“เข้าไปกันเถอะ’ เสี่ยวอวี้หลินไม่ได้ตอบ เพียงแค่ประคองเธอเดินไปข้างใน
เซี่ยอันน่าไม่ได้โง่ เธอหยุดเดิน “พวกเราเดินเข้าไปในนั้นไม่ได้!”
เสี่ยวอวี้หลินประคองเธออยู่เห็นเธอหยุดเดินจึงหยุดเดินตาม “ทำไมเข้าไปไม่ได้ล่ะ?”
“นายโง่เหรอ ที่นี่จัดงานเลี้ยงใหญ่โต ไม่ใช่ร้านอาหารข้างทางนะ เราแต่งตัวแบบนี้ต้องโดนหัวเราะเยาะแน่!”
เซี่ยอันน่ามองเหยียดเขา ยังดีที่เขาขับรถหรู ไปร้านอาหารดังๆ แต่ความเฉลียวกลับไม่มี ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่พวกเศรษฐีใหม่จริงๆ
“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง!” เสี่ยวอวี้หลินกลั้นยิ้ม “แต่ถ้าคุณไม่ทายาหัวเข่าคุณอาจจะเป็นแผลเป็นก็ได้นะและถ้าเป็นบาดทะยักล่ะ….”
“เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย!” เซี่ยอันน่าปิดปากเขา “นายนี่ปากเสียจริง อย่ามาพูดมั่วๆนะ!”
“อื้ออื้ออื้อ…..” เสี่ยวอวี้หลินไม่คิดว่าจู่ๆเธอจะปิดปากเขา พอหายใจไม่ออกจึงพยายามออกแรงดิ้นเพื่อจะดึงมือเธอออก
เซี่ยอันน่าคิดว่าเขาหัวเราะกับตัวเอง จึงยิ่งปิดปากเสี่ยวอวี้หลินแน่นขึ้น
“พวกคุณเป็นใคร?” เสียงของทั้งสองที่กำลังฟัดเหวี่ยงกันไปมาดึงความสนใจของผู้คนที่อยู่ในห้อง บางคนวิ่งออกมาและคนที่นำหน้ามาขมวดคิ้วถาม
หนังศรีษะของเสี่ยวอวี้หลินชาไปพักหนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงนี้ว่าเป็นเพื่อนสนิทที่มักจะเล่นด้วยกัน ถ้ามาถูกเขาเห็นว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์น่าอายอย่างนี้ ต้องถูกเขาหัวเราะใส่ไปอีกพักหนึ่งแน่
เขารีบหันหลังทันที เซี่ยอันน่าคิดว่าเขาอยากจะสลัดให้หลุด จึงใช้แรงเหยียบก้อนหินที่อยู่ใต้เท้าซึ่งมันไม่ได้มั่นคง เธอจึงดึงเสี่ยวอวี้หลินตามลงมาที่พื้นและเธอก็ล้มตามไป
ด้วยเหตุนี้หน้าของเสี่ยวอวี้หลินจึงหันขึ้นมา ผู้คนที่ตามออกมาจึงเห็นฉากนี้เข้าพอดี ต่างพากันตกตะลึงไปตามๆกัน
“คุณชายเสี่ยว ทำไมเป็นคุณล่ะ !” คนที่อยู่ข้างหน้าเป็นคนแรกที่มีการตอบสนองและวิ่งเข้าไปดึงเขาขึ้นมา
คนที่อยู่ข้างหลังเขาได้ยินเสียง ก็เหมือนเพิ่งจะตื่นจากฝันกัน ผู้คนมากมายที่อยู่รอบๆต่างพากันวิ่งเข้ามา
“เดี๋ยวเดี๋ยวเดี๋ยว! พวกคุณถอยกลับไปเลยนะ!”
เสี่ยวอวี้หลินกลัวว่ามือเท้าของพวกเขาจะเผลอทำให้เซี่ยอันน่าเจ็บตัว จึงสั่งให้พวกเขาถอยออกไปและสะกิดคนที่อยู่บนตัวเขากว่าครึ่งเบาๆ
“เฮ้ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“เอ๊ะ? นายอย่าขยับนะ!”
