การกระทำเช่นนี้ยิ่งทำให้พนักงานเสิร์ฟเข้าใจผิด เขาไม่อยากสั่งอาหารด้วยซ้ำ เพียงแค่อยากไล่เขาออกไปแทบรอไม่ไหว หมายความว่าหลังจากนี้พวกของสองคนก็จะ...
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็เตือนตัวเองในใจ ตอนที่เอาอาหารมาเสิร์ฟ ต้องเคาะประตูก่อน เพราะเกรงว่าจะเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น!
“คุณทำอะไร?” เซี่ยอันน่าคิ้วขมวด เธอรู้ว่าเขาจงใจทำเพื่อให้พนักงานเข้าใจคิด
เสี่ยวอวี้หลินแบมือ “ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ผมแค่พูดไปสองสามคำ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะเข้าใจผิด?”
“คุณ…”
เซี่ยอันน่าถูกเขาปิดปากไม่ให้พูดอะไร เขามักจะมีเหตุผลมากมาย แต่เธอดันไม่พูด ทำได้เพียงแค่บึ้งตึง
เซียวอวี้หลินกลับไม่สะทกสะท้าน ยังคงดื่มน้ำอย่างอารมณ์ดี “มันเป็นเพียงความเข้าใจผิดเล็กๆน้อยๆ แบบนี้หากทุกคนเข้าใจผิดหมด คุณไม่โกรธตายเลยเหรอ?”
เซี่ยอันน่ามองเขาด้วยความโกรธ “ถ้าคุณไม่เจ้าเล่ห์ ใครจะเข้าใจผิด?”
“ผมทำอะไรงั้นเหรอ?” เซียวอวี้หลินทำหน้าอบจนหนทาง
เซี่ยอันน่ามองท่าทีของเขา คร้านจะเสวนาด้วย จึงหันกลับไปเล่นโทรศัพท์ เซียวอวี้หลินก็หยุดเช่นกัน เธอไม่เล่นด้วยต่อก็คงไม่สนุก
หลังจากนั้นไม่นาน พนักงานก็เดินเข้ามาพร้อมกันอาหารมากมาย ตอนที่เขาเข้ามาก็มองไปที่เซียวอวี้หลินและเซี่ยอันน่าเป็นพิเศษ
เมื่อเห็นว่าพวกเขาอยู่ห่างกันมากว่าตอนแรก ในใจก็เข้าใจได้ทันที หลังจากที่เขาออกไป พวกเขาต้องทำอะไรบางอย่างกันแน่ๆ เพราะไม่ทันระวังเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู จึงรีบแยกออกจากกัน
และสีหน้าไม่ดีของพวกเขาทั้งสอง ก็อธิบายทุกอย่างได้อย่างชัดเจน!
“อาหารพร้อมแล้วครับ” พนักงานที่ยืนอยู่ข้างๆเสี่ยวอวี้หลิน ก้มลงทำความเคารพ
เสี่ยวอวี้หลินพยักหน้า “เอาล่ะ คุณก็ลงไปเถอะ”
พนักงานเสิร์ฟเข้าใจ อันที่จริงไม่ต้องรอคำสั่งจากเสี่ยวอวี้หลินก็ได้ เพียงแค่มองตาเขาก็เข้าใจความหมายของเสี่ยวอวี้หลินอย่างถ่องแท้
“เอาล่ะ ไม่มีใครมารบกวนเราแล้ว กินเถอะ”
เสี่ยวอวี้หลินยื่นตะเกียบให้เซี่ยอันน่า แต่เธอกลับไม่รับ จ้องมองมาที่เสี่ยวอวี้หลินจนเขาเริ่มไม่สบอารมณ์
“คุณทำอะไร?” ในที่สุดเสี่ยวอวี้หลินก็ทนไม่ไหวจึงเอ่ยถามขึ้น
“คุณมีธุระอะไรกันแน่ ฉันขอร้องล่ะ ให้ฉันรีบๆทำแล้วรีบๆออกไปสักทีเถอะ” สีหน้าของเซี่ยอันน่าโศกเศร้า หากเพียงแค่ต้องการให้เธออับอาย เป้าหมายของเขาก็สำเร็จแล้วหนิ!
