วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 350

"ฉัน……ฉัน……ชอบจริงๆนะ พี่……พี่จิงเหยียน……" ต้วนจื่ออิ๋งสะอึกสะอื้น ขอบตาแดง ฉะนเห็นแล้วก็สงสาร

พ่อต้วนกุมหน้าอก หันไปมองเย่จิงเหยียนอย่างดุดัน "คุณใส่ยาเสน่ห์ให้ลูกสาวฉันหรอ?"

"พ่อ……”

ต้วนจื่ออิ๋งขวางสายตาของพ่อต้วน นำเย่จิงเหยียนมาปกป้องไว้ข้างหลัง "ไม่ใช่เรื่องของพี่จิงเหยียน คุณอย่ามาว่าเขา"

"ดี ดี ตอนนี้แม้แต่ฉันจะพูดกับคนอื่นไม่กี่ประโยคคุณก็ไม่ยินดีใช่ไหม? ลูกสาวที่ดีของฉัน! แค่กแค่กแค่ก……”

พ่อต้วนพูดจบก็ปิดปากไอ จู่ๆก็นั่งลงบนเก้าอี้ อย่างหอบเหนื่อย

"ตาเฒ่าต้วน ตาเฒ่าต้วน?" แม่ต้วนเห็นพ่อต้วนนั่งลงไอบนเก้าอี้ ดูเซื่องซึม เธอก็รู้สึกไม่ดี ปล่อยมือที่จับต้วนจื่ออิ๋ง แล้วตรงเข้าไปหาเขา

"แค่กแค่กแค่ก……แค่กแค่ก……"

พ่อต้วนปิดปากแล้วยื่นมือออกไปห้ามแม่ต้วนไม่ให้มาดูอาการ "แค่กแค่ก……”

"พ่อต้วน ท่านไม่พอใจฉัน จริงๆมันก็เป็นความรับผิดชอบของฉัน ฉันต้องขอโทษอย่างมาก" เย่จิงเหยียนก้าวออกมาจากข้างๆต้วนจื่ออิ๋ง หันหน้าไปทางพ่อต้วนแล้วโค้งคำนับอย่างสุภาพ

เขาเป็นผู้ชาย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่ควรหลบอยู่ข้างหลังผู้หญิง

"แต่ว่าฉันก็มีหลักการของฉัน ในเมื่อฉันรับปากว่าจะแต่งงานกับจื่ออิ๋ง ก็จะปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี จุดนี้ ขอให้ท่านวางใจ!"

พ่อต้วนยังคงไอไม่หยุด เพียงแต่ชัดเจนว่าการหายใจราบรื่นขึ้นมาก ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่เย่จิงเหยียน

"หลักการของคุณคือ?" เขาหัวเราะ "คุณกล้ารับประกันไหมว่าจะไม่ทำให้เธอเสียใจ ไม่ทำให้เธอรู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรมแม้แต่นิดเดียว?"

เย่จิงเหยียนมองต้วนจื่ออิ๋งข้างๆอย่างลังเลใจ เธอน้ำตาคลอเบ้า หน้าตาน่าสงสาร ส่ายหัว "ฉันไม่กล้ารับประกัน"

"งั้นคุณเอาความมั่นใจที่ไหนมาพูดสิ่งเหล่านี้?" พ่อต้วนคาดไม่ถึงว่าเขาจะตอบกลับตนเองเช่นนี้ ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปชั่วขณะ

"แต่ฉันจะพยายามไม่ทำให้เธอเสียใจ"

ต้วนจื่ออิ๋งรู้สึกประทับใจอย่างมาก โอบเอวเย่จิงเหยียนด้วยมือทั้งสองข้าง จากนั้นก็ผ่อนคลายลงมา ปล่อยให้เธอกอดตนเอง

พ่อต้วนเห็นลูกสาวของตนอาลัยอาวรณ์เย่จิงเหยียนขนาดนี้ ฉับพลันในใจก็ยิ่งอ่อนแรง ลูกสาวกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมอย่างไร้ค่าเช่นนี้ ถึงที่สุดแล้วมันไม่ใช่เรื่องดีเลย แต่เขาจะทำอะไรได้ล่ะ? ในเมื่อชอบไปแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกให้เธอทำลายรากเหง้าความรักนั้น

เขาจับมือแม่ต้วนลุกขึ้นมา "พักเรื่องการแต่งงานไว้ก่อน อย่างน้อยพ่อแม่ของคุณก็ควรมาเจอหน้าพวกเรานะ"

