เด็กผู้ชายกลุ่มนั้นหยุดและหันกลับไปมองคนมาใหม่ ซึ่งเป็นเด็กผู้ชายที่ตัวเตี้ยกว่าพวกเขา และใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนเอกชนที่ค่าเทอมแพงหูฉี่ในเมืองA
เด็กผู้ชายตัวใหญ่ที่เป็นหัวโจกเบนความสนใจมาที่เย่จิงเหยียน หัวเราะและพูดว่า "มาแล้วหรอพวกลูกคนรวย นี่แกเอาเงินมาให้ฉันใช่มั้ย"
"ปล่อยเธอ แล้วไปซะ" เย่จิงเหยียนพูดอย่างสงบ
"ฮ่าๆๆ..." กลุ่มเด็กผู้ชายหัวเราะพร้อมกัน "นี่เด็กน้อย ตัวแค่นี้ริอาจมาเบ่งหรอ"
"ถ้าพวกแกจะมีเรื่องก็รีบหน่อย ฉันยุ่ง ไม่มีเวลามาเล่นด้วยหรอกนะ" เย่จิงเหยียนค่อยๆขับแขนเสื้อขึ้น
"อวดดีเกินไปแล้ว เข้ามา"
เมื่อพวกเขาพุ่งเข้าไป เย่จิงเหยียนก็จัดการพวกเขาได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที เด็กพวกนั้นนอนหมดสภาพอยู่บนพื้นและร้องโอดโอย
ตั้งแต่เขาเริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาล เย่ฉ่าวเฉินก็สอนเขาต่อสู้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพื่อเอามาทำร้ายคนอื่น แต่เพื่อเอาไว้ป้องกันตัว ในเมื่อลูกเขาเป็นคนพิเศษ ภายภาคหน้าต้องเจอกับอะไรอีกมากมายแน่
เย่จิงเหยียนเดินไปตรงหน้าสาวน้อย ก่อนจะเห็นเธอจ้องเขาอยู่ด้วยความประหลาดใจ และเขาก็ชินแล้วกับการถูกมองด้วยสายตาแบบนี้ "หุ่นยนต์ในมือน้องไปเก็บมาจากไหนหรอ"
สาวน้อยดึงสติกลับมา แต่ตาก็ยังจ้องอยู่ที่เขา "หนู...หนูเก็บได้ที่สนามเด็กเล่นในโรงเรียน"
"อย่างนี้นี่เอง พี่ให้เงินน้องแลกกับหุ่นยนต์ได้มั้ย"
"คือ..." สาวน้อยลังเลเล็กน้อย กว่าจะได้เล่นของเล่นนั้นไม่ง่ายเลย แต่เธอจะมาขายให้เขาหรอ....
เย่จิงเหยียนนั่งยองๆตรงหน้าเธอ และยิ้มบางๆ "น้องเอาไปก็เล่นไม่เป็นหรอก พี่ให้เงิน น้องจะเอาไปซื้อไอติม ไปซื้อตุ๊กตาบาร์บี้สวยๆ หรือซื้อของกินอร่อยๆก็ได้ ดีมั้ย"
สาวน้อยไม่เคยเห็นผู้ชายหล่อขนาดนี้มาก่อน เมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา เธอก็ยอมพยักหน้า "พี่จะให้เท่าไหร่คะ"
"อยากได้เท่าไหร่"
สาวน้อยก้มหน้ามองหุ่นยนต์ในมือ และยกมือขึ้นมาห้านิ้้ว
"ห้าร้อยหยวนหรอ" เย่จิงเหยียนถาม
สาวน้อยตกใจ ที่จริงเธอจะบอกว่าห้าสิบหยวน เพราะเธอคิดว่าห้าสิบหยวนก็เยอะมากแล้ว คิดไม่ถึงว่าพี่ชายคนนี้จะบอกว่าห้าร้อยหยวน
เย่จิงเหยียนเห็นเธอไม่พูด จึงคิดว่าเธอยังไม่พอใจ จึงพูดอีกว่า "ห้าพันหรอ เยอะกว่านี้พี่ให้ไม่ได้แล้วนะ เพราะตอนนี้พี่มีแค่ห้าพันหยวน"
หลังจากหายตกใจแล้ว สาวน้อยก็พยักหน้า ตั้งห้าพัน เยอะมากเลย
เย่จิงเหยียนสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง นำเงินออกมานับ และมันก็ครบห้าพันหยวนพอดี
"อะ ห้าพันพอดี เก็บไว้ดีๆนะ" เย่จิงเหยียนจับหุ่นยนต์มาในขณะที่สาวน้อยยังคงตะลึงอยู่ จากนั้นก็เอาเงินยัดใส่มือของเธอ และพูดยิ้มๆ "ยังไม่รีบไปอีก พี่จะดูพวกชั่วๆนี่ให้เอง น้องไปให้ไกลก่อนแล้วเดี๋ยวพี่ค่อยไป"
