอะไรขนาดนั้น

"กาวิน สรุปว่าเมื่อไหร่คุณจะไปหาแผนที่ล้ำค่า?"มู่เวยเวยอดไม่ได้ที่จะถามเขา

ผู้ชายกำลังยกเด็กขึ้นๆลงๆโซฟาอยู่ ได้ยินคำพูดที่เหมือนไม่มีอะไรจะถามของเธอ "คุณมู่ ทำไมคุณถึงดูร้อนใจกว่าผม?"

"คุณหาแผนที่ล้ำค่าพบเร็ว ฉันก็จะได้ไปจากที่นี่เร็ว กลับไปอยู่ในที่ของฉัน"

กาวินเงยศีรษะขึ้นมามองเธอ ยิ้มอย่างเย็นชาว่า"คุณมู่ ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้ถูกกำหนดให้เป็นคนพเนจร ที่ไหนจะมีที่ที่เป็นของคุณ?"

มู่เวยเวยโต้แย้งอย่างจริงจัง"ฉันไม่เห็นด้วย มีคนรักก็มีสถานที่ที่มั่นคงสงบสุข"

กาวินยิ้มเยาะเย้ยเธอ"คุณมู่ ผมจำได้ว่าครั้งก่อนที่พาคุณออกมาจากเมืองAในเวลานั้น คุณเต็มใจมาก ทำไมครั้งนี้ อ้อ~รักเย่ฉ่าวเฉินแล้ว?"

มู่เวยเวยไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ เพียงแค่พูดเสียงราบเรียบว่า"เมืองAเป็นสถานที่ที่ฉันเกิดและโตมา เป็นบ้านเกิดของฉัน ฉันชอบบ้านเกิดของฉัน"

กาวินหัวเราะอย่างเยือกเย็นเหมือนกำลังจะพูดอะไรขึ้นมา เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา รอยยิ้มค่อยๆจางหาย เปลี่ยนเป็นเย็นชา

มู่เวยเวยมีลางสังหรณ์ สายที่โทรเข้ามาต้องเกี่ยวข้องกับเย่ฉ่าวเฉินแน่นอน

"ฉันรู้แล้ว" สีหน้ากาวินไม่มีความสุขกดตัดสายไป หันมามองเธอ"ฉู่เซวียนไม่ได้อยู่สถานที่ครั้งก่อน"

มู่เวยเวยหนังตากระตุกหลายครั้ง พูดอย่างใจเย็นว่า"อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้แล้ว เย่ฉ่าวเฉินมีสถานที่บุกเบิกที่เป็นความลับเท่าไหร่ เขาจะบอกฉันได้อย่างไร?"

กาวินใช้สายตาที่เฉียบแหลมจ้องมองเธอ หลังจากนั้นชั่วพริบตาเดียวสายตาที่ดุร้ายก็จางหาย ยิ้มเล็กน้อยพูดว่า"ไม่ใช่ว่าเธอหิวแล้ว?ทำไมถึงไม่รับประทาน?"

มู่เวยเวยหิวจนหายหิวแล้ว ถูกกาวินทำให้ตกใจไม่น้อยอีก ในเวลานี้ใครจะยังมีอารมณ์รับประทานอาหารอีก?

ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ห้องก็มีเสียงของเด็กและผู้ชายหยอกล้อเล่นกันดังขึ้นมาอีก

มู่เวยเวยนั่งที่โซฟามองลูกอยู่เงียบๆ เขาชอบยิ้มหัวเราะมาก หัวเราะขึ้นมาอวัยวะบนใบหน้าก็มารวมกันอยู่ น่ารักมาก ทำให้ความหงุดหงิดในใจเธอลดลง

ไม่นานมาก ด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าดังมา ผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อเชิ้ตเดินเข้ามา สายตาไม่ไขว้เขวเดินตรงมาด้านหน้ากาวิน"เจ้านายครับ เฮลิคอปเตอร์เตรียมพร้อมแล้ว สามารถออกเดินทางได้แล้ว"

"ตกลง" กาวินอุ้มเด็กขึ้น พูดกับมู่เวยเวยว่า"ไปเถอะ คุณมู่ พวกเราออกเดินทางเถอะ"

"ฉันยังไม่ได้เก็บของเลย ยังมีนมผงผ้าอ้อมของเล่น ของอีกมากมาย...."

