ดวงตาของต้วนจื้ออิ๋งเต็มไปด้วยน้ำตา เขาไม่รู้เลยว่าเธอเองก็ชอบเขามาก และแม้จะมีอีกสักกี่คนที่มาชอบเธอ เธอก็ไม่ยอม....
...............................
ณ ห้องโถงค่ายทหาร ต้วนอีเหยาที่ยืนอยู่ตรงข้ามทหารต้วน ค่อยๆเดินเข้าไปหาเขาอย่างเงียบๆ
"ทำไมไปกะทันหันแบบนี้?" ทหารต้วนถาม
เพิ่งมาถึงแค่สองวันก็ต้องไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เขาคิดไม่ออกเลยว่ามีเหตุผลอะไรเร่งเด่วนขนาดนั้น
"พ่อไม่ต้องถามอะไรแล้วค่ะ อย่างไรก็ต้องไป" ต้วนอีเหยากล่าวเสียงแข็ง ครั้งนี้เธอไม่ประนีประนอมอีกต่อไปแล้ว
เธออยากเก็บเด็กในท้องไว้ แต่ก็ไม่อยากให้คนที่เธอรักเป็นกังวล
เย่จิงเหยียนเองก็ควรได้อยู่กับคนที่เหมาะสมกับเขามากกว่านี้ ได้มีลูกที่แข็งแรงสมบูรณ์
แต่คงไม่ใช่เด็กที่อยู่ในท้องเธอตอนนี้ เพราะแม้แต่เธอเองก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าตอนนี้เด็กจะแข็งแรงดีไหม
"เป็นเพราะเย่จิงเหยียนใช่ไหม?" ทหารต้วนมองหน้าเธอก็รู้ว่าลูกกำลังคิดอะไรอยู่
เพราะเขาคิดดูแล้ว ก็คงมีแค่เหตุผลนี้เหตุผลเดียว ตั้งแต่ที่ต้วนอีเหยาได้เจอเด็กหนุ่มนั่น เธอก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน
"ไม่ใช่เพราะเขา..." ต้วนอีเหยาปฏิเสธทันควัน แต่ยิ่งเธอโกหก ก็ยิ่งทำให้พ่อเขาสงสัยกว่าเดิมเข้าไปอีก
"ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"
ต้วนอีเหยาอ้างเหตุผลงราเง่า "ลูกไม่อยากอยู่ที่นี่ บรรยากาศมันดูเคร่งเครียดและอึดอัดเกินไป จริงๆคิดอยากจะไปตั้งนานแล้ว"
"แกพูดอะไร?" ทหารต้วนแปลกใจกับสิ่งที่เธออ้าง เธอไม่เคยพูดแบบนี้ออกมา
"พูดกี่ครั้งมันก็เหมือนเดิม" ต้วนอีหยามองเห็นสายตาเศร้าโศกของผู้เป็นพ่อ
ในใจเธอก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน แต่เพราะยังไงเธอก็ต้องไป จึงจำเป็นต้องพูดแบบนี้
"โอเคๆๆ" ทหารต้วนพูดพร้อมกับขำเยาะ "นี่เป็นความคิดของแก?"
"ในเมื่อแกอยากออกไป ฉันก็จะไม่ขัด"
พ฿ดจบก็หมุนตัวเดินจากไป เหลือเพียงเธอที่ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขขยับ เธอมองตามแผ่นหลังของพ่อเธอ รู้ดีว่าที่เขาทำแบบนี้คือยอมปล่อยให้เธอไปแล้ว และหมายความว่าจะไม่เจอกันอีก
ต้วนอีเหยาได้แต่ข่มความเจ็บปวด และเดินออกไป
เธอจะหยุดไม่ได้ ถึงแม้ตอนนี้พ่อจะกำลังเข้าใจผิดและเสียใจ แต่ยังดีกว่าให้เขารู้ความจริงและทุกข์ใจมากกว่านี้
เธอเดินมาถึงลานฝึก ขณะที่ทุกคนกำลังพักผ่อน ต้วนอีเหยารีบเช็ดน้ำตาและตะโกนออกมาว่า "สวัสดีทุกคน"
ซ่วนวู่ที่กำลังดื่มน้ำอยู่ แทบสำลักเมื่อเห็นหน้าเธอ "ลูก...ลูกพี่ ผมเห็นผีหรือเปล่านี่?"