เย่จิงเหยียนเตือน สาวน้อยจึงรีบเอาเงินใส่ไว้ในกระเป๋านักเรียน และวิ่งไป แต่วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็หันหลังกลับมาตะโกนถามว่า "พี่ชื่ออะไรคะ"
"ถามชื่อพี่ทำไม" เย่จิงเหยียนถามอย่างสงสัย
เธอส่งรอยยิ้มผ่านสายตาออกมา "พี่หล่อจัง ถ้าฉันโตขึ้นฉันแต่งงานกับพี่ดีมั้ย"
"ไม่ดี" เย่จิงเหยียนปฏิเสธอย่างไม่ลังเล
"ทำไม"
"เพราะพี่จะไปขอคนอื่นแต่งงาน"
"อ๋อ โอเค งั้นไว้เจอกันนะคะ"
เย่จิงเหยียนมองตามหลังของเธอไป สาวน้อยคนนี้ช่างกล้าหาญจริงๆ เรื่องอย่างนี้ยังกล้าพูดออกมาได้
เย่จิงเหยียนเดินผ่านเด็กผู้ชายพวกนั้นไปโดยไม่ชายตาแลสักนิด
เมื่อขึ้นมาบนรถ สิ่งแรกที่เขาทำก็คือลูบกระเป๋าหนังสือ จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ จางเห่อที่นั่งข้างคนขับจึงมองเขาและถาม "ทำธุระเสร็จแล้วหรอครับ"
"เสร็จแล้ว กลับบ้านเถอะ" เย่จิงเหยียนพูดอย่างผ่อนคลาย
เย่ชูวเสวี่ยที่นั่งข้างหลังโน้มตัวมาข้างหน้า และชี้เสื้อเลอะๆของเขา "พี่เสื้อเลอะ"
เย่จิงเหยียนแกล้งปัดลวกๆ "เมื่อกี้ไม่ระวังเลยไปเลอะโดน"
เย่ชูวเสวี่ยหรี่ตามองเขา และพูดยิ้มอย่างมีเลศนัย "พี่เมื่อกี้้ไปตีกับคนอื่นมาใช่มั้ย"
"รู้ได้ไง" เย่จิงเหยียนถามกลับไปอย่างไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว
สองพี่น้องตระกูลมู่เมื่อได้ยินคำว่าตีกันก็เกิดความสนใจขึ้นมา พวกเขาโน้มตัวมาข้างหน้าและพูด "พี่ จะมีเรื่องทำไมไม่เรียกผม ผมช่วยพี่ได้นะ"
"ผมก็ช่วยได้ พ่อเพิ่งสอนมาหลายท่า ยังไม่ได้ใช้เลย"
เย่จิงเหยียนสอนทั้งสามคนอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก "นั่งดีๆ"
"ชิ..."
แม้ทั้งสามคนจะไม่อยากทำ แต่ก็ยังเชื่อฟังเย่จิงเหยียนเสมอ ดังนั้นทั้งสามจึงยอมกลับไปนั่งดีๆ
"กลับบ้านห้ามทุกคนพูดถึงเรื่องนี้เด็ดขาด ไม่งั้นอย่าฝันว่าจะพาไปเที่ยวอีก" เย่จิงเหยียนพูดขู่
เย่ชูวเสวี่ยขมวดคิ้วสวย "งั้นพี่ก็ต้องบอกพวกเราว่าทำไมต้องมีเรื่องชกต่อย"
"พี่ไม่ได้มีเรื่องชกต่อย แต่เมื่อกี้พี่เห็นเด็กผู้ชายกำลังรังแกเด็กผู้หญิงอยู่ พี่เลยไปสั่งสอนนิดหน่อย" เย่จิงเหยียนพูดอย่างมีจริยธรรม โดยไม่ได้พูดถึงเรื่องหุ่นยนต์เลย
"ว้าว พี่ยื่นมือเข้าไปช่วยคนที่โดนรังแกหรอ" เซียวอวี้หลินพูดชมเขา
เย่จิงเหยียนพูดหน้าตาย "ใช่ แต่คุณลุงคุณป้าไม่ชอบให้พี่มีเรื่องชกต่อย ฉะนั้นเรื่องนี้อย่าบอกพวกเขา"
"ครับ ผมจะไม่พูด"
เย่จิงเหยียนยื่นมือมาลูบผมเขา "เจ้าหลินน่ารักที่สุด"
เด็กอีกสองคนแสดงท่าทีไม่พอใจออกมา
หลังจากเย่จิงเหยียนปราบเด็กสามคนได้แล้ว เขาก็หันมาพูดกับจางเห่อยิ้มๆ "ลุงจางเห่อ ผมขอร้องล่ะ"
"คุณชายน้อย ผมขับรถอยู่ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นครับ" จางเห่อมองตรงไปขับรถอย่างเคร่งขรึม
