มู่ยู่วฉีโบกมือพัลวัน รีบอธิบายทันที"ไม่ใช่ครับๆ คุณป้า เรื่องนี้ไม่ต้องใส่ใจเลยครับ โดยรวมแล้วไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร!"
พูดจบ มู่ยู่วฉีกลัวมัวเวยถามต่อ รีบกดวางสายอย่างไม่ลังเลใจ มู่เวยเวยกุมโทรศัพท์อยู่ยิ่งสับสนมากขึ้น
ไม่ใช่เรื่องไม่ดี?ทุกข์ใจขนาดนั้น จะไม่ใช่เรื่องไม่ดีได้อย่างไร?
เงยศีรษะขึ้นมองด้วยความสงสัยไปที่ห้องประตูห้องของเย่ชูวเสวีย ส่ายศีรษะอย่างทำอะไรไม่ได้ เธอแก่แล้วใช่ไหม เรื่องของวัยรุ่นเธอก็ไตร่ตรองได้ไม่ชัดแล้ว
อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวอวี้หลินก็มองหนานกงเจาที่ดื่มทีละแก้วๆอยู่ที่เคาท์เตอร์บาร์ด้วยความกังวลใจ ชำเลืองมองเห็นมู่ยู่วฉีเดินเข้ามา รีบจู่โจมเข้าไปถามว่า"ใครเป็นคนโทรมา"
"คุณป้า ถามนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องเมื่อวานตอนกลางคืน"
เสี่ยวอวี้หลินไม่ได้กังวลใจเรื่องที่มู่เวยเวยโทรหามู่ยู่วฉีเรื่องอะไร ชี้ไปที่หนานกงเจาที่ดื่มล้มอยู่ที่เคาท์เตอร์บาร์
"เขาควรที่จะทำอย่างไร?"
ตั้งแต่ที่เย่ชูวเสวียปฏิเสธเขา ไม่นานก็มาซื้อเหล้าดื่มจนเมาที่บาร์เหล้า ในเวลานี้ ตื่นมาหลายครั้ง แต่ตื่นมาก็หาแต่เหล้า ห้ามอย่างไรก็ห้ามไม่ได้
มู่ยู่วฉียักไหล่อย่างไม่ยี่หระ "ปล่อยเขาดื่มเถอะ รอจนเขาไม่รู้เรื่องอะไร ค่อยพาเขากลับก็พอแล้ว"
"เขาสภาพอย่างนี้ ในกรณีที่เขาตื่นมาฆ่าตัวตายจะทำอย่างไรกัน"
เสี่ยวอวี้หลินไม่วางใจ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจการถูกทำลายความรู้สึกจะน่ากลัวแค่ไหน แต่เห็นหนานกงเจาตายทั้งเป็นอย่างนี้ ในใจก็คิดอยู่เงียบๆ
"ชูวเสวียก็เป็นคนใจหิน ทางหนีทีไล่ก็ให้เขาเล็กน้อย"พูดถึงตรงนี้ เสี่ยวอวี้หลินก็คิดแล้วคิดอีก "อย่างไรก็ถูกต้องแล้ว กับคนที่ไม่ชอบก็ต้องรีบปฏิเสธเขา ไม่อย่างนั้นจะยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น"
"อันนั้นก็ไม่แน่นอนนะ"
มู่ยู่วฉีเดินไปเอาแก้วเหล้าในมือของหนานกงเจาออก ให้คนที่ยืนอยู่ด้านข้างประคองเขาเข้าไปในห้องวีไอพี
"นายหมายความว่าอย่างไร?"เสี่ยวอวี้หลินไม่เข้าใจ รีบเดินตามมู่ยู่วฉีไปถามให้ชัดเจน
"นายทายสิว่าเมื่อกี้ใครโทรหาฉัน?"
"คุณป้า เมื่อกี้นายพูดแล้ว!"เสี่ยวอวี้หลินมองเขาด้วยสายตาดูถูก เหมือนกับมองคนโง่เขลา
มู่ยู่วฉีก็ไม่ได้ถือสา "ไม่แปลกที่คุณป้าจะโทรหาฉัน แต่เมื่อกี้เธอพูดสภาพของเย่ชูวเสวียที่กลับถึงบ้าน"
"สภาพอย่างไร?"เสี่ยวอวี้หลินถีบเขาเล็กน้อย "เกลียดคนประเภทอย่างนายที่สุดเลย พูดก็พูดครึ่งเดียว เย่ชูวเสวียกลับ้านไปแล้วเกิดอะไรขึ้น?"
"เธอเพิ่งจะกลับบ้านไปตอนนี้ อีกทั้งยังมีรอยแผล ที่สำคัญก็คือ.........."
