วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 358

" ออกไป!" ต้วนอีเหยาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ตาเธอแดงไปหมด

อาเทียนและเซวี่ยนอู่พอเห็นท่าทีของเธอ ก็รีบกลืนสิ่งที่จะพูดลงไปทันที และถอยออกไปอย่างเงียบๆ

ต้วนอีเหยานั่งอยู่บนเตียงพร้องกับฟังเสียงดนตรีข้างหูเธอ เธอรู้สึกเศร้าเมื่อคิดว่าเธอจะไม่ได้ยินแบบนี้อีกต่อไปในสองสามเดือนข้างหน้า

ภาพยนตร์ที่เคยดูก็วนเวียนอยู่ในหัวสมองเธอ เธอนึกขึ้นได้ทีละเรื่อง ที่นางเอกหูหนวก เพราะว่าไม่ได้เสียงอะไรเลยจึงไม่รู้ว่าจะพูดออกมาอย่างไร แล้วเธอจะเป็นแบบนั้นไหม?

ต้วนอีเหยาหลับตาลง เธอได้ยินเสียงบางอย่าง เสียงเล็กๆได้หูเธอดังเข้าไปถึงสมองของเธอ

มุมตาของเธอมีน้ำตาไหลลงมาและหยดลงบนผ้าปูที่นอนและทิ้งความชุ่มชื้นไว้

......

แสงแดดส่องผ่านม่านหน้าตาเข้ามาพอดี ต้วนอีเหยามองเห็นนกพิราบที่บินอยู่ไกลๆ ตอนนั้นเองจู่ๆเธอก็คิดถึงคนหนึ่งในใจ

ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ จะคิดถึงเธออยู่หรือเปล่า?

เมื่อเธอกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ต้วนอีเหยาสะดุ้ง แต่ก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เธอไม่ได้สังเกตอะไรมากก็กดรับสายเลย

" ฮัลโหล? "

" อีเหยา......"

หัวใจของต้วนอีเหยาเต้นเร็วมาก เมื่อกี้ยังคิดถึงเขาอยู่เลย ตอนนี้ก็ได้รับสายเขาสะแล้ว เธอกำลังจะถอดหูฟังออก กลับได้ยินเสียงลมหายใจเบาๆ

" เธอได้ยินหรือเปล่าอีเหยา? อีเหยา? "

เย่จิงเหยียนไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ เขาถือไมโครโฟนแล้วพูดประโยคเดิมอีกรอบ " อีเหยา ฉันคิดถึงเธอ......"

" อือ " ต้วนอีเหยาตอบกลับแบบแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่ในตากลับมีน้ำตาชุ่มชื้นไปทั้งตา

เธอก็คิดถึงเขา อยากเจอหน้าเขาเดี๋ยวนี้เลย!

พอเธอคิดแบบนี้ เธอคิดว่าถึงจะหูหนวกจริงๆ ขอแค่ได้อยู่ข้างกายเขา ก็คงจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น......

" เธออยู่ที่ไหน? " เย่จิงเหยียนถาม

ต้วนอีเหยาปรับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตัวเอง และพูดเสียงนิ่งๆ " ในเขตทหาร "

" ถ้าอย่างนั้นเธอรออยู่ที่นั่นนะ ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้! "

เย่จิงเหยียนหยิบเสื้อแขนยาวบนโซฟา แล้วบอกลาต้วนอีเหยาสักหน่อย จากนั้นก็วางสาย และวิ่งไปที่รถ

" ไม่......" ต้วนอีเหยาอยากปฏิเสธ พึ่งจะพูดไปได้แค่คำเดียว ก็ได้ยินเสียง " ตูดตูดตูด" ดังมาจากปลายสาย เธอถือโทรศัพท์อย่างทำอะไรไม่ถูกและอึ้งไปสักพัก

เย่จิงเหยียนติดอยู่บนถนนวงแหวนรอบสาม และบีบแตรตลอดทาง เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมวันนี้ถึงอยากไปหาเธอมากขนาดนี้ ทั้งๆที่พึ่งแยกกันตอนเช้านี้เอง

ช่วงบ่ายเขากลับไปถึงคฤหาสน์พึ่งจะนั่งลงเตรียมจะทำงาน ตาขวาก็กระตุก และหัวใจก็เต้นเร็วมาก

ดังนั้นจึงอดใจไม่ได้ที่จะโทรหาต้วนอีเหยา ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามปกปิด แต่เขาฟังออกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เขาอยากจะบินไปอยู่ข้างกายเธอโดยเร็วที่สุด แต่การจราจรที่ติดขัดนี้ทำให้เขาขยับไปไหนได้ยากมาก......

