"อีกไม่กี่วันนี้ จะมีงานเลี้ยง นายจะไปหรือไม่ไป?"
หนานกงเจาขมวดคิ้ว เขายังไม่สนิทกับมู่วยู่วฉีถึงขั้นนั้น ปกติเรื่องอย่างนี้ตัวเขาจะเป็นคนรู้เอง วันนี้มีเรื่องวุ่นวายจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้เรื่อง
บังเอิญกับที่เขาหักหลบรถคันหนึ่งที่มาปะทะหน้า ถามว่า"มีอะไรเป็นพิเศษไหม?"
"ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษนะ ครั้งนี้เป็นแค่งานเลี้ยงมองหาคู่ของเย่ชูวเสวีย นายไม่มาก็แล้วแต่นะ"
หนานกงเจาได้ยิน"เย่ชูวเสวีย"สามคำนี้ ในใจปวดเหมือนเลือดไหล เขาพยายามทำเสียงให้นิ่ง"อย่างนั้นฉันก็ไม่ไปแล้วแหละ และก็ไม่มีศักยภาพที่จะไปแข่งขันด้วย"
"อย่างนั้นฉันก็ไม่วุ่นวายแล้ว คำพูดฉันก็เอามาบอกแล้ว มาหรือไม่มาก็เป็นเรื่องของนาย"มู่ยู่วฉีพูดประโยคนี้จบก็รีบตัดสายทันที
หนานกงเจาจอดรถไว้ด้านข้าง เจ็บปวดหัวใจจนไม่สามารถหายใจได้ เมื่อกี้เขาพูดกับหนานกงเฮ่าด้วยความโกรธ ความจริงขนาดเขายังไม่กล้ามั่นใจ ที่เย่ชูวเสวียปฏิเสธเขาสรุปแล้วเป็นเพราะเรื่องของพ่อแม่ หรือว่าเดิมทีเธอไม่ได้ชอบเขา!
เขากลัวว่าแก้ไขเรื่องของคนรุ่นก่อนแล้ว ถึงตอนสุดท้ายเธอก็ยังปฏิเสธตัวเอง ถึงตอนนั้นก็ไม่สามารถที่จะโกหกตัวเองหรือหลอกคนอื่นได้ เพราะว่าเย่ชูวเสวียชอบตัวเอง เพียงแต่ว่าถูกครอบครัวกีดกัน.......
................
วันที่สอง หนานกงเจาถูกเสียงออดดังขึ้นทำให้ตื่น เขาหงุดหงิดลูบที่ผมหนึ่งครั้ง ลุกลงจากเตียงไปเปิดประตูให้กับคนที่มากดออด
"ใครเหรอ?"
พอประตูเปิดออก ก็มองเห็นหลินลั่วเสวี่ยยิ้มหัวเราะคิกคักให้กับตัวเอง หนานกงเจานวดคลึงบริเวณดวงตาที่กำลังตื่นนอน
"สาวน้อย เธอไม่ได้มาผิดที่ใช่ไหม?"
หลินลั่วเสวี่ยชูกระติกเก็บความร้อนที่มือขึ้น โยกแกว่งอยู่ต่อหน้าเขาสองครั้ง"ไม่นะ ฉันมาส่งอาหารเช้าให้พี่เจา!"
"ทำไม ไม่ให้ฉันเข้าไปเหรอ?"
หนานกงเจางงงวยเปิดทางครึ่งก้าวให้เธอเข้ามาด้านใน
หลินลั่วเสวี่ยเข้ามาก็มองดูห้องรับแขกที่รก อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วที่สวยงามนั้น"ทำไมห้องรับแขกรกอย่างนี้ล่ะคะ!"
"ไม่กี่วันมานี้ยุ่งมาก"ถึงอย่างไรหนานกงเจาก็เป็นผู้ชาย คนมองเห็นเขาเป็นอย่างนี้ มีความทำตัวไม่ถูกอยู่เล็กน้อย
"ช่างเถอะ พี่เจา พี่กินอาหารเช้าก่อนเถอะ อีกสักพักฉันจะเก็บให้พี่เองนะ!"
