"รู้แล้ว งั้นตอนเที่ยงพวกคุณอยากกินอะไร?"
ชิงหลงหันไปมองหัวหน้าที่ยังคงไม่พูดอะไร จำใจต้องกัดฟันพูดว่า "แล้วเต่เลย คุณสั่งก็ได้"
"โอเค"
กินข้าวเสร็จ มีเวลาชิงหลงก็ลากเย่จิงเหยียนออกมาจากห้องผู้ป่วย พูดเบาๆว่า "เกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับหัวหน้าหรอ?"
"ไม่มีอะไ" สีหน้าเย่จิงเหยียนไม่เปลี่ยน
"โกหก ตั้งแต่เมื่อวานตอนบ่ายที่คุณไป ฉันก็รู้สึกว่าหัวหน้าแปลกไป พวกคุณสองคนทะเลาะกันหรือเปล่า?" ชิงหลงถามอย่างกังวลใจ ยากที่หัวหน้าจะเห็นความรักผ่านตา ดังนั้นจะต้องไม่หนีไปไหน
เย่จิงเหยียนถามชิงหลงว่า "เธอแปลกยังไง?"
"เริ่มคลุมตัวเองอยู่ในผ้าห่ม จากนั้นก็ออกไปวิ่งรอบเลย ตอนเย็นก็เหม่อลอย ฉันพูดอะไรก็เหมือนไม่ได้ยิน"
เย่จิงเหยียนได้ฟังก็ตกตะลึง ปฏิกิริยาของต้วนอีเหยานี่คืออะไร เขาไม่มีประสบการณ์นะ
"เอ่อ……เที่ยงเมื่อวานเราทะเลาะกันนิดหน่อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เดี๋ยวฉันจะขอโทษเธอ คุณ……”
"วางใจเถอะ ฉันจะหลบไปเดี๋ยวนี้" พูดจบ ก็วิ่งไปอย่างรวดเร็ว
เย่จิงเหยียนหายใจเข้าลึกๆแล้วเข้าไปในห้องผู้ป่วย แล้ปิดประตู
ต้วนอีเหยานั่งดูโทรศัพท์อยู่บนโซฟา มองเห็นรองเท้าของเขา ในแววตาก็ลนลานเล็กน้อย ทว่าสีหน้าไม่แสดงออก
สองเท้านั้นเดินมาแล้วหยุดตรงหน้าเธอ เธอได้ยินเย่จิงเหยียนพูดว่า "คุณโกรธหรอ?"
"เปล่า" ต้วนอีเหยาไม่เงยหน้า พูดน้ำเสียงเรียบๆ
งั้นทำไมวันนี้ไม่มองฉันเลยล่ะ"
ต้วนอีเหยาเงยหน้าขึ้นมองตาของเขา "ฉันจะไม่มองคุณทำไม?"
เย่จิงเหยียนมองแววตาของเธอ จู่ๆฉันก็นึกถึงความฝันเมื่อคืนนั้น ใจก็สั่น มือสองข้างประคองหน้าเธอ จูบลงไปเบาๆ ด้วยความหิวกระหายและเร่งด่วน……
ต้วนอีเหยาไม่สบายใจอย่างมาก ทำไมพันเอกผู้สง่างามอย่างเธอถึงได้ถูกโจมตีอยู่ตลอดด้วยนะ? ไม่ได้สิ น่าขายหน้าเหลือเกิน
คิดเช่นนี้ ต้วนอีเหยาก็กอดเอวเขา ดึงเขามาด้านหน้า จากนั้นก็พลิกตัวกลับ จับเขากดลงมาแล้วคร่อมอยู่บนตัวเขา
เย่จิงเหยียนคิดว่าเธอจะผลักตนเองออกไป ไม่คิดว่าจะนั่งอยู่บนตัวของตน เพียงแค่คิดถึงท่วงท่านี้ ไฟในใจของเขานั้นก็"พรึ่บ"ลุกโชนขึ้นมา
ทั้งสองคนเป็นรักแรกของกันและกัน อีกทั้งเป็นผู้ใหญ่ในวัยยี่สิบกว่าแล้ว บำเพ็ญตบะมาเป็นเวลาหลายปี แต่เมื่อประตูแห่งความปรารถนาถูกเปิดออกแล้วก็ยากที่จะปิดมันอีกครั้ง ต่างคนต่างบ้าคลั่ง
ต้วนอีเหยาไม่ใช่ผู้หญิงขี้อาย เมื่อคืนเธอคิดเรื่องนี้ทั้งคืน ในเมื่อเรื่องก่อนหน้านี้มีหลายครั้งที่เข้าใจผิด ตนเองก็มีความรักต่อเย่จืงเหยาจริงๆ ทำไมจะไม่ลองสักหน่อยล่ะ? เย่จองเหยียนก็ไม่ได้ถือสาในฐานะของเธอ ทำไมเธอไม่เจาะปัญหานี้เพื่อจะแก้ไขล่ะ?