ผ่านไปแล้วครึ่งชั่งโมง แต่เขากลับเคลื่อนไปข้างหน้าเพียงสิบเมตร ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้ฟ้ามืดหมดแล้วก็ยังคงไปไม่ถึงเขตทหาร

เขาโทรหามู่ยู่วฉีให้มาขับรถแทนตัวเอง เขาจะเร่งไปที่หมายให้ถึงก่อนอาหารเย็น

" เฮ้ เฮ้ เฮ้ ? คุณเป็นใคร? ในเขตทหารคนที่ไม่ได้รับอนุญาตห้ามเข้า ”

เย่จิงเหยียนเหลือบไปมองหน้าประตูแวบหนึ่ง พึ่งจะก้าวขาออกไปแค่ข้างเดียว ก็โดนคนมาขวางไว้สะก่อน

" มีบัตรผ่านเข้าออกรึเปล่า? ”คนเฝ้าประตูถาม

ขวางเย่จิงเหยียนไว้ แล้วใช้สายตาที่โหดมากจ้องหน้าเขา

เย่จิงเหยียนขมวดคิ้ว แล้วถอยหลังกลับหนึ่งก้าว " จะต้องทำอย่างไรถึงจะเข้าไปได้? "

คนนั้นพอได้ยินคำพูดของเย่จิงเหยียน ก็รู้ว่าเขาไม่มีบัตรผ่านใดๆ ก็ยิ่งไม่พอใจ " ออกไปๆๆ บัตรอะไรก็ไม่มี แล้วคุณจะมาอยากเข้าไป! จะไปที่ไหนก็ไป ไม่อย่างนั้น....จะมาโทษปืนของทหารไม่ได้นะ! "

" ฉันจะเข้าไป!"

เย่จิงเหยียนที่ถอยหลังไปก่อนหน้านี้หนึ่งก้าว หลังจากนั้นก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆอีกเลย

แววตาของเขาดุร้าย สีหน้าของเขาน่ากลัว ทำให้คนที่โดนปืนจ่อหน้าอดไม่ได้ที่จะสะดุ้งตกใจ

แต่เพียงชั่ววินาที เขาก็ใช้ปืนเล็งไปที่หน้าอกแล้วพูดว่า " ถ้าคุณอยากเข้าไปก็ให้คุณเข้าไปอย่างนั้นหรอ? คุณใหญ่โตมาจากไหน? "

เย่จิงเหยียนขี้เกียจต่อปากต่อคำกับเขา เลยโทรหาใครคนหนึ่ง ไม่นานฝ่ายตรงข้ามก็รับ

" ฮัลโหล หวังจวี๋ ฉันจิงเหยียนเอง ฉันมีธุระที่ต้องเข้าไปในเขตทหาร นายช่วยจัดการให้หน่อยว่าได้ไหม......"

ไม่รู้ว่าฝั่งนั้นพูดว่าอะไร เย่จิงเหยียนเปิดลำโพงแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ผู้กล้าคนนั้น

" ฮัลโหล? "

" หวังจวี๋? "

น้ำเสียงเขาตกใจ พอยืนยันจากเสียงของฝ่ายตรงข้ามแล้ว น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นถ่อมตัวขึ้นมาทันที

"ครับ ครับ ครับ ผมจะดำเนินการทันที!หวังจวี๋ ท่านสบายใจได้!

วางสายโทรศัพท์

ท่าทีที่เขามีต่อเย่จิงเหยียนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาเก็บปืนและก้มหน้าลง " คุณผู้ชายท่านนี้ เมื่อสักครู่ต้องขออภัยด้วยจริงๆนะครับ ช่วงนี้ไม่ใช่วันพิเศษ เบื้องบนสั่งไว้ว่าให้ตรงจอย่างละเอียดก่อนถึงจะปล่อยให้เข้าไปได้......"

