วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 399

และทางด้านหนานกงเจา ทว่าเขานอนจนถึงมืดค่ำ ตลอดวันตลอดคืนอยู่หลายวัน ในที่สุดมู่ยู่วฉีก็ตีเขาให้ตื่นขึ้นมา

"นายทำอะไร?ต่อยฉันทำไม?"หนานกงเจาลูบคลำเลือดบริเวณมุมปาก สีหน้าเต็มไปด้วยความมึนงงไม่พอใจเล็กน้อย

มู่ยู่วฉีดูต่อไปไม่ไหว หัวเราะเยือกเย็น "ฉันว่านะหนานกงเจา นายสภาพนี้เธอยังไงก็มองไม่เห็น ทั้งวันเมาเลอะเทอะใช้ชีวิตยุ่งเหยิง ก็ไม่ใช่แค่ว่าความรักเหรอ ใครจะไม่เคยมีประสบการณ์สักครั้ง ถึงตอนสุดท้ายก็ไม่ใช่ว่าล้มเหลวแล้วลุกขึ้นมาใหม่?ตอนนี้นายกำลังโวยวายแบบไหนอยู่?"

หนานกงเจาวิงเวียนศีรษะ เขานวดแล้วนวดอีกที่ศีรษะ ส่ายศีรษะอย่างตลกขบขันเล็กน้อย เขาที่เป็นอย่างนี้ ตัวเองยังรู้สึกว่าแปลก แต่ว่าแสดงความรู้สึกจริงๆ ในใจรู้สึกว่าเจ็บทุกข์ทรมาน นอกจากจะใช้เหล้าให้ตัวเองชินชา เขาก็หาวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว

เขาเงยศีรษะ เขามองตัวเองในกระจกที่มอมแมม หนวดเคราปกปิดมิดชิดริมฝีปาก ใต้ตาดำคล้ำเหมือนหมีแพนด้า

ในใจรู้สึกเกลียดวิธีการคิดของตัวเองขึ้นมากะทันหัน มิน่าเล่าเย่ชูวเสวียถึงไม่ชอบ คนมอมแมมอย่างนี้ เปลี่ยนมาเป็นเขา ก็ยังยากที่จะชื่นชอบจากใจจริง

"เธอ......สบายดีไหม?"หนานกงเจามองมู่ยู่วฉี ลังเลใจสักพักหนึ่งถึงได้ถามเขา

มู่ยู่วฉียิ้มเยาะเย้ย"แน่นอนสิ กินได้ดื่มได้อย่างสบายเลย"

ที่จริงเขาไม่รู้สถานการณ์ปัจจุบันของเย่ชูวเสวีย ตั้งแต่ครั้งก่อนที่แยกจากกัน ก็ไม่ได้เจอเธอสักเท่าไหร่ แต่เพื่อที่จะให้หนานกงเจาเดินออกจากปมนั้น ก็เลยต้องแต่งเรื่องโกหกขึ้นมา

"ใช่เหรอ?"หนานกงเจาก้มศีรษะลงอย่างเงียบๆ เดิมทีก็ควรจะเป็นอย่างนี้ เขายังคาดหวังอะไร?

หวังให้เธอละอายใจและทุกข์ใจ?

ไม่ หนานกงเจาส่ายศีรษะ เห็นอกเห็นใจอย่างนี้เขาไม่ต้องการ!

เขาตบที่รอยยับบนเสื้อผ้า โซซัดโซเซจับผนังแล้วลุกขึ้น ศีรษะก็ยังคงวิงเวียน รู้สึกว่ายืนไม่หยุดนิ่งเอนเอียง แต่ว่านิ้วมือของเขาพยายามลากออกแรงประคองมือ ไม่นานก็สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้

"ขอบคุณนะ มู่ยู่วฉี! "เขายื่นมือออกไปตบที่ไหล่ของมู่ยู่วฉีหนักๆสองที

ถึงแม้ว่ามิตรภาพของเขาสองคนจะไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้น แต่เขาสามารถที่จะพยายามทำอย่างสุดความสามารถเพื่อเขา เขาก็ขอบคุณมากแล้ว

ถึงแม้ว่าวันนี้จะถูกต่อยไปหลายหมัด แต่ทว่าทำให้เขามีสติขึ้นมามาก ด้วยเหตุนี้ เขาจึงควรที่จะขอบคุณ พูดอย่างจริงจังขึ้นมา เดิมทีคำพูดขอบคุณที่ออกมาจากปากก็ไม่สามารถที่จะแสดงออกมาให้เห็นถึงคำขอบคุณของตัวเอง

มู่ยู่วฉีก็แค่ผ่านทางมา เข้ามาดูเขา ใครจะรู้ว่าขนาดประตูเขาก็ไม่ปิด ตัวเองเดินเข้ามาด้านในอย่างสบายไม่มีการเหนี่ยวรั้งเลย

เขามองหนานกงเจาอย่างมีความหมายลึกซึ้งแล้วพูดว่า"นายจัดการตัวเองให้เรียบร้อยเถอะ!"