ก็เสพสุขทันที นี่คือสิ่งที่เธอต้องการทำ
สายฟ้าสวรรค์ชักนำอัคคีพสุธา ทั้งสองคนยิ่งจูบก็ยิ่งร้อนแรง มือของเย่จิงเหยียน……
เขาอุ้มร่างของฝ่ายหญิงขึ้นมา นำเธอมาวางลงที่เตียง แล้วปิดประตูในเวลาเดียวกัน……
ในช่วงเวลานี้ ริมฝีปากของคนสองคนประกบกันราวกับทากาวติดไว้ ไม่แยกจากกันเลย
จูบลามไปที่ลำคอยาวของเธอ ไม่สามารถควบคุมมันได้ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะการกระทำของพวกเขา
เย่จิงเหยียนหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงและวางสายโดยไม่ได้มองมัน แต่วินาทีต่อมา โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก
ปรึกษาเรื่องโรแมนติกอะไรได้หมด โดยเฉพาะเรื่องความรักนี้
ถูกขัดจังหวะสองครั้ง อย่าว่าแต่เย่จิงเหยียนลย ต้วนอีเหยาก็หมดสนุก ได้แต่เอามือทั้งสองปิดหน้าไว้ไม่กล้ามองหน้าเขา พูดเบาๆว่า "รับโทรศัพท์เถอะ"
เย่จิงเหยารู้ดีว่าวันนี้ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ ลุกขึ้นมาจากเธอ รับสายแล้วพูดใส่โทรศัพท์ว่า "ธุระอะไร?"
เลขาหวังตกใจกับน้ำเสียงโกรธนี้ จึงพูดอย่างตรงประเด็นว่า "ประธานเย่ มีเอกสารสำคัญมากที่คุณจำเป็นต้องลงนาม"
"พรุ่งนี้ไม่ได้หรือไง?" เย่จิงเหยียนโมโหจนอยากจะไล่ให้หมอนี่ไปตาย
"ไม่……ไม่ได้"
เย่จิงเหยียนกัดฟัน สบถด่าเงียบเงียบในใจ พูดด้วยความโกรธว่า "ส่งมา ฉันอยู่โรงพยาบาลทหาร"
นำโทรศัพท์โยนไปบนเตียง เย่จิงเหยียนหันกลับไปมองสาวน้อย เธอยังคงปิดหน้าอยู่ หูแดงอย่างมาก
ก้มลงไปคิดจะจูบบนหลังมือเธอ ต้วนอีเหยารู้สึกได้ถึงการเข้ามาใกล้ของเขา จึงรีบพูดว่า "อย่าเข้ามา"
เย่จิงเหยียนหยุดทันที ตามด้วยหัวเราะอย่างเงียบๆ เด็กโง่ แข็งนอกอ่อนใน
ยกมือจัดเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงของเธอให้เรียบร้อย มือของเย่จิงเหยียนวางอยู่บนมือของเธอ จากนั้นก็แยกนิ้วของเธอออกทีละนิ้ว ถือโอกาสจับไว้ในมือของตน
เธอเอียงหน้าไม่มองเขา กัดปากไม่ให้ตนเองยิ้ม
"เอาล่ะ ฉันจะลงไปวิ่งเป็นเพื่อนคุณ ขืนอยู่ที่นี่ ฉันก็อยากจูบคุณอีก" น้ำเสียงเย่จิงเหยียนอบอุ่นจนหยุดหายใจ
ต้วนอีเหยามองเขาอย่างเขินอาย ไม่มีความน่าเกรงขามใดๆเลย มีเพียงเด็กสาวตัวน้อยที่ไร้เดียงสา
"คุณไม่ลุกขึ้นล่ะ หรือว่ายังอยาก……”
"ลุกแล้วลุกแล้ว" ต้วนอีเหยาลุกขึ้นโดยยืมมือของเขา กระโดดลงจากเตียงจากด้านหลังเขา
เห็นเธอรีบวิ่งหนี เย่จิงเหยียนก็แทบจะหัวเราะ ขณะนี้เวลานี้ เขาไม่จำเป็นต้องถามว่าต้วนอีเหยาชอบเขาหรือเปล่า ทุกการกระทำทุกการเคลื่อนไหวของเธอได้อธิบายเรื่องนี้ไว้หมดแล้ว
แสงแดดในฤดูใบไม้ร่วงอบอุ่นมาก ผู้คนนั่งพักผ่อนกระจัดกระจายอยู่บนสนามหญ้ากว้างสีเขียว เพราะว่าเป็นโรงพยาบาลทหาร ผู้ป่วยหลายคนก็ออกมาวิ่งจ้อกกิ้ง
เย่จิงเหยียนวิ่งตามต้วนอีเหยาไปหลายรอบ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเบอร์แปลก
"สวัสดีครับ?" เย่จิงเหยียนพูดไปด้วยรับโทรศัพท์ไปด้วย
"ประธานเย่ ฉันจ้าวเสวียนนะ ฉันมาส่งเอกสารให้คุณแล้ว คุณอยู่ที่ไหน?"