" นำทางฉันไปที่กองบัญชาการทหาร "

เย่จิงเหยียนรู้สึกว่าเขาน่ารำคาญเลยรีบพูดแทรกขัดขังหวะเขาอธิบาย แต่ว่าเขาลืมถามว่าต้วนอีเหยาอยู่เขตทหารไหน ก็เลยทำได้เพียงให้คนพาไปที่กองบัญชาการทหาร

ใครจะไปรู้ว่าพอคนนั้นได้ยินว่าเขาจะไปกองบัญชาการทหาร ก็ให้ความเคารพเขามากขึ้น

" คุณผู้ชาย กองบัญชาการทหารอยู่ค่อนข้างไกลจากที่นี่ ให้ผมขับรถส่งคุณไปจะดีกว่า "

เย่จิงเหยียนพยักหน้า เดินไปตามเขาและนั่งลงบนรถ คนนั้นเขาสั่งให้คนที่เฝ้าประตูอยู่ให้ระวังคนที่ผ่านไปผ่านมาด้วย หลังจากนั้นก็เข้าไปนั่งในรถและตามไปด้วย

" คุณผู้ชาย ท่านไปหาใครที่กองบัญชาการทหารหรอ? "

ขับรถอยู่ยังไม่ลืมที่จะหันกลับมาถาม

เย่จิงเหยียนพยายามคิดและมองเขาอย่างนิ่งๆ " ไปหาคนที่นามสกุลต้วน "

" นามสกุลต้วน? "

ในใจเต้น " ตึกตัก " ก็รู้ทันทีว่าคนที่มาเยือนนี้ไม่ธรรมดา เริ่มจากหวังจวี๋ก่อน แล้วมาที่หัวหน้าต้วน ต่างก็รู้ว่าหัวหน้าต้วนเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน!

เขาคิดในใจแบบนี้ แต่เขาไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมา รู้ดีว่าถ้าถามมากไปกว่านี้ก็จะส่งผลไม่ดีกับตัวเอง เรื่องระหว่างหัวหน้า ลูกน้องตัวเล็กๆอย่างเขาไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องจะดีกว่า!

ทั้งสองเงียบมาตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงกองบัญชาการทหาร เย่จิงเหยียนพยักหน้า แล้วคนนั้นก็ขับรถออกไป

คนเฝ้าประตูของกองบัญชาการไม่ได้เข้มงวดเหมือนคนเฝ้าหน้าประตู เย่จิงเหยียนเข้าไปยังค่ายแบบง่ายดายมาก

การตกแต่งภายในเรียบง่ายมาก เย่จิงเหยียนพึ่งเงยหน้าขึ้นเห็นทหารต้วนอยู่ตรงหน้า เขาตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะเจอเขาที่นี่

เห็นอย่างชัดเจนว่าทหารต้วนยังไม่ทันสังเกตว่ามีคนหนึ่งเดินเข้ามาในกองบัญชาการ เธอก้มหัวไม่รู้ว่าเธอกำลังยุ่งอยู่กับอะไร

เย่จิงเหยียนไม่อยากเข้าไปรบกวนเขา หันลังกำลังจะออกไปเงียบๆ

ไม่รู้ว่าถุงพลาสติกบนพื้นถูกลมที่ไหนพัดมา เขาเหยียบโดนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ข้างการก็ไม่มีที่พึ่งพิงใดๆ เขาเลยผลักตู้หนังสือข้างๆล้มลง

ทหารต้วนเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะหนังสือ เธอขมวดคิ้วแล้วมองมาตามทิศทางของเสียง เห็นเย่จิงเหยียนที่ท่าทีแปลกอยู่ตรงหน้า

เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว " นายมาที่นี่ทำไม? "

"คุณ.....คุณลุงต้วน สวัสดีครับ " เย่จิงเหยียนเก็บหนังสือที่กระจัดกระจายบนพื้นขึ้นมา จับผมม้วนไปม้วนมาอย่างทำตัวไม่ถูก

ถ้ารู้แต่แระว่าจะอึดอัดขนาดนี้ น่าจะทักทายท่านตั้งแต่ตอนที่พึ่งเดินเข้ามา......