"นั่นเป็นสิ่งที่สมควร" เย่จิงเหยียนพยักหน้าสนับสนุน "ฉันแจ้งพสกเขาให้ทราบแล้ว อีกสองวันก็น่าจะได้เจอ"

ได้ฟังเขาพูดเช่นนี้ ท้านที่สุดสีหน้าของพ่อต้วนก็ไม่ลำบากใจอีกแล้ว เดินประคองโต๊ะอาหารอย่างสั่นเทาไปทางห้องนอน พอมาถึงข้างๆเขา จึงพูดเบาๆหนึ่งประโยคว่า "คุณทำตัวเองให้ดีๆเถอะ"

อีกด้านหนึ่ง ในห้องของต้วนอีเหยา ไป๋จิ่นอี้ยุ่งอยู่กับการชงน้ำตาลทรายแดงให้เธอ

ต้วนอีเหยานอนอยู่บนโซฟา คลุมร่างด้วยผ้าห่มหนาๆ ทว่าหน้าผากกลับมีเหงื่อออกตลอด

ไป๋จิ่นอี้เดินไปตรงหน้าเธอหลายรอบ สุดท้ายก็นำน้ำน้ำตาลทรายแดงวางไว้ในมือของเธอ ถามอย่างเป็นห่วงว่า "อีเหยา คุณเป็นอย่างไรบ้าง?"

"ยังไหว" ต้วนอีเหยาอ้าปาก พูดสองคำออกมาอย่างสั่นเครือ

"ถ้าปวดมากจริงๆ ฉันก็จะพาคุณไปโรงพยาบาลนะ!" ไป๋จิ่นอี้ใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ขมวดๆคิ้ว ราวกับว่าเขาก็ได้รับความทุกข์ทรมานเช่นกัน

ต้วนอีเหยาส่ายหัว "ฉันไม่เป็นไร ตอนบ่ายคุณมีสอนไม่ใช่หรอ? รีบไปเถอะ!"

ไป๋จิ่นอี้วางผ้าขนหนูในมือไว้ในกะละมัง "ฉันให้เพื่อนร่วมงานช่วยไปแล้ว คุณปวดมากขนาดนี้ ฉันจะจากไปอย่างวางใจได้อย่างไร"

ต้วนอีเหยายิ้มให้เขาอย่างอ่อนแรง ฉับพลันท้องของเธอก็กลับมาปวดจนเธอปวดอะไรไม่ออกสักคำ เวลานี้เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

"คุณ……รับ……รับให้หน่อย" ต้วนอีเหยาพยายามที่จะลุกขึ้น โทรศัพท์วางอยู่บนโต๊ะ เธอยื่นมือออกไปไม่ถึง

"ฮัลโหล? ใครครับ?" ไป๋จิ่นอี้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ

คนทางด้านนั้นได้ยินเสียงผู้ชาย ก็หยุดนิ่งไปเล็กน้อย จึงพูดว่า "ต้วนอีเหยาล่ะ?"

น้ำเสียงหนักแน่น รู้สึกได้ถึงความเข้มงวดเคร่งครัด คำตอบในใจของไป๋จิ่นอี้ลอยขึ้นมาเบาๆ ตอบกลับไปว่า "ครับคุณลุง ตอนนี้อีเหยาไม่สะดวกรับสาย"

"ไม่สะดวก?" น้ำเสียงของทหารต้วนเคร่งขรึมลงทันที "เธอทำอะไรอยู่ ฉันสั่งภายในสามวินาทีเธอจะต้องรับโทรศัพท์!"

“二”

ไป๋จิ่นอี้ได้ฟังก็ตกใจ รีบยื่นโทรศัพท์ไปที่หูของต้วนอีเหยาด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด พูดอย่างเงียบๆว่า "พ่อของคุณ"

ต้วนอีเหยาเข้าใจในชั่วพริบตา "พ่อ?"

"คุณเป็นอะไรถึงรับโทรศัพท์ไม่ได้? ยืนขึ้นแสดงความเคารพ!"

"รับทราบ!"

ได้ยินคำสั่งของทหารต้วน ต้วนอีเหยาก็ลุกขึ้นมาจากโซฟา ทำวันทยาหัตถ์

"ให้คำตอบกับฉันเดี๋ยวนี้ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน ทำอะไร!"

"ท่านผู้นำ ฉันไม่สบาย กำลังพักผ่อนอยู่!"

ทหารต้วนลำบากใจ "คุณไม่สบายหรอ? เกิดอะไรขึ้น?"