"คุณมาที่เขตพักผ่อนของโรงพยาบาล"
โอเคประธานเย่"
รับโทรศัพท์แล้ว เห็นมีเก้าอี้ยาวอยู่ไม่ไกล เย่จิงเหยียนดึงมือต้วนอีเฟยาแล้วพูดว่า "พักสักเดี๋ยวเถอะ"
ต้วนอีเหยาหิวน้ำพอดี "ฉันจะไปซื้อน้ำ"
"คุณนั่งพักเถอะ ฉันไปซื้อเอง"
ต้วนอีเหยาพยักหน้า
จ้าวเสวียนเดินถือเอกสารมาแล้วถามผู้คนเพื่อหาเขตพักผ่อนของโรงพยาบาล ยากที่เธอจะได้งานนี้จากเลขาหวังก็ต้องมาแล้ว เพื่อให้รู้ว่าหลายวันมานี้เย่จิงเหยียนอยู่ที่ไหน เธอคิดมาตลอดว่าเย่จิงเหยียนไปเที่ยว คาดไม่ถึงว่าจะอยู่โรงพยาบาล ไม่รู้ว่าป่วยเองหรือมาดูแลคนป่วย ถ้าเขาป่วย งั้นพอดีเลยตนเองจะได้……
กำลังคิดถึงตรงนี้ เธอก็เห็นร่างที่สง่างามร่างหนึ่ง แต่งตัวสบายๆ จะเป็นใครถ้าไม่ใช่เย่จิงเหยียน?
จ้าวเสวียนดีใจ รีบเดินไปข้างหน้า ไม่นานเธอก็เห็นเย่จิงเหยียนเดินไปหาหญิงสาวบนม้านั่ง นั่งลงข้างๆเธอ เปิดขวดน้ำด้วยตัวเองแล้วยื่นส่งให้เธอ
รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวเสวียนก็แข็งทื่อ ผู้หญิงคนนี้คือใคร? ทำไมถึงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานเย่ปเช่นนี้?
กดความหงุดหงิดไว้ในใจ จ้าวเสวียนเงยหน้าขึ้นและเดินไปหาคนทั้งสอง
ต้วนอีเหยาดื่มน้ำไปสองสามอึก ก็เห็นสาวสวยคนหนึ่งเดินเข้ามา สายตาจ้องมองตรงมาที่เย่จิงเหยียน เธอเงยหน้าพูดว่า "มาตามหาคุณใช่ไหม?"
เย่จิงเหยียนหันกลับมา ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นจ้างเสวียน "อืม ส่งเอกสาร"
"ประธานเย่" จ้าวเสวียนยืนทำความเคารพอยู่ข้างๆเขา
"เอกสารล่ะ?"
จ้าวเสวียนหยิบเอกสารออกมา พร้อมกับยื่นปากกาหนึ่งด้าม
ตอนที่เย่จิงเหยียนตรวจดูเอกสารอย่างละเอียด จ้าวเสวียนก็พินิจพิเคราะห์ต้วนอีเหยา คิดเงียบๆในใจว่า ก็ไม่ได้สวยมากมาย ผิวก็ไม่ได้ขาว สรุปนี่คือใครกัน
เย่จิงเหยียนเซนต์ชื่อเสร็จ ก็ส่งเอกสารให้เธอ
จ้าวเสวียนไม่เต็มใจที่จะกลับไปเช่นนี้ ถามอย่างห่วงใยว่า "ประธานเย่ คุณไม่สบายหรอ?"
