วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 283

ในความเป็นจริงไม่ต้องจุดระเบิดในบริเวณคฤหาสน์ก็ได้ แต่เพื่อทำให้กาวินเชื่อ และเพื่อหลีกเลี่ยงไฟบนภูเขาด้านหลัง เย่ฉ่าวเฉินจึงค่อยๆเคลื่อนระเบิดออกให้ไกลจากคฤหาสน์ที่สุด

พ่อบ้านหวังเห็นเขาเดินมา ก็รีบเดินไปด้วยสีหน้ากังวลและถามอย่างเป็นห่วงว่า “คุณชาย ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ”

“ฉันไม่เป็นไร มีคนได้รับบาดเจ็บไหม ?”

“ไม่มี ทุกคนสบายดี”

“อืม ถ้างั้นก็ดี พรุ่งนี้คุณพาคนสักสองสามคนไปที่คฤหาสน์ตรงชานเมืองตะวันออก พวกเราจะพักอยู่ที่นั่นสักสองสามวัน ระหว่างปรับปรุงที่นี่”

“ตกลง ผมเข้าใจแล้ว”พ่อบ้านหวังเห็นเขาขมวดคิ้วจึงพูดปลอบว่า “คุณชาย คุณรีบกลับไปอยู่กับคุณหนูเถอะ เธอจะต้องเป็นห่วงคุณอยู่แน่นอน นี่ให้ให้ผมกับจางเห่อจัดการเอง”

“อืม ถ้าไฟที่นี่ดับแล้วก็ให้ทุกคนไปนอนได้ เรื่องวันนี้ฉันจะพูดอีกทีพรุ่งนี้” เป็นเรื่องยากที่เย่ฉ่าวเฉินจะใจดีแบบนี้

“ผมทราบแล้ว คุณชายกับคุณชายมู่รีบไปเถอะ”

เย่ฉ่าวเฉินมองไปที่ฉากตรงหน้าหน้าอีกครั้งและจากไปพร้อมกับมู่เทียนเย่

บนรถในระหว่างทางที่ไปคฤหาสน์ตระกูมู่ เย่ฉ่าวเฉินก็ได้รับโทรศัพท์ของสารวัตรเว่ยจากสำนักงานสืบสวนสอบสวน

“ฉ่าวเฉิน ผมเพิ่งได้รับรายงาน ว่าทิศทางบ้านคุณเกิดไฟไหม้ขึ้น ? และยังมีเสียงดังขึ้นอีก เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ ?”

เย่ฉ่าวเฉินพูดเรื่องไร้สาระอย่างจริงจัง “เหล่าเว่ย แค่แก๊สในห้องครัวระเบิด แต่ว่าตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว คุณไม่ต้องกังวลหรอก”

“ไม่มีใครเป็นอะไรใช่ไหม? ”สารวัตรเว่ยถาม

“ไม่เป็นไร ไฟก็ดับแล้ว”

“ถ้างั้นก็ดี ผมตกใจแทบตาย ผมนึกว่าเกิดเรื่องกับคุณแล้ว โอเค งั้นผมวางล่ะ”

“อืม”

หลังจากวางสาย มู่เทียนเย่ก็หัวเราะแกล้งเขา “แก๊สระเบิดเอง คุณยังกล้าพูดนะ แก๊สระเบิดเองในบ้านของคุณจะทำให้ท้องฟ้าสว่างไสวได้เหรอ ?”

“งั้นจะให้ผมพูดยังไง ?”มีคนวางระเบิดในบ้านของผม ? เขายังไม่ทันถามต้นชนปลายให้ชัดเจน ? ผมก็แค่ขี้เกียจพูดก็เท่านั้น”เย่ฉ่าวเฉินเอนหลังพิงเบาะรถพลางมองไฟข้างถนน

เมื่อกาวินตาย ทุกคนก็วางใจลงมาก

สองสามวันนี้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ รู้สึกว่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น แต่นี่ก็ดีแล้ว ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวแต่ก็ดีที่ไม่เกิดอันตราย

เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ตระกูลมู่ ก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่าแล้ว

ไฟในห้องนั่งเล่นสว่างไสว ถึงแม้ตอนกลับมาจะโทรบอกเสี่ยวซีหร่านว่าเรื่องได้จบลงแล้ว ให้เธอกับมู่เวยเวยนอนก่อนเลย แต่ทั้งสองคนจะนอนหลับลงได้ยังไง ?