เซี่ยอันน่าร้องเสียงหลง เสี่ยวอวี้หลินที่ถูกเธอทับอยู่หยุดขยับทันที “ทำ….ทำไม?”
“ไม่อะไรทั้งนั้นแหละ เท้าฉันเป็นตะคริว”
ศรีษะเสี่ยวอวี้หลินเต็มไปด้วยเส้นสีดำ เขานึกว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร!
เขาเอียงศรีษะมองเซี่ยอันน่า “ตอนนี้คุณลุกขึ้นได้แล้วใช่ไหม?”
“อะ...อะ! ขอโทษ!” เซี่ยอันน่าบอกว่าเธอรู้สึกไม่มีแรงตรงไหนและเสียการทรงตัวล้มลงมาโดยไม่เจ็บเลยสักนิดเพราะมีเขาเป็นเบาะรองให้ตัวเองไปแล้วนั่นเอง
“คุณเป็นอย่างไรบ้าง ยังเจ็บตรงไหนอยู่ไหม?” เสี่ยวอวี้หลินลุกขึ้นได้ก็เริ่มมองสำรวจตัวของเซี่ยอันน่า เห็นเธอไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนก็รู้สึกโล่งใจ
การกระทำของเขาเช่นนี้ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆอดที่จะแปลกใจไม่ได้ คุณชายเสี่ยวที่เคยเกเรวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น? กลับใจแล้ว? ไม่คิดว่าจะกำลังเป็นห่วงผู้หญิงขนาดนี้ !
“แค่กแค่ก….คุณชายเสี่ยว!” ชายคนที่อยู่หน้าสุดเอามือปิดปากและไอออกมาสองครั้ง และเดินออกมาจากจากกลุ่มคน
เซี่ยอันน่าไม่สบายใจที่ทำให้เสี่ยวอวี้หลินล้มลงไปด้วยและเมื่อได้ยินเสียงก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางนั้น ถ้าไม่มองคงไม่เป็นไรแต่พอมองแล้วก็ตกใจ
!
ทำไมไม่รีบบอกว่ามีคนมากมายกำลังมองพวกเขาอยู่ พวกเขาเห็นฉากน่าอายเมื่อกี้หมดแล้ว ? โธ่เอ้ย น่าขายหน้าที่สุดเลย!
“พวกนายพากันออกมาทำไม?” รับรู้ถึงความอายของเซี่ยอันน่า เสี่ยวอวี้หลินจึงเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและปกป้องเธอไว้ข้างหลังตัวเอง
“พวกเราได้ยินอะไรบางอย่างจากข้างนอก คิดว่าเกิดเรื่องอะไร จึงออกมาดูสักหน่อย ไม่คิดว่าจะเป็นคุณชายเสี่ยว” ชายคนนั้นดูออกว่าเสี่ยวอวี้หลินไม่พอใจจึงรีบอธิบาย
เสี่ยวอวี้หลินหยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก “พวกนายต่อกันได้เลย เธอได้รับบาดเจ็บ ฉันจะพาเธอขึ้นไปทายาข้างบน”
เมื่อหันไปที่เซี่ยอันน่าเห็นเธอกำลังมึนงงอยู่ จึงถอนหายใจและอุ้มเธอขึ้นจากนั้นก็เดินฝ่าฝูงชนไป
ในฝูงชน เมื่อเสี่ยวอวี้หลินเดินเข้ามาใกล้จึงรีบพากันแยกออกเป็นสองฝั่งโดยเร็วทำให้เหมือนคนสองคนเดินอยู่บนถนนกว้าง
สัมผัสได้ถึงสายตาของผู้คน เซี่ยอันน่ารู้สึกอายจึงซุกหน้าไว้ในอ้อมอกของเสี่ยวอวี้หลิน
และผู้หญิงที่อยู่รอบๆตัวเธอก็ใช้สายตามองด้วยความอิจฉาทิ่มแทงจนเซี่ยอันน่าเป็นรูพรุนไปหมด ถ้าหากไม่มีเสี่ยวอวี้หลิน กลัวว่าจะรีบพุ่งออกมาฉีกเธอเป็นชิ้นๆแล้ว!
“ยังต้องลงไปอยู่ไหม?”