เย่จิงเหยียนพูดอย่างดีใจ "ขอบคุณครับลุงจาง ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณรักผมที่สุด"
จางเห่อยิ้มมุมปากบางๆ เขารักผิงอันที่สุด เพราะผิงอันผ่านความลำบากมามากที่สุด นิสัยก็อ่อนโยน ดังนั้นเขาจึงชอบผิงอัน
เมื่อถึงบ้าน เย่จิงเหยียนก็หยิบกระเป๋าและเข้าห้องไปทันที โดยให้เหตุผลว่าเขาจะทำการบ้าน ห้ามรบกวน
นั่นทำให้พ่อบ้านถึงกับงงทันที คุณชายน้อยของเขาเคยทำการบ้านเสียที่ไหน วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรอ
เมื่อเย่ฉ่าวเฉินกับมู่เวยเวยมาบ้านก็เรียกทุกคนมากินข้าว
เย่จิงเหยียนแอบมองพ่ออยู่หลายครั้ง สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจพูด "พ่อ เพื่อนในห้องผมอยากซื้อหุ้นยนต์หลายคนมาก"
เย่ฉ่าวเฉินเหลือบตาขึ้นมาเอากุ้งที่แกะเปลือกแล้วใส่จานมู่เวยเวย จากนั้นก็ถามช้าๆ "กี่คน"
"สิบห้าคน"
"พรุ่งนี้จะให้จางเห่อเอาไปส่งให้" เย่ฉ่าวเฉินแกะกุ้งให้ภรรยาอีกครั้ง แะทำเหมือนถามไปเรื่อย "ลูกบอกเพื่อนไปเท่าไหร่"
เย่จิงเหยียนไม่กล้ามองหน้าพ่อ จึงตักข้าวและพูด "ราคาตลาดขายเท่าไหร่ ผมก็ขายเท่านัเนแหละ"
"อ้อ งั้นก็หกหมื่นแปด"
"ห๊ะ ลุงจางเห่อบอกว่าห้าหมื่นไม่ใช่หรอครับ" เย่จิงเหยียนถามอย่างตกใจ ทันทีที่กลับมาบ้านเขาก็เข้าห้องไปนับเงินสะสมทั้งหมดของเขา ซึ่งถ้ามันราคาห้าหมื่นตอนนี้เงินของเขาที่มีก็เติมส่วนที่ขาดไปได้พอดี แต่ถ้ามันหกหมื่นแปดก็ยังมีส่วนที่ขาดอยู่
เย่ฉ่าวเฉินยิ้มอย่างใจเย็น "ห้าหมื่นเป็นราคามิตรภาพ อย่างเช่นถ้าคุณลุงซื้อน่ะห้าหมื่น แต่ถ้าเพื่อนคนอื่นเราจะคิดราคามิตรภาพไม่ได้"
"ขนาดเงินคุณลุงยังเอา ขี้เหนียวไปหน่อยมั้ยครับ" เย่จิงเหยียนพูดอย่างไม่พอใจ
"ไม่งั้นเงินแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงลูกๆ"
เย่จิงเหยียนคิดอย่างลังเลด้วยใจที่ตื่นตระหนก ก่อนจะพูด "พ่อให้ราคามิตรภาพกับเพื่อนผมเถอะ เป็นเพื่อนร่วมห้อง ร่วมชั้นกันทั้งนั้น ผมเกรงใจ"
"มีอะไรต้องเกรงใจ ขนาดเป็นพี่น้องกันยังต้องคิดเงินเลย" เย่ฉ่าวเฉินพูดจบ มู่เวยเวยก็แอบบิดขาเขาใต้โต๊ะ จนเขาต้องแอบจับมือเธอไว้พลางสบตากับเธอ
เย่จิงเหยียนยังไม่ยอม "พ่อเห็นแก่หน้าผม ให้ราคามิตรภาพเถอะ"
"เพราะหกหมื่นแปดเงินลูกไม่พอใช่มั้ย" เย่ฉ่าวเฉินถามกะทันหัน
"ใช่" เย่จิงเหยียนพูดเสร็จก็เอามือขึ้นมาปิดปากทันที เขาโดนหลอกแล้ว
มู่เวยเวยหัวเราะออกมาเบาๆ เย่จิงเหยียนจึงรู้ว่าเขาหลุดไปแล้ว จึงรีบลุกยืนขึ้น "พ่อ ผมผิดไปแล้ว"
"ผิดตรงไหน" เย่ฉ่าวเฉินไม่ได้วางตะเกียบลง แต่น้ำเสียงเขาเคร่งขรึมมาก
เย่จิงเหยียนพูดตรงๆ "ผิดที่ไม่ควรเอาหุ่นยนต์ไปโรงเรียน แถมยังเอาไปเล่นในห้อง และบอกเพื่อนว่าขายแค่สามหมื่น"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...