"ไม่ต้องกังวล " กาวินพูดตัดบท "เมื่อกี้เธอออกไปข้างนอกมีคนช่วยเก็บแล้ว เธอเป็นภรรยาของเย่ฉ่าวเฉิน ฉันจะสามารถให้เธอทำเองได้อย่างไร?"

มู่เวยเวยไม่มีคำพูด ผู้ชายคนนี้หน้าเนื้อใจเสือจริงๆ

"เอาลูกมาให้ฉัน" มู่เวยเวยเดินไปขวางหน้าเขา

กาวินยังไม่ทันได้พูดอะไร เด็กน้อยก็กระพริบตาคล้อยตามอย่างไม่ลังเลเธอยื่นมือทั้งสองข้างออกมา เด็กยังอายุน้อย เด็กชอบกลิ่นหอมนุ่มนวลของแม่

ออกจากคฤหาสน์ เฮลิคอปเตอร์สีเขียวจอดอยู่ที่สนามหญ้า ข้างเฮลิคอปเตอร์มีบอดี้การ์ดร่างกายกำยำแข็งแรงยืนอยู่จำนวนหนึ่ง ยังมีอีกชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง ใส่แว่นกรอบทอง พอมองดูเหมือนคนมีความรู้และวัฒนธรรม

"คุณฉ่าย ในที่สุดคุณก็ตอบรับคำเชิญผม" กาวินพูดอย่างให้เกียรติ

ชายวันกลางคนสีหน้าเรียบเฉย พูดว่า"ผมเพียงแค่สนใจในการเปิดเผยเรื่องลับนี้เท่านั้น"

"คุณฉ่ายมีความสนใจในเรื่องนี้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว" กาวินพูดกับชายใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวข้างกายว่า"จางเหิง คุณฉ่ายมอบให้นายแล้ว ในตลอดเส้นทางนี้ดูแลเขาให้ดีแทนฉัน"

"เจ้านายวางใจได้ครับ"

มู่เวยเวยมองผู้ชายสูงหล่ออย่างไร้การตำหนิคนนี้ ที่แท้เขาชื่อจางเหิง?

คนจำนวนหนึ่งทยอยกันขึ้นเฮลิคอปเตอร์ กาวินอยู่ตรงกลาง

"เจ้านาย!"อลิซวิ่งมาแต่ไกลอย่างเร่งรีบ

กาวินหันศีรษะกลับไปมองเธอ ก็ลงจากเฮลิคอปเตอร์ รอจนเธอมาอยู่ต่อหน้าถึงขมวดคิ้วถามว่า"เกิดเรื่องอะไรขึ้น?"

อลิซหอบแหก "คุณชาย มีเรือยอชต์ขับมาทางเกาะ"

มู่เวยเวยที่ยืนอยู่ข้างๆใจเต้นแรงมาก เธอมีลางสังหรณ์ คนที่มาต้องเป็นเย่ฉ่าวเฉินแน่นอน

"ยังอยู่อีกไกลแค่ไหน?" กาวินเสียงเยือกเย็น เกิดความสงสัยในใจ เกาะของเขาอยู่ห่างไกลความเจริญมาก สามารถมาได้ต้องมีความมุ่งมั่นมาก

"ช้าสุดยี่สิบนาทีก็จะขึ้นฝั่ง"

"รู้ไหมว่าเป็นใคร?"

"ห่างออกไปไกลมาก มองไม่ค่อยชัด คือสังเกตการณ์พบเห็น เจ้านาย ต้องการที่จะซุ่มโจมตี? " พออลิซพูดคำนี้ มู่เวยเวยคล้ายกับเห็นผู้หญิงที่อยู่บนเครื่องบินในวันนั้น

"ทำให้พวกเขาหยุดอยู่ห่างออกไปยี่สิบไมล์ทะเล ถ้าไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ"

"เข้าใจแล้ว " สายตาของอลิซแสดงออกถึงความโหดร้าย

อลิซออกไป กาวินก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ก่อนจะผ่านมู่เวยเวยไปได้ชะงักฝีเท้า "ดูเหมือนว่าคุณมู่จะสนใจคนที่กำลังมา"

มู่เวยเวยรีบโบกมือพัลวัน"ไม่ ไม่ได้สนใจ"

กาวินคิดอะไรได้อย่างรวดเร็ว เดินเข้าใกล้เธอหนึ่งก้าว ริมฝีปากยิ้มร้ายออกมา"คุณมู่ คุณเดาว่าคนที่มาคือใคร?"