"ไม่……ไม่เป็นไร" ต้วนอีเหยาไม่คุ้นชินเล็กน้อย เมื่อกี้ยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?

"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไม่นาน ถ้าร่างกายคุณดีแล้ว ก็กลับมานำทหารเถอะ"

"รับทราบ!"

ทหารต้วนได้ยินคำตอบเด็ดเช่นนี้ของเธอ รู้สึกทุกข์ในใจเล็กน้อย น้ำเสียงอ่อนโยนลงโดยไม่ได้ตั้งใจ "คุณดูแลตัวเองให้ดีก่อน เรื่องฝึกอบรมไม่ต้องรีบร้อน"

ต้วนอีเหยาตอบรับ แล้วก็วางสายไป จึงรู้สึกได้ถึงร่างกายที่อ่อนแอไม่มีแรง ล้มลงบนโซฟา

"อีเหยา!" ไป๋จิ่นอี้สายตาเฉียบแหลม ยื่นมือไปดึงฉุดเธอ "คุณไหวไหม?"

ต้วนอีเหยาฝืนใจลืมตา พยักหน้ากับเขา จากนั้นก็หลุดออกจากมือเขา ล้มลงอยู่บนโซฟา

"ไม่ได้ ฉันจะพาคุณไปโรงพยาบาล ท่าทางคุณนี้ดูอ่อนแอเหลือเกิน!" ไป๋จิ่นอี้อุ้มเธอขึ้นมา แล้วเดินตรงไปที่ลิฟท์

ตลอดทางการจราจรปลอดโปร่ง รถจอดที่โรงพยาบาล ไป๋จิ่นอี้ก็อุ้มต้วนอีเหยาลงจากรถอีกครั้ง

"เดี๋ยว คุณวางฉันลงก่อน!" ต้วนอีเหยาเห็นว่าเขาจะอุ้มตนเองไปที่ลิฟท์ ก็รีบห้ามปราม

ถึงแม้ว่าไป๋จิ่นอี้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ก็ยังหยุดลงอย่างเชื่อฟัง เห็นสีหน้าสงสัยของเขา ต้วนอีเหยาก็พูดไม่ออกเล็กน้อย "คุณไม่เคยมาโรงพยาบาลใช่ไหม?"

"ทำไมหรอ?" ไป๋จิ่นอี้ลูบๆหัว เขาไม่เคยมาโรงพยาบาลจริงๆ ตั้งแต่เด็กจนโตเจ็บป่วยก็มีหมอเฉพาะทาง พ่อกับคุณลุงในโรงเรียนแพทย์มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะฉะนั้น เมื่อไม่สบายก็อยู่รักษาที่บ้าน

ต้วนอีเหยาหัวเราะ "มาโรงพยาบาลก็ต้องกดบัตรคิวก่อน!"

"หรอ?"

ไป๋จิ่นอี้มองตามสายตาของต้วนอีเหยา ในล็อบบี้โรงพยาบาลมีแถวต่อกันยาวเหยียด "เช่นนี้จะตรวจอาการยังไง? รอให้ถึงคิวพวกเรา อีเหยาเกรงว่าคุณจะไม่ไหวแล้วนะสิ!"

"ระบบของโรงพยาบาลก็เป็นเช่นนี้แหละ คุณไปก่อนเถอะ ฉันทนไหว"

ต้วนอีเหยาใช้มือกำขอบประตูแน่น พยายามไม่ให้ตนเองหมดแรงล้มลงไป คนก็เข้าๆออกๆประตูลิฟท์ ชนเธอโอนไปเอนมา ไป๋จิ่นอี้ก็เป็นห่วงเธอเล็กน้อย

เขาหันไปรอบๆ แล้วอุ้มต้วนอีเหยาขึ้นมา "คุณนั่งอยู่ที่นี่ก่อน"

เก้าอี้เหล็กเย็นเฉียบทำให้เขาคิ้วขมวด ลังเลสักพัก ก็ถอดเสื้อมาปูด้านบนให้

"คุณรออยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวฉันกลับมา"

ต้วนอีเหยากุมท้อง ยิ้มอย่างยากลำบากให้เขา "ไปเถอะ"

ไป๋จิ่นอี้เดินไปที่แถวกดบัตรคิว เวลาที่พูดสองประโยคนั้น แถวก็ต่อไปถึงนอกประตูแล้ว เขาขมวดคิ้วเดินตรงไปจนสุดทาง แล้วจู่ๆก็มีคนมาแย่งต่อด้านหน้าเขาสองสามคน