"ผีบ้านแกซิ" ต้วนอีเหยาเตะไปที่ซ่วนวู่เบาๆ "คนอย่างแกนี่มันกวนจริงๆ พูดดีๆด้วยคงไม่ได้"
"ฮุ้ว..แบบนี้ซิถึงจะใช่ลูกพี่ที่ผมรู้จัก" ซ่วนวู่ยิ้มอย่างกวนๆ
ต้วนอีเหยาส่ายหน้า จากนั้นเห็นทุกคนเริ่มล้อมวงเข้ามา จึงเริ่มพูดว่า "ฉันมาที่นี่มีเรื่องบางอย่าง..."
เธอหยุด มองดูลูกน้องที่รอฟังเธอบอกอย่างตั้งใจ
"ฉันจะไปจากที่นี่แล้ว และไม่ได้เป็นหัวหน้าพวกนายอีกแล้ว ถึงแม้ไม่กี่วันมานี่ พวกนายจะปฏิบัติต่อฉันไม่ได้ดีมาก แต่ก็ถือว่าทุกคนสามัคคีกันดี"
"ฉัน..หวังว่า พวกนายทุกคนจะตั้งใจฝึก เพื่อให้ผู้คนเห็นว่าพวกเราเจ๋งแค่ไหน"
เธอไม่มีอะไรจะพูดต่อ ทุกสายตามองไปที่เธออย่างไม่เข้าใจ
เธอคิดเสมอว่าทำไมฟ้าดินไม่ยุติธรรมกับเธอเอาเสียเลย ทำไมต้องให้เรื่องพวกนี้มาาเกิดขึ้นกับเธอด้วย
ซ่วนวู่ตกใจมาก เธอมาที่นี่ไม่บอกไม่กล่าว และตอนจะไปก็กะทันหันเหลือเกิน นี่มันอะไรกัน?
"ลูกพี่ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?" ซ่วนวู่ถาม
"ก็แค่อยากพักผ่อนบ้าง จะทำไมหนักหนาหืม?"
"ผมไม่เชื่อ"
ซ่วนวู่จ้องที่ตาเธอ จนเธอต้องหลบตา
"ซ่วนวู่ ฉันไม่จำเป็นต้องโกหกใคร"
"งั้นแล้วทำไมลูกพี่อยู่ๆก็อยากพัก หรือลูกพี่คิดจะไปเข้าร่วมกับทีมอื่นเพื่อเกียรติยศที่เพิ่มขึ้น?"
"นายคิดว่าฉันยอมทิ้งทุกคนเพื่อเกียรติยศอะไรนั่นหรือ?" ต้วนอีเหยายิ้มเยาะ "แบบนั้นฉันยังใช่คนอยู่ไหม? ซ่วนวู่..."
"ไม่ใช่แบบนั้นครับ ลูกพี่ฟังผมก่อน.."
เมื่อเขารู้ว่าต้วนอีเหยาเข้าใจผิด จึงรีบจะอธิบาย แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง
"เอาล่ะ อย่างไรตอนนี้ฉันก็ต้องไปแล้ว นายจะคิดยังไงก็เรื่องของนาย"
ต้วนอีเหยาแกล้งทำเป็นโกรธ และเดินออกจากลานฝึกไป ทิ้งให้ซ่วนวู่เสียใจอยู่ข้างหลังเพียงคนเดียว
อาเทียนที่อยู่ตรงนั้น สายตาดูยุ่งเหยิง และเขาก็ตัดสินใจเดินตามหลังต้วนอีเหยาไปด้วย
"มีอะไรจะพูดก็พูดมา อย่าเอาแต่เดินตามฉัน" ต้วนอีเหยาหยุดและหันหน้ามาหาเขา
อาเทียนมองที่ต้วนอีเหยา จากนั้นถามว่า "หัวหน้าต้วนครับ ได้ยินว่าจะไปจากที่นี่หรือครับ?"
"อืม ใช่"
"ทำไมครับ? หรือว่าเป็นเพราะ..."
ต้วนอีเหยามองไปที่เขาอย่างสงสัย รอเขาพูดออกมา
"เพราะหู?" อาเทียนทำน้ำเสียงจริงจัง "เป็นเพราะผมเป็นต้นเหตุทำให้หูของหัวหน้าแย่ลงใช่ไหมครับ เลยอยากออกไปจากที่นี่?"
ต้วนอีเหยาหัวเราะลั่น ยอมแพ้ในความมโนของเขาจริงๆ "นี่อาเทียน นายคิดมากเกินไปแล้ว ที่ฉันออกไปจากที่นี่ ไม่เกี่ยวอะไรกับนายเลย"
"จริงหรือครับ?" เขาถามอย่างไม่เชื่อ
"จริงซะยิ่งกว่าจริงอีก"
ต้วนอีเหยาเตรียมจะหันหลังเดินออกไป แต่อาเทียนก็วิ่งมาขวางเธอไว้ "ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่ไม่ไปได้ไหมครับ?"