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น กินข้าวก่อนเถอะ ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว”
เสี่ยวอวี้หลินวางตะเกียบไว้ตรงหน้าเซี่ยอันน่า แล้วคีบอาหารมาวางใส่จานตัวเองและเอาใส่ปาก เห็นเธอยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เขาเคี้ยวข้าวเสียงดัง
“อืมมม อร่อยมาก สมแล้วกับเป็นเมนูแนะนำ รับรองว่าอร่อยกว่ารูปลักษณ์ภายนอกเป็นไหนๆ” คำพูดของเซียวอวี้หลินเกินความจริง อันที่จริงแล้วรสชาติอาหารของที่นี่อยู่ในระดับธรรมดาๆ เพียงเท่านั้น แต่เพื่อดึงดูคงามสนใจของเซี่ยอันน่า เขาจึงต้องพูดเกินจริงเข้าไว้
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยอันน่าก็ไม่อาจทนหันกลับไปได้ เธอหันมองไปยังเซียวอวี้หลิน ตรงหน้าเขาคือฝูชีเฟ่ยเพี่ยน
ตรงกันข้ามกับแววตาของพนักงานเสิร์ฟ เธอหันกลับมาอีกครั้งด้วยความโกรธ แต่เมื่อกลิ่นหอมๆ เตะเข้าจมูก ก็ไม่อาจทนกลืนน้ำลายได้
ช่างเถอะ! ท้องหิวกับที่ยังโกรธเขาอยู่ ท้องก็ไม่อาจทนหิวของตัวเองได้!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซี่ยอันน่าก็หยิบตะเกียบตรงหน้าขึ้นมา คีบฝูชีเฟ่ยเพี่ยนขึ้นมาหนึ่งชิ้น แล้วกินมันเข้าปาก รสชาติไม่ได้อร่อยอย่างที่คิดไว้ แต่สำหรับเซี่ยอันน่าที่กำลังหิวมาก มันจึงอร่อยที่สุดในโลก
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เซี่ยอันน่าขึ้นไปนั่งบนรถของเสี่ยวอวี้หลินอีกครั้ง
ใบหน้าเธอเบื่อหน่าย “คุณจะพาฉันไปไหน?”
“อย่าเพิ่งพูด ตามผมมาก็พอ” เสี่ยวอวี้หลินไม่ให้คำตอบกับคำถามของเธอ สตาร์ทรถแล้วขับออกไปทางชานเมือง
ระยะทางออกห่างจากตัวเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ เซี่ยอันน่าถอดใจยอมแพ้ “คุณจะไปไหนกันแน่?”
“ทำไม? กลัว?” เสี่ยวอวี้หลินยิ้มกริ้มกริ่ม แต่เท้ากลับเหยียบคันเร่งไม่คลาย
“คุณเพิ่งจะอวดเก่งไปไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้เป็นแบบนี้แล้วล่ะ?”
เสี่ยวอวี้หลินยิ้มจนทำให้เซี่ยอันน่าขนลุก เธอลดแขนลง ตัวสั่นเบาๆ “คุณอย่ามาทำอะไรแบบนี้นะ!”
“ทีแรกผมก็ไม่อยากพูด ในเมื่อตอนนี้คุณดูออกแล้ว งั้นผมก็แค่อยากให้รู้”
เซี่ยอันน่าถามเขา “อะไร?”
เสี่ยวอวี้หลินยิ้มอย่างน่าหวาดกลัว “คุณคงดูออกว่าผมไม่ได้ต้องการเงิน”
“แล้ว...ยังไง?”
ไม่ได้ขาดแคลนเงินกับสถานการณ์ตอนนี้มันเกี่ยวกันอย่างไร?
เสี่ยวอวี้หลินเห็นความสงสัยของเธอ จึงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ “แล้วคุณคิดว่าผมได้เงินมาจากไหน?”
“ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง!” เซี่ยอันน่าหดตัวลงพนักพิงอย่างระแวดระวังตัว “ว่าไปแล้ววิธีหาเงินของคุณก็เป็นความลับ จะบอกคนอื่นง่ายๆ ได้ยังไง?”
“ถึงยังไงคุณก็ต้องอุทิศตัวเองอยู่ดี ผมบอกคุณก็คงไม่เป็นไร”
เซี่ยอันน่ารู้สึกงุนงงอยู่ในใจ มองไปที่เสี่ยวอวี้หลินเงียบๆ รอคำพูดของเขาหลังจากนั้น
“ฉัน…”
“อ่ะ!” เสี่ยวอวี้หลินหยุดรถ ทันใดนั้นก็ขยับเข้ามาใกล้เซี่ยอันน่า เธอตกใจจนร้องกรีดออกมา
ร่างกายถอยหลังไปอย่างอัตโนมัติ มีเพียงเข็มขัดนิรภัยพันตัวไว้ ไม่มีทางถอยไปได้อีกแล้ว
เสี่ยวอวี้หลินหัวเราะ แต่ยังต่อเรื่องที่พูดค้างไว้ให้จบ “งานของผมคือลักพาตัวหญิงสาว พาพวกเธอไปที่ทุรกันดาร แล้วพาพวกเธอ...ไปประหารชีวิต!”
“คุณ...อย่ามาล้อเล่น!” เซี่ยอันน่าหวาดกลัวมาก แต่ยังแสร้งทำเป็นใจเย็น
เสี่ยวอวี้หลินปลดเข็มขัดนิรภัยตัวเองออก แล้วใช้มือกักตัวเซี่ยอันน่าไว้ “ผมล้อเล่นอย่างนั้นเหรอ? จากที่ผมเล่นสนุกเสร็จก็พาพวกเธอไปขาย ได้เงินเยอะเลยล่ะ!”
พูดจบ ไม่รอให้เซี่ยอันน่าโต้ตอบกลับมา ใบหน้าของเขายื่นเข้าไปใกล้เซี่ยอันน่าเรื่อยๆ ทั้งสองเหลือเพียงช่องว่างระหว่างปลายจมูก แม้กระทั้งลมหายใจยังประสานเป็นหนึ่งเดียว
“คุณ...คุณ คุณ คุณ…”
หากเป็นคำพูดเมื่อครู่เซี่ยอันน่ามีความสงสัยเล็กน้อย แต่ตอนนี้การกระทำของเสี่ยวอวี้หลินปัดเป่าความคิดเธอหายไปหมด
“คุณอย่ามายุ่งวุ่นวายนะ ไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจ!” เซี่ยอันน่าเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มือถือ แต่ถูกเสี่ยวอวี้หลินขัดขวางไว้ได้อย่างง่ายดาย
เสียงหัวเราะของเขาทำให้คนขนหัวลุก “ผมแนะนำว่าอย่าขัดขืนดีกว่า มิฉะนั้น คนที่เดือดร้อนจะเป็นตัวคุณเอง!”
“พี่ชาย ฉันขอร้องล่ะ อย่าทำแบบนี้เลยนะ ปล่อยฉันไปเถอะ!” เซี่ยอันน่าร้องไห้ขอร้องวิงวอนเสี่ยวอวี้หลิน
เมื่อเสี่ยวอวี้หลินเห็นเธอหวากลัว ก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้ “ฮ่าๆ ไม่คิดว่าคุณจะหลอกง่ายขนาดนี้”
“คุณ...คุณหลอกฉันเหรอ?” เซี่ยอันน่ารู้สึกโล่งใจ เพียงแค่ไม่คิดว่าเขาจะเพิ่มระดับการแกล้งมากขึ้น จงใจยั่วโมโหเธองั้นเหรอ?
“ยัยโง่!” เสี่ยวอวี้หลินดีดหน้าผากเซี่ยอันน่า เวลานี้ยังต้องคอยระวังตัว หมายความว่าเมื่อสักครู่เธอกลัวจริง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...