คนในแถวก็หัวเราะเล่นกันอย่างสนุกสนาน มองไม่เห็นความหวังเลย ไป๋จิ่นอี้มองไปที่ที่ต้วนอีเหยานั่งอยู่ทุกๆสองสามนาที กลัวว่าเธอจะเป็นลมอยู่บนเก้าอี้

ถึงแม้ว่าจะมีเสื้อปูรองอยู่หนึ่งชั้น แต่ความเย็นของเหล็กก็ยังไม่หยุดทะลุเข้าไปในร่างกายของเธอ

ต้วนอีเหยาสะลึมสะลือ เธอนอนอยู่บนที่เท้าแขน ขดตัวจนเป็นวงกลม เวลานี้ ฉับพลันก็มีเสียงดังเอะอะที่นอกประตู รถพยาบาลคันหนึ่งหยุดที่หน้าประตูใหญ่

จากนั้นเปลหามก็ถูกยกลง ต้วนอีเหยาพยายามลืมตาขึ้นและมองไปที่ฝูงชน ฉับพลันก็ก้มหน้าลง

ไม่รู้ว่าเธอตาลายหรือปล่า เธอเห็นเย่จิงเหยียนอยู่ในฝูงชน คนเข็นเตียงผู้ป่วย ไปยังทิศทางของห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว

เขามาได้อย่างไร? ข้างกายยังคงเป็นผู้หญิงคนนั้น……

เย่จิงเหยียนขมวดคิ้ว รวมทั้งต้วนจื่ออิ๋ง แม่ต้วนด้วยถูกขวางอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน เขายืนพิงหน้าต่าง แล้วจุดบุหรี่หนึ่งมวนใส่ปาก

ด้านหลังเป็นเสียงร้องไห้ของต้วนจื่ออิ๋งกับแม่ต้วน ต้วนจื่ออิ๋งสะอึกสะอื้นอยู่บนเก้าอี้ "พ่อเป็นอะไร? ทำไมจู่ๆถึง……ถึงหมดสติไป……"

แม่ต้วนร้องไห้ เพื่อปลอบโยนลูกสาวก็ยังคงอดกลั้นอธิบายให้เธอฟัง "พ่อคุณเป็นความดันโลหิตสูง หากไม่ระวัง บางที่ความโกรธที่อัดอั้นในใจก็สามารถทำให้……”

"ไม่ใช่……ไม่ใช่ว่าพูดกันดีแล้วหรอ? เขายังโกรธอะไรอีก!"

……

เย่จิงเหยียนรู้สึกหงุดหงิด เลยถือโอกาสทิ้งก้นบุหรี่แล้วพูดหนึ่งประโยค "ฉันจะไปห้องน้ำหน่อย"

ต้วนอีเหยาปวดท้องจนยากที่จะทน เลือดส่วนล่างก็ไหลรินออกมา โดยสัญชาติญาณหากเธอไม่ไปห้องน้ำจะต้องล้นออกมาแน่ๆ

เธอโบกมือบอกต้วนอีเหยา พยุงตนเองจับกำแพงเดินไปห้องน้ำ ด้านหลังเธอคือเย่จิงเหยียนที่สูบบุหรี่เสร็จพอดี ทั้งสองคนเปิดประตูสองบานที่ตรงข้ามกัน

ต้วนอีเหยาจัดการเสร็จก็หันหลังเดินออกไป เย่จิงเหยียนก็เดินออกมาจากห้องน้ำชาย ล้างมืออยู่ที่อ่าง จู่ๆก็เงยหน้าขึ้น ร่างด้านหลังที่คุ้นเคยผ่านไปต่อหน้าต่อตา เขารีบปิดก๊อกน้ำและออกไปหา ทว่าก็ไม่พบเงาของต้วนอีเหยาแล้ว

เขาส่ายหัวยิ้มอย่างขมขื่น จะแต่งงานกับคนอื่นอยู่แล้ว เขายังปล่อยวางเธอไม่ได้ ความห่วงใยของพ่อต้วนก็เป็นข้ออ้างได้เสมอ

เมื่อกี้นี้เขาถามเขาว่า : ทำให้เธอไม่เสียใจได้ไหม เขาจนปัญญาที่จะรับปาก เพราะว่าเขาไม่ได้รักเธอ ดังนั้นหลายๆเรื่องที่สะเพร่า ทำให้จิตใจไม่อยู่กับตัว เช่นนี้มันง่ายมากที่จะเพิกเฉยต่อความรู้สึกของเธอ ทำให้เธอเศร้าเสียใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