"หือ?"
เป็นอะไรไป ตอนแรกนึกว่าจะแค่มาถาม ตอนนี้กลับกลายเป็นขอร้องไม่ให้ไปแทน
อาเทียนเงียบอยู่พักใหญ่ และพูดขึ้นว่า "ผม...ผมชอบหัวหน้าครับ"
อะไรนะ?
ต้วนอีเหยางงหนักมาก มาไม่นานพระเจ้าก็จัดเตรียมโชคชะตานี้ไว้ให้เธอแล้วหรือ
"ได้ยินไหมครับ?" อาเทียนเห็นว่าเธอไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง จึงถามซ้ำ
ต้วนอีเหยาตั้งสติได้จึงพูดขึ้นว่า
"เอ่อ? อันนั้น..."
เธอพยายามหาคำพูดเพื่อปฏิเสธและถนอมน้ำใจเขามากที่สุด
"ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องรีบให้คำตอบ หัวหน้าอยู่ที่นี่ค่อยๆคิด ค่อยๆสังเกตผมก็ได้ครับ"
อาเทียนเขินจนไม่กล้าจะมองหน้าเธอ
"เอ่อคือ..ขอโทษนะ" ต้วนอีเหยาพูดออกมา อย่างไรซะเธอก็ต้องไปจากที่นี่ ปฏิเสธเขาซะตั้งแต่ตอนนี้ ไม่ต้องให้ความหวัง ต่อไปจะได้ไม่ยุ่งยาก
และถึงแม้เธอจะไม่ไปจากที่นี่ เธอก็ยังคงปฏิเสธเขาอยู่ดี เพราะเธอไม่ได้รักเขา
อาเทียนกำมือแน่น ถามว่า "ทำไม.....ไม่ลองคิดสักนิดเลยล่ะครับ?"
"เพราะฉันไม่ได้รักนาย..."
"แต่พวกเราเพิ่งรู้จักกันแค่สองวันเอง"
ต้วนอีเหยายิ้มเบาๆ "นายเองก็ใช้เวลาแค่สองวันแล้วรู้สึกชอบฉันไม่ใช่หรือ? นี่ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าความรักไม่ได้มีเวลาเป็นตัวกำหนด"
เพราะถ้ารู้สึกใช่ เจอแค่นาทีเดียวก็รัก แต่ถ้าไม่ใช่ ให้ตายอย่างไรก็ไม่รัก
อาเทียนพูดอะไรไม่ออก เหมือนจะไม่อยากเห็นด้วยแต่สิ่งที่เธอพูด แต่คิดๆแล้วมันก็จริง เขามองที่เธอและถามต่อว่า
"หัวหน้ามีคนที่ชอบแล้วใช่ไหมครับ?"
"อืม" ต้วนอีเหยาตอบทันที
เธอมีคนที่ชอบแล้ว และไม่มีใครมาแทนที่ได้ด้วย
อาเทียนยอมแพ้ เธอพูดขนาดนั้นแล้ว จะให้เขาจะทำอะไรได้อีก
ตอนแรกต้วนอีเหยาไม่อยากทำร้ายจิตใจเขา แต่ก็ไม่มีทางเลือก เพราะความรัก ถ้าไม่สุขก็ต้องทุกข์ มันเป็นเรื่องธรรมดา
..............................
บนถนนในค่ายทหาร เย่จิงเหยียนขับรถอยู่ด้วยความเร็ว เขาเพ่งแต่ทางที่อยู่ข้างหน้า จึงไม่ทันสังเกตรถแท็กซี่ที่ขับสวนกับเขาไป
ต้วนอีเหยาที่อยู่ในรถ มองเห็นหน้าตารีบร้อนของเย่จิงเหยียน จึงบอกกับคนขับว่า "โชเฟอร์ ขับเร็วหน่อย!"
"สาวน้อย นี่มันเขตทหารนะ เขาจำกัดความเร็ว หรือว่า...." โชเฟอร์มองผ่านกระจกหลัง "หนีทหารหรือ"
"ไม่ใช่ซะหน่อย..."
ต้วนอีเหยาไม่รู้จะอธิบายอย่างไร จึงตอบว่า "เอาหน่า ขับเร็วกว่านี้หน่อยก็ได้"
ถ้าเย่จิงเหยียนเข้าไปแล้วไม่เห็นเธอ เขาต้องตามออกมาทันแน่ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...