หลินลั่วเสวี่ยผลักไสขยะออกจากโต๊ะครึ่งหนึ่ง วางอาหารไว้บนโต๊ะตรงนั้น
หนานกงเจานั่งลงตามที่บอก อีกด้านดื่มโจ๊กแล้วถามว่า"เธอรู้ได้อย่างไรว่าฉันพักอยู่ที่นี่?"
"ห้ะ?"หลินลั่วเสวี่ยลอกแลกอยู่เล็กน้อย แต่ว่าก็นิ่งได้อย่างรวดเร็ว
"คุณอากลัวพี่ไม่กินอาหารเช้า ก็เลยให้ฉันเอามาให้พี่ ที่อยู่คุณอาเป็นคนให้!"
"เขา?"หนานกงเจาหัวเราะเยาะเย้ย เขาจะมาใส่ใจเรื่องว่าเขาจะอยู่หรือตายได้อย่างไรเมื่อวานที่เขาตบยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ
หนานกงเจานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ก็วางศักดิ์ศรีของตัวเองลงไม่ได้ "ต่อไปไม่ต้องมาพูดถึงเขาต่อหน้าฉันอีก ไม่อย่างนั้นต่อไปเธอก็ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้า"
"ได้!"หลินลั่วเสวี่ยตอบตกลง ในใจรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งจะเริ่มก็ไม่ราบรื่นแล้ว พอมาก็พูดถึงคนที่ทำให้พี่เจารู้สึกไม่ดี
หนานกงเจาเป็นคนที่ไร้จิตใจ ได้ยินคำที่เธอพูดแล้วก็ลืมแล้วว่าตัวเองเคยพูดว่าอะไร กินคำใหญ่อย่างไม่เกรงใจเลย
หลังจากกินอาหารเสร็จ หนานกงเจาก็นั่งอยู่บนโซฟา แต่หลินลั่วเสวี่ยก็ไม่ได้กลับไป พูดแล้วทำได้จริงๆ มุ่งตรงเริ่มเก็บของช่วยเขา
เขามองเธอเห็นเธอเดินเข้าๆออกๆยุ่งอยู่ แต่ไม่มีความปรารถนาที่จะเข้าไปช่วยเธอ ในหัวของเขากำลังเทียบระหว่างเธอกับเย่ชูวเสวีย
จากลักษณะนิสัยของเย่ชูวเสวีย เห็นห้องที่รกอย่างนี้ สิ่งแรกที่เธอคิดได้คือตัวเองไม่เข้าไปเก็บเอง และจะมาตีให้เขาเป็นคนไปเก็บ
เขาคิดว่านี่คือความแตกต่าง ที่ชอบคนคนนั้น ไม่ว่านิสัยจะไม่ดีอย่างไร เขาก็รู้สึกว่าเธอน่ารัก ถ้าไม่ชอบคนนั้น ไม่ว่าเธอจะมีจุดเด่นแค่ไหน เขาก็ไม่มีความรู้สึก
"พี่เจา?"
หนานกงเจาได้สติกลับมา เห็นดวงตากลมโตจ้องมองตัวเองอยู่ เขาก็ชะงักงงงัน"เก็บเสร็จแล้ว?"
"อืม"
เธอเอียงอายถอยออกไปครึ่งก้าว สายตาของหนานกงเจามองกว้างขึ้น ห้องรับแขกสว่างแพรวพราวเหมือนห้องใหม่ เดิมทีห้องมีแต่ขวดเหล้ารก เสื้อผ้าที่สกปรก ยังมีรองเท้าที่ทิ้งระเกะระกะ ทั้งหมดเก็บเรียบร้อยหมดแล้ว
เสื้อผ้าทั้งหมดซักอีกหนึ่งรอบแล้ว แขวนอยู่ตรงระเบียง ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายของแสงอาทิตย์ พื้นอีกนิดก็จะเงาเหมือนกระจก หนานกงเจาสายตามองทุกพื้นที่ที่เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่สักพักหนึ่ง
เขาผงกศีรษะด้วยความพึงพอใจ "อืม ไม่เลวนะ"
หลินลั่วเสวี่ยหัวเราะคิกคักรอคำพูดถัดไปจากเขา ใครจะรู้ว่าเขาจะพูดเพียงประโยคนี้ ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก นั่งสงบนิ่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา
"พี่เจา ......."หลินลั่วเสวี่ยเรียกด้วยความไม่พอใจอย่างอ่อนช้อย
หนานกงเจาเงยหน้าขึ้นจากการมองโทรศัพท์ ถามเธอด้วยความแปลกใจ"เป็นอะไร?ยังมีธุระอะไรอีก?"