นั่นเป็นระเบิดนะ

ดังนั้น เมื่อเย่ฉ่าวเฉินกับมู่เทียนเย่เดินเข้าไปในคฤหาสน์ ก็มองเห็นภรรยาตัวเองรออยู่ที่โซฟา ผิงอันทนไม่ไหวนอนหลับอยู่ข้างๆมู่เวยเวย

เสี่ยวซีหร่านกำลังจะลุกขึ้น มู่เทียนเย่รีบวิ่งไปรั้งเธอไว้ “อย่าขยับอย่าขยับ”

“ทำไมคอของคุณถึงมีเลือดออก?”สายตาของเสี่ยวซีหร่านเฉียบคม แวบเดี๋ยวก็มองเห็นบาดแผลที่คอของเขา

มูเทียนเย่เอามือสัมผัส เลือดก็ติดมาบนมือ แต่ไม่มากแค่บาดแผลตื้นๆ

“นี่เหรอ ไม่เป็นไร ก็แค่ถูกคนบ้าเอามีดจี้เป็นตัวประกัน เดี๋ยวอาบน้ำแล้วพันผ้าก็โอเคแล้ว”

เป็นกาวินคนนั้นจริงๆเหรอ ? เสี่ยวซีหร่านถามด้วยความแปลกใจ

“ใช่ เป็นเขา ”เย่ฉ่าวเฉินรับการสนทนาต่อ และพยุงมู่เวยเวยนั่งลง “ไม่คิดเลยจริงๆว่าเขายังมีชีวิตอยู่”

“แล้วตอนนี้ล่ะ ?”มู่เวยเวยถามด้วยความกังวล

เย่ฉ่าวเฉินตอบอย่างสบายๆว่า “เขาฆ่าตัวตายแล้ว”

“ห๊ะ ? ฆ่าตัวตาย ?”มู่เวยเวยแปลกใจ “นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำได้หนิ”

มู่เทียนเย่เหลือบมองไปที่เย่ฉ่าวเฉินและยิ้ม “มีใครบางคนอยู่ เขาก็สามารถทำได้”

เย่ฉ่าวเฉินเหลือบมองเขาจับมือมู่เวยเวยและพูดว่า “ผมไม่ได้ทำอะไร ก็แค่ใช้กลเม็ดบางอย่าง คุณคงไม่โทษผมหรอกนะ”

“คุณโง่เหรอ ฉันจะว่าคุณได้ยังไง ?”มู่เวยเวยพูดอย่างจริงจัง “เขาต้องการเอาชีวิตเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า แน่นอนว่าพวกเราไม่สามารถเมตตาเขาได้อีกแล้ว หรือว่าจะรอให้เขากลับมาทำร้ายผิงอันและลูกในท้องเหรอ ?”

“คุณคิดได้แบบนั้นผมก็วางใจแล้ว ”ในที่สุดเย่ฉ่าวเฉินก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ “ผมกลัวว่าคุณจะโทษผมจริงๆ แต่นี่ก็โอเค เรื่องทุกอย่างเรียบร้อยดี”

เย่ฉ่าวเฉินรีบเข้าไปกอดภรรยาเขา แต่ก็ถูกเธอเอาสองมือดันไว้ “ร่ายกายคุณเต็มไปด้วยกลิ่นควันไฟ รีบไปอาบน้ำเถอะ”

เย่ฉ่าวเฉินก้มศีรษะลงดมกลิ่นที่ไหล่ “มีนิดหน่อย ถ้างั้นผมไปอาบน้ำก่อน คุณไปที่ห้องนอนก่อนเลย เดี๋ยวผมออกมาอุ้มผิงอัน”

“อืมอืม รู้แล้วรู้แล้ว”

อีกด้านหนึ่งของโซฟาเสี่ยวซีหร่านก็ผลักมู่เทียนเย่ “กลิ่นบนตัวคุณก็ไม่น่าดม รีบไปอาบน้ำ”

“รับทราบ ราชินีสุดที่รักของผม”

เสี่ยวซีหร่านรู้สึกตลกกับเขา “เฮ้ เวยเวยยังอยู่ที่นี่”

“อยู่ก็อยู่ไปสิ เธอเป็นน้องของผม กล้าที่จะหัวเราะผมเหรอ ?”มู่เทียนเย่มองไปที่มู่เวยเวยด้วยสายตาคุกคาม ราวกับว่าถ้าเธอกล้าพูดออกมาเพียงคำเดียว เขาจะไล่เธอออกไป