มู่เวยเวยถูกเขาทำให้กดดันจนไม่กล้าเงยศีรษะขึ้นมา แต่น้ำเสียงยังนิ่งอยู่"ฉันจะรู้ได้อย่างไร?"

"อย่างนั้นก็ไปดูด้วยกัน เชิญคุณมู่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เลย"กาวินผายมือเชิญเธอ มู่เวยเวยจำใจที่ต้องอุ้มลูกขึ้นไป

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกนั่งเครื่องบิน เสียงที่ดังทำให้เขาค่อนข้างอึดอัด ฟุบงอตัวมาอยู่ที่หน้าอกของมู่เวยเวย ไม่ร่าเริงคึกคักเหมือนปกติ มู่เวยเวยกลัวเยื่อแก้วหูเขาได้รับอันตราย เอาหูอีกข้างของเขาแนบเข้ากับหน้าอกของเธอ ใช้มือปิดที่หูอีกข้างของเขาแน่น

เฮลิคอปเตอร์ลอยตัวขึ้นกลางอากาศ วนเวียนไปทางทะเล

มู่เวยเวยใช้มือปิดหูของลูกไว้แน่น อีกด้านก็มองไปนอกหน้าต่าง เรือยอชต์ลำเล็กอยู่ไกลๆกำลังมาทางเกาะ ในเวลาเดียวกันเรือยนต์ลำเล็กก็ออกจากเกาะไป ทำตามคำสั่งของกาวิน

เฮลิคอปเตอร์เสียงดังครั่นครืนบินผ่านไป ถึงเรือยอชต์ในเวลานั้น มู่เวยเวยหัวใจกระตุก เธอมองเห็นผู้ชายที่อยู่บนดาดฟ้าของเรือคนนั้น หุ่นดีมาดเท่ ลักษณะนิสัยและบุคคลิกที่ไม่เหมือนคนทั่วไป

ในเวลาเดียวกันเขาเงยศีรษะสายตาเย็นชามองเฮลิคอปเตอร์ที่ลอยวนเวียนอยู่กลางอากาศ

ใช่เขา

ลูก พ่อของลูกมาแล้ว เขามารับพวกเรากลับบ้าน แต่ว่ามาช้าเพียงหนึ่งก้าว

กาวินก็มองเห็นผู้ชายคนนั้นที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือ หัวเราะฮ่าๆออกมา"ที่แท้ก็เป็นเย่ฉ่าวเฉิน ฉันยอมรับนับถือเขาจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะหาที่นี่เจอเร็วอย่างนี้ แต่น่าเสียดาย มาช้าไปแล้ว"

สองมือของเย่ฉ่าวเฉินกำหมัดแน่น เขามีความรู้สึกว่าเวยเวยกับลูกอยู่ในเฮลิคอปเตอร์นั้น เขาอยากใช้การทำงานพิเศษของเขาหยุดเวลาไว้แล้วช่วยพวกเขาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ แต่ว่าความสามารถของเขามีขอบเขต เวลามากสุดอยู่ได้สามสี่นาที เวลาอันน้อยนิด เดิมที่ไม่สามารถหลบหนีไปจากน่านน้ำนี้ได้

อันตรายเกินไป เขาไม่สามารถทำเช่นนั้น

เฮลิคอปเตอร์บินสูงบินต่ำ บางเวลาบินเข้าใกล้และบินห่าง มีสองครั้งที่เฉียดกับเรือของเขา

เย่ฉ่าวเฉินที่ถูกยั่วยุ และเขายังมองเห็นชายที่ใส่หน้ากากคนนั้นอยู่ในห้องเคบิน ข้างเขายังมีมู่เวยเวยที่กอดลูกอยู่

"นายครับ ตอนนี้จะทำอย่างไร?"ใบพัดเสียงดังมาก เหยี่ยวราตรีจำใจต้องถามเสียงดัง

เย่ฉ่าวเฉินสีหน้าเย็นชา มองเฮลิคอปเตอร์ด้วยสายตาดุร้าย ตะโกนว่า"แน่นอนว่าอดทนไว้ หรือว่าจะให้จู่โจมตีมันลงมา?"