"เปล่า ยังมีธุระอีกไหม?"
"เอ่อ ไม่มีแล้ว" จ้าวเสวียนรีบพูด
ไม่มีก็กลับไปเถอะ" เย่จิงเหยียนออกคำสั่งส่งแขกอย่างไม่สุภาพ
จ้าวเสวียนแววตาผิดหวัง "แล้วเจอกันค่ะประธานเย่"
ต้วนอีเหยาดื่มน้ำอีกหนึ่งที พูดอย่างตรงไปตรงมา "ผู้หญิงคนนี้ชอบคุณ"
เย่จิงเหยียนประหลาดใจ "จะเป็นไปได้ยังไง?"
"ดวงตาของเธอจับจ้องมาที่คุณ อีกทั้งยังแอบสังเกตุฉัน นี่ไม่ชอบแล้วคืออะไร?" ต้วนอีเหยาสังเกตุคนได้เก่งมาก
เย่จิงเหยียนขมวดคิ้วสีหน้าเย็นชามาก "เธอชอบก็ชอบไป ผู้หญิงเช่นนี้ฉันเห็นมาเยอะแล้ว ตราบใดที่เธอไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของฉัน ฉันก็ไม่อยากไปสนใจ"
ต้วนอีเหยาหันไปมองเขา "เย่จิงเหยียน คุณหยิ่งเกินไปหน่อยหรือเปล่า?"
เย่จิงเหยียนหันกลับมามองเธอ "ถ้าคุณไม่ชอบ พรุ่งนี้ฉันจะให้เธอออกไปเลย"
"ไม่ไม่ไม่ จะทำให้คนตกงานเพราะว่าฉันได้ยังไงล่ะ?"
แววตาที่ลึกซึ้งของเย่จิงเหยียนล็อกเธอไว้แน่น "อีเหยา หัวใจของฉันเล็กนิดเดียว คุณอยู่ข้างในมายี่สิบกว่าปีแล้ว ฝังรากแตกกิ่ง จนเต็มพื้นที่ด้านในไปหมด เดิมทีก็ไม่มีที่ว่างให้คนอื่นแล้ว"
ต้วนอีเหยารู้สึกใจสั่นขึ้นมาอีกครั้ง เธออยากจะตอบรับตอนนี้มากๆ แต่นึกถึงหน้าที่ที่หนักหนายากลำบากนั้น ก็ไม่สามารถกลับมามีชีวิตชีวาได้
"จิงเหยียน คุณให้ฉันคิดอีกสักหน่อยเถอะ"
เย่จิงเหยียนพยักหน้าหนักๆ ยิ้มพูดว่า "อืม ฉันไม่รีบ"
เธอเป็นคนจริงจัง บอกว่าขอคิดเรื่องนั้นก็คือมีความหวัง สำหรับเย่จิงเหยียนนี้ ก็คือเป็นผลลัพธ์ที่ดีมากๆแล้ว
ตอนเที่ยงเย่จิงเหยียนไม่ได้ทำอาหาร แต่พาทั้งสองคนไปกินข้าวไปที่ร้านอาหารชื่อดังในระแวกใกล้เคียง
ระหว่างทางไปทานอาหารเย็น โทรศัพท์ของต้วนอีเหยาก็ดังขึ้น เธอหยิบดู ก็ส่งสัญญาณให้ทั้งสองคนเงียบ
"คุณพ่อ" สาวน้อยเรียกด้วยรอยยิ้ม
เย่จิงเหยียนได้ยินสองคำนี้ หูก็ผึ่งขึ้นมา
"คุณทำอะไรอยู่ล่ะ?"
"ทานอาหารกลางวัน"
"ทานอยู่ที่ไหนล่ะ?"
ต้วนอีเหยาหันไปมองเย่จิงเหยียนกับชิงหลงไม่กล้าปิดบัง "อยู่ข้างนอก พ่อ คุณจะไม่มาที่โรงพยาบาลเลยใช่ไหม"
"ฉันไม่มีเวลาว่าง" ทหารต้วนหยุดไปชั่วขณะ พูดอย่างเคร่งขรึมว่า "การฟื้นฟูร่างกานของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...