มู่เวยเวยยอมจำนนในทันที เธอยกมือขึ้นยิ้มๆและพูดว่า “ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”

……

กำหนดคลอดใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสี่ยวซีหรานก็กระวนกระวายยิ่งขึ้น แม้ว่ามู่เวยเวยจะบอกเธอว่าไม่ต้องกังวลทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย แต่เสี่ยวซีหร่านที่เพิ่งจะได้เป็นแม่คนครั้งแรกก็ยังกระวนกระวาย

“คุณว่า เมื่อถึงเวลานั้นฉันคงจะไม่เจ็บปวดจนคลอดไม่ได้หรอกนะ” เสี่ยวซีหร่านถามพลางจับมือมู่เทียนเย่

นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เธอถามคำถามนี้ในสองสามวันที่ผ่านมา

มู่เทียนเย่ยังคงอดทนเช่นเดิม “ไม่หรอก ถ้าหากว่าคลอดเองไม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้นก็ผ่าคลอดเอา”

“ถ้าอย่างนั้นจะมีเลืดออกเยอะไหม ?”ละครในโทรทัศน์ล้วนเป็นแบบนี้ ผู้หญิงคลอดลูกเลือดจะออกเยอะมาก จากนั้นก็ถามว่าจะเก็บลูกหรือเก็บแม่ ”

มู่เทียนเย่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “นั่นเป็นละครโทรทัศน์ และก็เป็นละครย้อนยุค ตอนนี้การแพทย์พัฒนาไปมากแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีเลือดออกมาก ธนาคารเลือดก็มีเลือดเตรียมพร้อม ถึงแม้ว่าจะถ่ายเลือดทั้งร่ายกายคุณก็พอ”

เสี่ยวซีหร่านขมวดคิ้วสีหน้าแสดงความกังวล

มู่เทียนเย่ยื่นแขนไปโอบไหล่ของเธอ ปล่อยให้เธอพิงอกของตัวเอง ลูบท้องที่นู้นของเธออย่างเบาๆและพูดว่า “ไม่ต้องห่วง เมื่อถึงเวลานั้นผมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ”

“คุณเข้าห้องคลอดได้ไหม ?”

“ได้ ผมไปพูดคุยกับหมอมาเรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นผมจะเข้าห้องคลอดกับคุณ ผมจะอยู่ข้างๆคุณ”

เสี่ยวซีหร่านถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เทียนเย่ คุณว่าฉันขี้ขลาดเกินไปไหม แค่มีลูกก็เรื่องเยอะขนาดนี้”

มู่เทียนเย่จูบที่หน้าผากของเธอ “คนโง่ คุณเป็นแม่ที่เยี่ยมที่สุดในโลกนี้ และผมก็เห็นในหนังสือบอกว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์ก่อนคลอดทุกคนจะคิดอะไรไร้สาระ คุณก็ไม่เว้น”

“จริงเหรอ ?”

“จริงแน่นอนสิ ผมจะหลอกคุณทำไม ?”

สองสามีภรรยากำลังพูดซุบซิบกัน พ่อบ้านก็วิ่งเข้ามา “คุณผู้หญิง คุณท่านกับคุณนายมาแล้ว”

เสี่ยวซีหร่านลุกขึ้นจากอ้อมแขนของมู่เทียนเย่ด้วยความตื่นเต้น “พ่อแม่ฉันกลับมาแล้ว ?”

“ใช่ครับ รถกำลังแล่นเข้าประตูมา” พ่อบ้านพูดอย่างตื่นเต้น

“พยุงฉันลุกหน่อย” เสี่ยวซีหรานยื่นมือไปจับแขนของมู่เทียนเย่และเขาก็ช่วยพยุงลุกขึ้น และย่ำเท้าเดินออกไป

มู่เทียนเย่เป็นห่วงว่าเธอจะล้มลง จึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณเดินช้าหน่อย”

เสี่ยวซีหร่านไม่ได้เจอพ่อแม่มาสักระยะหนึ่งแล้ว และแน่นอนเธอเป็นคนใจร้อน เมื่อออกไปเห็นรถค่อยๆแล่นเข้ามา ก็รีบไปต้อนรับ