พูดจบ ก็เดินจากไปโดยที่ไม่หันกลับมามอง ขับรถที่จอดอยู่หน้าประตูออกไป เหลือแค่หนานกงเจาที่สะลึมสะลืออยู่

แต่เขามีความคิด รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำอะไร ขวดเหล้าที่ระเกะระกะอยู่เต็มพื้นทำให้เขาหงุดหงิด ทุกครั้งที่เดินหนึ่งก้าว ก็มีอันหนึ่งหมุน ทำให้ตัวเขาโยกยิ่งเพิ่มความยากลำบาก

เขาเดินมาถึงริมหน้าต่างแล้วดันเปิดสถานที่ที่ไม่เล็กไม่ใหญ่นั้นออก นั่งลงรอให้แสงพระอาทิตย์ค่อยๆส่องผ่านบริเวณหน้าต่างเข้ามา เขาหรี่ตาลง มีความปรับตัวไม่ได้เล็กน้อยก็แสงที่ส่องมา

เพียงแค่ได้สงบลง ในหัวของเขาก็เต็มไปด้วยภาพของเย่ชูวเสวีย ต้องการที่จะบีบบังคับนำเธอออกไป แต่ว่าตอนที่ไม่ได้คิดถึงเธออย่างแท้จริง เขาก็มีความรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อยอีก

ความรู้สึกอย่างนี้เกิดขึ้นในใจเขาซ้ำๆ ทำให้เขาไม่มีวิธีที่จะคิดเรื่องอื่น

"อา!"หนานกงเจาหงุดหงิดกำหมัดต่อยที่บริเวณหน้าต่าง คาดไม่ถึงว่าจะทุบจนมีรอยแตก

หนานกงเจาปล่อยมือลง แต่ทว่าไม่มีความรู้สึกอะไร เพียงแค่ในใจเย็นชาจนน่ากลัว เขาเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้แล้ว หลังจากนี้ดูท่าอะไรก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้แล้ว!

พอคิดอย่างนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา มองแบนี้เขาก็ไม่ได้เจ็บช้ำ อย่างน้อยก็ไม่มีจุดอ่อน ไม่เหมือนกับเย่จิงเหยียนที่เรื่องอะไรก็ต้องไตร่ตรองทุกด้าน

แต่ว่า.......

แต่ว่าเขาอยากจะมีจุดอ่อนอันหนึ่งจริงๆ ต่อให้ถึงแก่ชีวิต เขาก็รู้สึกว่ายังมีความสุข และไม่ใช่อยู่ด้านหลังมองดูอยู่ไกลๆ

เขาไม่รู้ว่าเย่ชูวเสวียชอบผู้ชายแบบไหน แต่เมื่อเขาคิดว่าเธอสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น หัวใจก็เจ็บปวดจนยากที่จะอดทน

ทุกภาพความรักใคร่สนิทสนมนั้นไม่มีเขา แต่ก็ไม่มีวิธีแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ได้ครอบครองเธอ.........

เธอไม่มีทางเป็นของตัวเอง......

.................

คฤหาสน์ตระกูลเย่

เย่ชูวเสวียนั่งมึนงงเหม่อลอยอยู่ที่มุขหน้าต่าง เธอขี้เกียจจะยกมือขึ้น แสงอาทิตย์สาดส่องมาที่ปลายนิ้วของเธอ เธอก็รู้สึกว่าอบอุ่นเป็นพิเศษ

เริ่มตั้งแต่เมื่อกี้ที่มีความแปลกใจจนถึงงงงวย เย่ชูวเสวียไม่ได้มีอารมณ์มากมาย เธอจะไม่ให้เหตุผลกับข้ออ้างอย่างนั้นกับหนานกงเจาอีกแล้ว ที่เหลือไว้อยู่มีเพียงแค่ความผิดหวัง

เขาน่าจะกำลังโทษเธอสินะ ถึงอย่างไรตอนนั้นเธอก็ปฏิเสธเขาอย่างถึงที่สุดมาก ต้องโทษตัวเอง เข้าใจความคิดในใจของตัวเองช้า รู้เร็วกว่านี้......