มู่ยู่วฉีลากเสียงยาว จงใจยั่วให้เสี่ยวอวี้หลินเกิดความสนใจ
เสี่ยวอวี้หลินอดไม่ได้ผลักเขาหนึ่งที "อยากพูดก็พูดให้จบ ไม่อย่างนั้นก็ระวังหมัดของฉัน"
"โอเคๆ ฉันพูดก็จบ!"
มู่ยู่วฉีถูกตีจนกลัวแล้ว รีบยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ "ที่สำคัญก็คือเธอกลับไปอย่างคนไร้จิตวิญญาณ!"
"ความหมายของนายคือคิดว่าเธอชอบหนานกงเจาเหรอ?"เสี่ยวอวี้หลินเข้าใจเรื่องราวแล้วนั้นรีบพูดเสริม
เห็นมู่ยู่วฉีผงกศีรษะให้ตัวเองอย่างแน่วแน่ ก็รู้สึกสงสัยอีก"อย่างนั้นฉันก็คิดไม่เข้าใจแล้ว ในเมื่อเธอชอบหนานกงเจา แล้วทำไมต้องปฏิเสธ? "
มู่ยู่วฉีทอดถอนหายใจออกมา "นี่น่าจะไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริงของเธอนะ อาจจะไม่รู้ความรู้สึกที่แท้จริงในใจของตัวเองก็ได้"
ยังมีสาเหตุอีกมากมาย มีความเป็นไปได้ที่ตั้งแต่มู่เวยเวยกับเย่ฉ่าวเฉินห้ามไว้ เย่ชูวเสวียทำเพื่อที่จะไม่ขัดแย้งกับพวกเขา ทำได้เพียงไม่รังเกียจ จนกระทั่งชอบเล็กน้อยแล้วผลักหนานกงเจาออกจากเรื่องนี้
สุดท้ายมู่ยู่วฉีก็มองไปทางที่หนานกงเจาจากไป ทอดถอนหายใจออกมากับอนาคตต่อไปของพวกเขา ถึงแม้ว่พวกเขาจะรู้แล้ว เย่ชูวเสวียมีความรู้สึกให้หนานกงเจา
แต่ถึงอย่างไรฝั่งตรงข้ามพวกเขายังไม่รู้ ทั้งสองคนที่อยู่นอกเหตุการณ์มองทะลุปรุโปร่งมากกว่า เดิมทีก็ไม่เข้าใจชัดเจนเลย สรุปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น และก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนสุดท้ายแล้วจะได้คบหากันไหม
...........
หลุยส์ถึงสถานที่ที่เย่จิงเหยียนให้พวกเขาอยู่ ก็โทรมาหาเขาอีกรอบ ไม่นานหลังจากนั้นก็รออยู่ที่หน้าทางเข้าโรงพยาบาล
พยาบาลที่เดินเข้าๆออกๆก็มองผู้ชายต่างชาติอย่างสังเกต ถึงแม้จะอายุมากแล้ว แต่กับเรื่องอื่นก็ทำให้อยากรู้อยากเห็นโดยธรรมชาติ ทำให้พวกเธออดไม่ได้ที่จะแอบซุบซิบกัน
ในเวลาที่เย่จิงเหยียนเดินออกมาจากด้านใน ก็มองเห็นคนมากมายมองหรือสงวนท่าที หรือมองตรงๆที่ชายชาวต่างชาติ
"คุณเย่ ในที่สุดคุณก็มาแล้ว!"หลุยส์ทอดถอนหายใจอย่างโล่งๆ ยกกระเป๋าของตัวเองเดินไป
เย่จิงเหยียนยิ้มๆเพื่อขอโทษเขา รับกระเป๋าของเขามา เดินเข้าไปในโรงพยาบาล"ขอโทษครับ ทำให้คุณยุ่งยากแล้ว"
เดิมทีหลุยส์เป็นคนใจกว้าง ได้ยินเขาพูดอย่างนี้ รีบโบกมือพัลวัน"ไม่ต้องเครียดๆ อาการของคุณต้วนผมขอดูได้ไหม?"