ไม่คิดเลยว่าเดินรีบร้อน เท้าทั้งสองข้างพันกัน และพุ่งลงไปข้างหน้า

มู่เทียนเย่ตกใจมากรีบคว้าเอวของเธอไว้ และด้วยความกลัวว่าความแรงจะไปกระทบกับลูก ดังนั้นเสี่ยวซีหร่านจึงล้มลงกับพื้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่ที่ต่างกันก็คือมู่เทียนเย่ให้ตัวเองเป็นเบาะให้เธอ

พ่อบ้านที่ตามมาด้วยเห็นตั้งแต่แรก จึงรีบเข้าไปช่วย

ในขณะเดียวกันรถได้หยุดลง และพ่อแม่ตระกูลเสี่ยวก็รีบลงจากรถและวิ่งมา

“พระเจ้า เธอจะรีบอะไรขนาดนี้ ? ช้าหน่อย ช้าหน่อย......”แม่ตระกูลเสี่ยวจับแขนของลูกสาว แล้วค่อยให้เธอลุกขึ้น

“เด็กน้อย เธอจะเป็นแม่คนแล้ว ทำไมถึงใจร้อนขนาดนี้ ?” พ่อตระกูลเสี่ยวอดไม่ได้ที่จะตำหนิ แต่น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความเอาใจ “โชคดีที่มีเทียนเย่รับอยู่ข้างล่าง รู้สึกว่ามีตรงไหน.......”

“พ่อ ไม่ต้องพูดแล้ว”เสี่ยวซีหร่านสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันไปทางแม่ด้วยสีหน้าเจ็บปวด “แม่ ถ้าน้ำคล้ำแตกแล้วจะรู้สึกอุ่นๆใช่ไหม ?”

“ใช่สิ ”สีหน้าแม่ตระกูลเสี่ยวเปลี่ยนไปและหันไปมองเธอ

แต่เสี่ยวซีหร่านสวมกางเกงกำมะหยี่ ทำให้มองไม่เห็น เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถาม “พระเจ้าช่วย เธอคงไม่ได้น้ำคล้ำแตกหรอกนะ”

เสี่ยวซีหร่านจะร้องไห้แล้ว เสียงของเธอเริ่มสั่น “ฉันรู้สึกเหมือว่าฉี่ใส่กางเกง”

“ก็ใช่นะสิ”แม่ตระกูลเสี่ยวตบไหล่มู่เทียนเย่ “ยังมัวทำอะไรอยู่ ? รีบขับรถไปโรงพยาบาลเร็ว”

มู่เทียนเย่ได้สติ ก็รีบพูดพ่อบ้านเสียงดังว่า “เร็วๆ ไปเอารถบ้านที่เตรียมไว้แล้วรีบไปโรงพยาบาล”

“ครับ”

“แม่ ฉันกลัว” ตาของเสี่ยวซีหร่านเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอจับมือของแม่แน่นจนเป็นรอยแดง

แม่ตระกูลเสี่ยวปลอบลูกสาว“ ไม่ต้องกลัวไม่ต้องกลัว หลังจากน้ำคล่ำแตกแล้วยังมีเวลาอีกหน่อยกว่าจะคลอด คิดถึงลูกในท้อง เธอจะตื่นตระหนกไม่ได้”

เสี่ยวซีหร่านกัดฟันและพึมพำกับตัวเอง “ฉันไม่ตื่นตระหนกฉันไม่ตื่นตระหนก.....”หลังจากท่องไปสองครั้ง ก็รู้สึกว่าน้ำคล่ำไหลเร็วขึ้น เธอตกใจจนน้ำตาไหลออกมา “เทียนเย่ ทำไมรถถึงยังไม่มา”

มู่เทียนเย่เห็นเธอกำลังร้องไห้ ใจเขาก็แตกสลาย “อย่าร้องอย่าร้อง รถมาแล้ว รถมาแล้ว”

สิ้นเสียง รถบ้านก็มาจอดอยู่ตรงหน้าเสี่ยวซีหร่าน ตรงกลางเป็นเตียงและข้างๆก็เป็นที่นั่ง

“มาแล้ว ช้าหน่อย ผมอุ้มคุณขึ้นรถ”

เสี่ยวซีหร่านหัวเราะออกมา “ตอนนี้ฉันหนักขนาดนี้ คุณอุ้มไหวเหรอ ?”

มู่เทียนเย่อุ้มเธอขึ้นมา วางเธอลงบนเตียงพลางพูดว่า “ผมออกกำลังกายมานานก็เพื่อวันนี้ คุณว่าผมจะอุ้มไหวไหม ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