รู้เร็วกว่านี้เธอก็จะไม่ทำให้ไม่เหลือทางหนีทีไล่เช่นนี้ แต่ว่าสวรรค์รู้ว่าเธอจะพบว่าความรู้สึกของตัวเองเมื่อไหร่ ถ้าหากว่าให้ความหวังเขา เขาก็คงไม่แสดงออกด้วยสายตาอย่างนั้น ตัวเองอาจจะเข้าใจช้าก็กว่านี้ไม่แน่นอนอีก

ตอนนี้เขาไม่รับโทรศัพท์เธอ ก็มีสาเหตุ เธอไม่ควรที่จะโทษเขา!

แต่ว่า.........แต่ทำไมในใจเธอมีความรู้สึกเจ็บแปลบ?

หรือว่าเย็นวันนั้นหลังจากที่เธอออกมา ยังมีอะไรที่ตามหลังอีก เขาอยู่ที่นั่นเห็นผู้หญิงคนนั้น หลังจากนั้นก็จัดแต่งสถานที่กับเธอ ทั้งสองคนคบหากันแล้ว?

เย่ชูวเสวียยิ่งคิดยิ่งมีความเป็นไปได้ ใจกระตุกสักพักหนึ่ง กุมโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

อักษรที่อยู่บนหน้าจอทำให้เธอสับสนเหลือเกิน เธอหยุดมองด้านบนอยู่สักพัก สุดท้ายก็ยังคงปิดหน้าจอลงเหมือนเดิม

ถ้าหากว่าเธอไม่ได้ เธอยินยอมที่จะไม่รู้การใช้ชีวิตของเขา ให้ตัวเองได้เก็บความเพ้อฝันนั้นก็ยังดี

เย่ชูวเสวียคิดจนทุกข์ใจ ตัวเองนั่งอยู่ริมหน้าต่างระบายกลิ่นอายของความระทมทุกข์

มู่เวยเวยผลักประตูเข้ามา เห็นเธอที่ผมยุ่งเหยิงนั่งอยู่มุขหน้าต่าง คนทั้งคนเหมือนไร้จิตวิญญาณ

"เป็นอะไร?"มู่เวยเวยเดินเข้ามาใกล้ ลูบที่ผมของเธอ

เย่ชูวเสวียไม่ได้หลบหลีก รับความปลอบโยนจากเธออย่างว่าง่าย นั่งอยู่ที่ริมหน้าต่างไม่ขยับ เธอไม่ได้ตอบกลับคำถามที่มู่เวยเวยถาม เพราะว่าขนาดตัวเองยังไม่รู้ว่าทำไมถึงทุกข์ใจ เรื่องราวเหล่านั้นคิดไปมั่วๆก้ไม่ได้มีหลักฐาน

มู่เวยเวยมองแล้วเจ็บปวดใจ"อีกสองวัน พวกเราจะจัดงานเลี้ยงส่วนตัวแทนลูก อยากจะตั้งสติให้ดีแล้วไปดูไหม? "

"หนูไม่ไปนะ"ตอนนี้เย่ชูวเสวียได้ยินกิจกรรมอย่างนี้ ไม่ได้คิดอะไรเลยก็ปฏิเสธไป ใจของเธอยังคิดถึงคนคนหนึ่ง ไม่สามารถที่จะมีใจไปร่วมงาน

"ไปเถอะ อยู่ที่บ้านลูกก็จะทุกข์ใจ ไปแล้วไม่แน่อาจจะอารมณ์ดีนะ"มู่เวยเวยใช้น้ำอดน้ำทนที่จะเกลี้ยกล่อมพูดว่า"อีกอย่าง ส่วนใหญ่ทั้งหมดก็เป็นวัยรุ่นนะที่มา ประจวบเหมาะลูกก็เลือกหนึ่งคนในนั้น"

"มาหมดเลย?"พูดมาตั้งมากมาย เย่ชูวเสวียสนใจแค่คำนั้น

เขา.....จะมาไหม?

"โอเค หนูไป"มาหรือไม่มา เธอออกไปดูก็รู้แล้ว

ได้ยินเธอพูดอย่างนี้ สุดท้ายมู่เวยเวยก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก นั่งอยู่หน้ามุขระเบียงเป็นเพื่อนเธอ ทั้งสองก็พูดคุยกันสักพักหนึ่ง เห็นเธอไม่ได้อารมณ์เศร้าอีกต่อไป ก็วางใจออกไปจากห้อง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