เหยี่ยวราตรีไม่กล้าพูด เขารู้ว่าเจ้านายกำลังโกรธ ตามมาจากเมืองA คาดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะหนีแล้ว ที่สำคัญไอ้สารเลวคนนั้นคาดไม่ถึงว่าจะสวมใส่หน้ากาก เปลียนจนเกินไปแล้ว

ครั้งสุดที่เฮลิคอปเตอร์บินเฉียดเรือท่องเที่ยวของเขา กาวินยกนิ้วกลางมาให้

ไอ้สารเลว!

ไม่เพียงแค่เย่ฉ่าวเฉินด่า เหยี่ยวราตรีก็ด่าในใจเงียบๆ

แต่จะมีวิธีการไหน? พวกเขาก็ไม่สามารถใส่ปีกบินขึ้นไปได้ เพราะฉะนั้นทำได้แค่ยืนดูเฮลิคอปเตอร์ค่อยๆบินห่างออกไป สุดท้ายกลายเป็นเฮลิคอปเตอร์หายลับจากสายตา

มองเห็นภรรยากับลูกถูกผู้ชายคนนั้นพาตัวไป เย่ฉ่าวเฉินโมโหแทบจะระเบิดออกมา

"ฮ่า ที่แท้คือเย่ฉ่าวเฉินรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง!"อลิซที่ยืนโต้ลมอยู่บนเรือยนต์ ทำให้มองเห็นรูปร่างเพรียวสวย

"เธอรู้จักฉัน?" เย่ฉ่าวเฉินละสายตากลับมา ห่างจากน้ำทะเลออกไปมองเขาด้วยสายตาเย็นชา

อลิซยิ้มอย่างอ่อนโยนสวยงามพูดว่า"เย่ฉ่าวมีชื่อเสียงใครจะไม่รู้จัก และอีกอย่าง คุณกับลูกของคุณเหมือนกันมาก"

ได้ยินพูดถึงลูกของตัวเอง เย่ฉ่าวเฉินอารมณ์โกรธยิ่งปะทุมากขึ้น "พูดอย่างนี้ครั้งก่อนที่แย่งแผนที่ล้ำค่าของฉันก็คือพวกแก"

อลิซยอมรับอย่างสง่าผ่าเผย "ไม่ผิดหรอก ก็คือพวกเราเอง"

"ดี ในเมื่อตอนนี้พวกแกก็ได้แผนที่สมบัติล้ำค่านั้นไปแล้ว ทำไมถึงยึดลูกกับเมียฉันไม่ปล่อยสักที"

"เจ้านายพูดแล้วว่า รอเขาหาแผนที่สมบัติล้ำค่านั้นเจอ ก็จะปล่อยพวกเขากลับไปเอง คุณชายเย่ไม่ต้องรีบร้อนหรอก เอาอย่างนี้คุณกลับไปรออย่างช้าๆเถอะ"

เป็นตามที่เขาคาดคะเนจริงๆ เขาก็รู้ ไอ้สารเลวคนนั้นไม่มีทางปล่อยมู่เวยเวยง่ายๆ หนึ่งวินาทีถัดมา เย่ฉ่าวเฉินยกปืนเล็งใส่อลิซ

"เชื่อไหมว่าตอนนี้ฉันสามารถฆ่าเธอได้" เย่ฉ่าวเฉินแสดงออกอย่างน่ากลัว

แต่ทว่าอลิซไม่ได้มีความกลัวเลย ยิ้มซื่อๆ"เย่ฉ่าวเฉินจะฆ่าก็รีบลงมือเลย แต่ฉันจะเตือนคุณ ที่นี่ไม่ใช่เมืองA ถ้าหากว่าตอนนี้ฉันตายอยู่ที่นี่ พวกคุณไม่มีทางที่จะรอดชีวิตกลับไป"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