เย่จิงเหยียนชะงักฝีเท้า ตอบกลับว่า"ได้ครับ มากับผมเถอะ"
เขาเพิ่งจะกล่อมต้วนอีเหยานอน หลังจากที่เธอไม่ได้ยินเสียง ปิดม่านเข้าเธอก็สามารถหลับได้ถึงเย็น
อย่างนี้ก็ดี ก็ไม่รู้จักคิดอะไรมากมาย เพียงแค่ถึงเวลากินข้าวก็ปลุกเธอลุกขึ้นมาก็พอแล้ว เข้าไปก็ไม่ต้องปิดเปิดประตูเบาๆ เพราะว่าเดิมทีเธอไม่ได้ยินเสียง
หลุยส์เดินเข้าไป เห็นต้วนอีเหยาหลับสนิท ใบหน้าซีดขาว มองอยู่สักพัก อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น
"เป็นอย่างไรครับ?"เย่จิงเหยียนมองต้วนอีเหยาด้วยความเป็นห่วง ร่างกายของเธอเขามองอยู่ตลอดเวลา ทุกวันก็ป้อนอาหารเธอ แต่ทว่าก็ยังผอมลงอยู่เหมือนเดิม
หลุยส์ส่ายศีรษะ"ช่วงสองวันนี้ยังไม่สามารถผ่าตัด ช่วงไม่กี่วันนี้ก็บำรุงไปก่อนเถอะ"
หลังจากที่เย่จิงเหยียนได้ยินคำตอบ ก็ไม่ได้พูดอะไร ถึงอย่างไรเดิมทีเขาก็ต้องเป็นคนตัดสินใจ ตอนนี้เพียงแค่ดูให้ละเอียดเท่านั้นเอง
เย่จิงเหยียนส่งหลุยส์ออกจากห้องพักคนไข้ จัดการให้พวกเขาอยู่ที่ห้องทำงานที่ไม่ไกลจากห้องพักคนไข้ ให้พวกเขารับผิดชอบดูตรวจรักษาโดยเฉพาะ
และเรื่องราวทั้งหมด ต้วนอีเหยาไม่ได้รับรู้ด้วยเลยสักนิด ไม่ใช่ว่าเย่จิงเหยียนตั้งใจปิดบัง เพียงแค่หูของเธอไม่รับรู้อะไร เคลื่อนไหวยิ่งใหญ่เข้าไปอีก ก็ไม่สามารถระวังได้
............................
จากที่ปฏิเสธหนานกงเจามาหลายวันแล้ว เย่ชูวเสวียก็ยังไม่มีสติกลับมา ในหัวคิดถึงแค่เขา รอยยิ้มของเขา ความอบอุ่นของเขา ทั้งหมดมาแสดงอยู่ต่อหน้าเธออีกครั้ง ทำให้ไม่มีวิธีสลัดออกไปได้
"ชูวเสวีย ทำไมไม่กินข้าว?"ไม่กี่วันมานี้มู่เวยเวยก็มองดูเธออยู่ตลอด วันนี้ยังดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย เพิ่งจะกลับมาไม่กี่วันนั้น ก็เหมือนกับคนไร้จิตวิญญาณ พูดอะไรเธอก็ไม่สนใจ
เย่ชูวเสวียถูกมู่เวยเวยตัดบท เงยศีรษะขึ้นแล้วยิ้ม"หนูกินอิ่มแล้วค่ะ"
"เร็วขนาดนั้นเลย?"มู่เวยเวยประหลาดใจ รั้งเธอไม่ให้ลุกจากโต๊ะ"ลูกไม่ใช่ว่าสัญญาว่าจะเล่าเรื่องวันนั้นว่าสรุปเกิดอะไรขึ้นเหรอ?"
ไปงานปาร์ตี้ของวัยรุ่นมา ทำให้ลูกสาวของเธอเปลี่ยนเป็นอย่างนี้แล้ว เธออยากจะไปสถานที่เกิดเหตุในเวลานั้นจริงๆ
"แม่ อย่างเพิ่งถามเลย!"เย่ชูวเสวียพยายามยิ้มออกมาจากใจ อยากให้มู่เวยเวยไม่ต้องกังวลใจ
แต่ว่า เธอไม่รู้ อย่างนี้เกรงว่าจะทำให้มู่เวยเวยสงสัยเพิ่มมากขึ้น
เธอมองสบตากันกับเย่ฉ่าวเฉิน ทำให้ฝั่งตรงข้ามเห็นความสงสัยนั้น
มู่เวยเวยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "ลูกจะพูดหรือไม่พูด?"
"หนู......."เย่ชูวเสวียไม่รู้ว่าควรจะเริ่มพูดอย่างไร
ก้มศีรษะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ด้านข้างเก้าอี้
"มีอะไรที่ไม่สามารถพูดได้เหรอ?"มู่เวยเวยพูดเชิงบังคับตวาดขึ้นมา เข้าใกล้เย่ชูวเสวีย
เย่ชูวเสวียก้าวถอยหลังไม่กี่ก้าว กัดฟัดแล้วเงยศีรษะขึ้น "แม่อยากจะให้หนูพูดออกมาจริงๆใช่ไหม?"
มู่เวยเวยตอบโดยไม่คิด"แน่นอน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...