หลินลั่วเสวี่ยมองเขาด้วยความน้อยใจ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี เขินอายอยู่นาน แต่หนานกงเจาหมดความอดทนก่อน หยิบเงินออกมาจากลิ้นชักมอบให้เธอ
"ขอบคุณที่เธอเอาอาหารเช้ามาให้ฉัน ก็คิดว่านี่เป็นคำขอบคุณจากเพื่อนเถอะ"
หลินลั่วเสวี่ยกัดริมฝีปาก เพียงแค่มองเขานิ่งไม่ได้พูดอะไรออกมา และก็ไม่รับเงิน
"สรุปว่าเธออยากได้อะไร?"หนานกงเจาถามอย่างรำคาญ
"พี่เจา ฉันไม่ได้อยากได้เงิน ฉันเพียงแค่หวังว่าพี่จะเห็นฉันเป็นเพื่อนที่ดี"
ในที่สุดหนานกงเจาก็เริ่มมองหลินลั่วเสวี่ยอย่างพินิจพิเคราะห์"เธอต้องรู้ว่าฉันมีคนในใจแล้ว!"
"ฉันรู้ ฉันไม่สนใจ!"
"แต่ฉันสนใจ!"
หนานกงเจาเอาเงินที่อยู่ในมือยัดเข้ากระเป๋าเงินของเธอ "ฉันไม่อยากให้คนที่ฉันชอบเข้าใจผิด เงินนี้เธอรับไป เราทั้งสองคนก็หายกัน ต่อไปก็ไม่ต้องเอาความรู้สึกแบบนี้มาล้อเล่นอีกแล้ว"
หลินลั่วเสวี่ยมองหนานกงเจาด้วยความรู้สึกน้อยใจ ในดวงตามีน้ำตาคลอแล้ว
หนานกงเจาหันศีรษะ"เธอไม่ต้องเอาความรู้สึกมาเดิมพันเพื่อแลกกับประโยชน์อีก อย่างนี้ไม่มีอะไรดีทั้งกับเธอและฉัน"
"แต่ว่าพี่เจา เธอไม่ได้ชอบพี่!"
"เรื่องนี้เธอไม่ต้องยุ่ง!"ถึงเธอจะไม่ชอบฉัน ฉันก็ยินยอมที่จะปล่อยผู้หญิงทุกคนที่อยู่ข้างกายตัวเอง นี่คือสิ่งที่ตัวเขาเลือก ไม่เกี่ยวกับคนอื่น
"เธอไปเถอะ....."
หนานกงเจาไม่พูดไร้สาระกับเธออีก มุ่งตรงขึ้นไปชั้นบน หลินลั่วเสวี่ยยืนอยู่ชั้นล่าง มองเขาที่ปิดประตูห้องนอน ถึงกำมือแน่น
"เย่ชูวเสวีย ! เธอรอก่อนเถอะ ฉันจะทำให้พี่เจาชอบฉันให้ได้อย่างแน่นอน!"
เธอสะพายกระเป๋าแล้วออกไปจากคฤหาสน์ หนานกงเจามองเธอที่กลับไป ถอนหายใจอย่างโล่งอก ผู้หญิงประเภทนี้ยากที่จะไปพัวพันข้องแวะ ในที่สุดก็ไล่เธอออกไปได้ สถานที่นี้เขาก็ไม่สามารถพักอยู่นานๆแล้ว ในกรณีที่เธอคิดไม่ได้แล้วกลับมาอีก เขาจะยังได้พักผ่อนอยู่อีกไหม?
หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว หนานกงเจาก็รีบเก็บของ เขานึกถึงอพาร์ทเม้นต์ใจกลางเมือง ถึงแม้จะไม่ใหญ่เท่าคฤหาสน์ แต่พักอยู่คนเดียวก็ยังกว้างขวางใช้ไม่หมด
..................
วันงานเลี้ยงใกล้เข้ามา เย่ชูวเสวียยินยอมทำตามให้มู่เวยเวยพลิกไปมา หลังจากที่ปฏิเสธไปครั้งที่ห้า ในที่สุดผมก็ทำเสร็จแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...