เมื่อถึงห้องที่อบู่ชั้นบน เซี่ยอันน่าจึงถามเสี่ยวอวี้หลินอย่างหยั่งเชิงและระมัดระวัง
แต่เธอไม่อยากลงไป แต่งตัวแบบนี้ต้องถูกคนอื่นหัวเราะเยาะแน่นอน ถ้าให้พูดอีกสายตาเมื่อกี้นี้ของผู้หญิงพวกนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เข้าใจช่วงเวลานั้นได้แล้ว จะให้ลงไปอีกไม่มีทาง !
“ต้องลงไปอยู่แล้วสิ!” เสี่ยวอวี้หลินเงยหน้าพูดในสิ่งที่แน่นอน “มาที่นี่ก็เพื่อมาร่วมงานเลี้ยงนี้หนิ ทำไมถึงจะไม่ลงไปล่ะ?”
“หมายความว่าอย่างไร? ไม่ใช่ว่าคุณจะให้ฉันชดใช้ให้เหรอ? เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับกับสิ่งที่จะต้องชดใช้ให้?” เซี่ยอันน่ารู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมพรางและยิ่งตกลึกลงไปเรื่อยๆ
เสี่ยวอวี้หลินดีดหน้าผากของเธอ “คุณกำลังคิดอะไรอยู่? นี่แหละคือการชดใช้ให้กับฉัน!”
“อะไร?” เซี่ยอันน่าจับต้นชนปลายไม่ถูก เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับสิ่งที่เธอต้องชดใช้?
“ตั้งแต่แรก ดูเหมือนว่าเธอจะได้เปรียบ ทั้งกินข้าว นั่งรถหรู เข้าร่วมงานเลี้ยง นอกจากเขาจะเล่นละครตบตาตัวเอง อย่างอื่นก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการชดใช้อะไรเลย
“วันนี้เป็นวันเกิดของผู้หญิงคนหนึ่ง คุณแค่ต้องอยู่ข้างกายผมไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นก็พอแล้ว” เสี่ยวอวี้หลินเห็นสีหน้าเธอยังสับสน จึงอธิบายขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้พูดถึงจุดสำคัญออกมา
ไม่รู้ว่าเข้าใจผิดไปหรือเปล่า เซี่ยอันน่ารู้สึกว่าตอนเสี่ยวอวี้หลินพูด แววตาของเขามีความเศร้าเสียใจอยู่ในนั้น
เธออยากตอกกลับไปเหมือนเดิม แต่คำพูดนั้นกลับทำให้ปากไม่แข็งพอ
“แต่จะให้ฉันใส่ชุดแบบนี้ ก็ไม่เหมือนกับมาร่วมงานเลี้ยงน่ะสิ!”
เซี่ยอันน่าก้มหน้ามองดู เสื้อยืดธรรมดาๆ กางเกงยีนส์ขาสั้นสีขาวทั่วไป รองเท้าสีขาวคู่หนึ่ง ช่างแตกต่างกับผู้หญิงที่แต่งตัวสวยหรูอยู่ข้างล่างอย่างสิ้นเชิง ลงไปทั้งอย่างนี้มีแต่คนหัวเราะแน่!
“เร่งรีบอะไร? ทำแผลก่อนเถอะ เดี๋ยวติดเชื้อ” เสี่ยวอวี้หลินล้างฝุ่นที่อยู่ปากแผลอย่างต่อเนื่องโดยไม่ยี่หระ
เซี่ยอันน่ามองการกระทำที่อ่อนโยนของเขาและความรู้สึกแปลก ๆ ก็เกิดขึ้นในใจของเธอ เมื่อเขานำสำลีจุ่มแอลกอฮอล์แล้ววางบนแผล ทันใดนั้นความแสบร้อนก็ดึงสติเซี่ยอันน่ากลับมาทันที
“อะ!”
เสี่ยวอวี้หลินเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง “เป็นอะไร? เจ็บมากเหรอ?”
เซี่ยอันน่ารู้สึกอึดอัดที่ถูกเขามอง ใบหน้าก็ค่อยๆร้อนขึ้นมาทีละนิด “ใช่ นิดหน่อย….”
“งั้นฉันจะทำเบาลงอีก”
เสี่ยวอวี้หลินก้มหน้าลงไปอีกครั้งและตั้งใจช่วยทำแผลให้เธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...