สีหน้าที่ทหารต้วนแสดงต่อเขาไม่ค่อนดีเท่าไหร่ เขาแสยะยิ้มแล้วพูดว่า "มาที่นี่จะมาทำอะไรอีกละ? "

เขายังไม่รู้ว่าเย่จิงเหยียนได้เจอกับต้วนอีเหยาแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พอใจ แต่มันก็เป็นเพียงการทักทายธรรมดาๆเหมือนกับเจอคนรู้จักคนหนึ่ง

เย่จิงเหยียนคิดไม่ถึงว่าท่าทีที่เขามีต่อตัวเองจะเป็นแบบนี้ เขาอึ้งไปอยู่นานกว่าจะดึงสติกลับมา เขาฝืนยิ้มเล็กน้อย " ผมมาหาเพื่อนคนหนึ่งที่นี่ "

" ถ้าอย่างนั้นนายมาผิดแล้วแหละ " ทหารต้วนนำเอกสารชุดใหญ่มาวางไว้ตรงหน้าเขา แล้วเริ่มอ่านอย่างละเอียดและตั้งใจ

เย่จิงเหยียนถอนหายใจ และรีบหันหลังกลับ แต่เดินไปแค่ครึ่งก้าว ก็โดนทหารต้วนเรียกตัวไว้สะก่อน

เหมือนกับว่าเขาจะคิดอะไรบางอย่างได้เลยถามว่า " นายต้องการจะหาใคร? "

" คือว่า......" เย่จิงเหยียนตะกุกตะกัก

เงียบไปอยู่นาน แต่ก็กลับคิดชื่อเพื่อนที่อยู่ในเขตทหารนี้ไม่ออกแม้แต่คนเดียว

" ใคร? " ทหารต้วนคือใคร เขามองแค่แวบเดียวก็มองเย่จิงเหยียนออกแล้ว

" คนที่นายมาหาคืออีเหยาหรอ? นายทั้งสองเคยเจอหน้ากันแล้วหรอ? "

" คือว่า......คุณลุงต้วน......" เย่จิงเหยียนไม่รู้ว่าควรตอบว่าอะไรดี เขายิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ทหารต้วนแน่ใจ

" เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? "

แววตาของทหารต้วนดุคม และเขาลุกขึ้นยืน " ตอบฉันมา! "

เย่จิงเหยียนรู้ตัวดีว่าปิดบังเขาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เขาคิดในใจอยู่ครึ่งค่อนวัน ถึงยอมพูด " ไม่กี่วันก่อน เราเจอกันโดยบังเอิญ "

" บังเอิญเจอ? "แววตาของทหารต้วนชัดเจนมากว่าไม่เชื่อ " จะพอดิบพอดีขนาดนั้นได้ยังไงกัน? "

" เพราะว่าโชคชะตาพรหมลิขิต "

" ท่านบอกกับผมว่าอีเหยาตายไปแล้ว แต่ฟ้ากลับเจตนาให้เราทั้งสองมาพบกัน ผมเข้าใจว่ามันเป็นโชคชะตาพรหมลิขิต "

" เหอะ......" ทหารต้วนหัวเราะแห้ง " ถึงแม้จะพบกันแล้ว นายมีสิทธิ์อะไรมารบกวนลูกสาวฉัน? ที่นายมีชู้? "

" นั่นมันเป็นความเข้าใจผิด คุณลุงต้วน " เย่จิงเหยียนทำอะไรไม่ถูก เขาคิดมาแล้วว่าจะอธิบายยังไง แต่ว่าก็ไม่มีโอกาสสักที

ทหารต้วนกลับไม่ให้เวลาเขาอธิบาย " ฉันไม่สนว่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่ แต่ว่าฉันขอเตือนนายให้อยู่ห่างๆอีเหยาไว้ "

ท่าทางของเขาจริงจัง แต่เย่จิงเหยียนก็ไม่ยอมถอยเลยแม้แต่น้อย " ผมจะอยู่ข้างกายอีเหยา คำพูดของท่านจิงเหยียนคงจะทำตามไม่ได้ "

" นาย......"

ทหารต้วนโกรธมาก และเรียกคนสองสามเข้าให้มา

ชายกล้ามโตทั้งสามจ้องไปที่เย่จิงเหยียน " หัวหน้าต้วน ท่านเรียกหาพวกเรามีเรื่องอะไรครับ? "

" ลากตัวเขาออกไป ต่อจากนี้อย่าให้เขาเข้ามาได้อีกเด็ดขาด "

พอได้รับคำสั่ง ชายกล้ามโตทั้งสามก็จ้องเย่จิงเหยียน คนหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า " คุณผู้ชายท่านนี้เชิญท่านออกไปด้วยครับ! "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