ผ่านไปชั่วครู่ เสี่ยวอวี้หลินก็เจอเซี่ยอันน่า เขารีบวิ่งเข้าไปกอดเธอ
"เธอไม่เป็นอะไรแล้ว เธอไม่เป็นอะไรแล้วนะ"
เซี่ยอันน่าที่ตกอยู่ในความกลัว แต่เมื่ออยู่ในอ้อมกอดเขาก็รู้สึกอุ่นใจขึ้น
ได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงของเสี่ยวอวี้หลิน เซี่ยอันน่าก็ร้องไห้ออกมา
เธอร้องไห้อยุ่พักหนึ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง
เธอเป็นลูกค้าคนแรกของที่ร้าน
ไม่รู้ทำไม เซี่ยอันน่าถึงรู้สึกว่าเธอดูแปลกๆ
ผูุ้หญิงคนนั้นรีบหลบสายตาจากเซี่ยอันน่า และค่อยๆเดินถอยหลัง หายไปในกลุ่มคน
"เฮ้ ฉันกำลังกอดเธออยู่ เธอเหม่ออะไร?"
เสี่ยวอวี้หลินเห็นว่าเธอไม่ได้สนใจ จึงพูดขึ้น
เซี่ยอันน่าตั้งสติได้ ก็รีบผลักเขาออกและหน้าแดงระเรื่อ
ทำไมกอดเขาได้นะ?
และเมื่อเธอหันไปดูร้าน ร้านสภาพย่ำแย่มาก มีทั้งร่องรอยของไฟไหม้ และต่างๆอีกมากมาย
ดูเหมือนจะรับลูกค้าไม่ได้อีกสักระยะ
กลับกันเย่ชวูเสวียไม่ได้สนใจว่าร้านจะพังพินาศแค่ไหน เธอรีบพาเซี่ยอันน่ากลับไปที่คอนโดของเสี่ยวอวี้หลิน
เมื่อถึงคอนโด เซี่ยอันน่าถึงได้รู้ว่า คุณยายฉางยังอยู่
คุณยายฉางได้ยินเรื่องราวที่เซี่ยอันน่าเจอมา ก็รู้สึกสงสาร พาเธอไปล้างหน้าล้างตา และพาไปที่ห้องพัก
เสี่ยวอวี้หลินจะตามไป แต่ก็ถูกเย่ชวูเสวียเรียกไว้เสียก่อน
"พี่มานี่ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย เรื่องของอันน่า"
เขานั่งลง รอฟังเรื่องที่เย่ชวูเสวียจะคุยด้วย
"ฉันคิดว่าเรื่องไฟไฟม้ที่ร้านวันนี้ ต้องมีคนจงใจ"
เสี่ยวอวี้หลินขมวดคิ้ว "คนที่มันคิดจะทำร้ายอันน่า ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่"
"ยังไงก็ต้องจัดการอยู่แล้ว แต่ฉันแค่คิดว่าการกระทำของมันแปลกๆ" เย่ชวูเสวียหยุดเล็กน้อย ก่อนพูดต่อว่า "พวกนั้นเหมือนอยากให้อันน่าไป แต่ถ้าอันน่าไปแล้ว พวกมันจะได้อะไร?"
"ฉันมีวิธีหนึ่ง ที่พอจะทำให้รู้คำตอบ"
หนานกงพูด เย่ชวูเสวียหันไปถามต่อว่า "วิธีอะไร?"
"ตามน้ำกับพวกมันไปก่อน ลองให้เซี่ยอันน่าหยุดงาน แล้วคอยดูว่าพวกมันจะทำอะไรต่อ"
วิธีนี้ดูไม่เลว แต่เสี่ยวอวี้หลินจะเห็นด้วยไหม? เย่ชวูเสวียหันไปมองหน้าเขาเพื่อรอฟังคำตอบ
เสี่ยวอวี้หลินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบตกลง
เมื่อได้ยินดังนั้นเย่ชวูเสวียก็ถอนหายใจโล่งอก "ฮุ้ว ฉันคิดว่าพี่จะไม่เห็นด้วยซะอีก"
"ตอนแรกพี่ก็จะปฏิเสธ แต่พอนึกถึงพวกมันที่คิดจะทำร้ายอันน่า พี่ก็อยู่นิ่งไม่ได้"
"โอเค งั้นพวกเราเริ่มลงมือได้"
อีกฝากหนึ่ง....
เมื่อซู่เฉียวเฉี่ยวได้ยินข่าวไฟไหม้ของร้านขนมก็ชอบใจมาก
"ครั้งนี้เธอทำดีมาก นังเซี่ยอันน่ามันถึงคราวซวยแล้ว"
อู๋จิงที่อยู่ในเหตุการณ์ ยังคงช็อกอยู่
ซู่เฉียวเฉี่ยวบอกเธอว่า ในขวดพลาสติกพวกนั้น บรรจุวัตถุไวไฟอยู่ จึงทำให้ร้านนั้นถูกเผาไหม้วอดวาย จนไม่สามารถเปิดได้
แต่ยังดีที่ร้านไหม้โหมแค่ชั่วครู่
ถ้ามีคนเป็นอะไรไป เธอคงต้องติดคุกแน่ๆ
อู๋จิงคิดไดด้อย่างนั้นก็รู้สึกกลัวจนหน้าซีด
ซุ่เฉียวเฉี่ยวแกล้งทำเป็นปลอบขวัญอู๋จิง แต่ในใจคิดว่ายัยนี่ไม่ได้เรื่องเสียเลย
"อย่ากังวลไปเลย หลักฐานทุกอย่างไหม้ไปหมดแล้ว พวกนั้นสืบไม่ถึงเธอหรอก อีกอย่างฉันไปสืบมาแล้วว่ากล้องวงจรปิดในห้องครัวมันเสีย ยิ่งไม่มีใครรู้ว่าเป็นแน่นอน"
ไม่มีใครรู้แน่ เพราะจริงๆแล้วเธอไม่ได้เป็นคนลงมือเอง แต่เป็นแค่ลูกมือเท่านั้น
จะให้ซู่เฉียวเฉี่ยวรู้เรื่องนี้ไม่ได้
ช่างมันเถอะ มันผ่านไปแล้ว ก็ให้มันเป็นแบบนี้แล้วกัน
อู๋จิงพยายามบอกตัวเอง แต่ภายในใจยังคงไม่สงบสุข
.................
เย่ชวูเสวียเตรียมจะออกไป
และก่อนออก เย่ชวูเสวียคุยกับเซี่ยอันน่าว่า "ช่วงนี้เธอพักผ่อนก่อน รอที่ร้านซ่อมเสร็จ เปิดได้ปกติ ฉันจะมาหาเธอ"
"โอเคค่ะ"
"อย่าคิดไปเรื่อยว่าที่ร้านเป็นแบบนี้เพราะเธอ เข้าใจไหม?"
"อื้ม โอเคค่ะ" เซี่ยอันน่ายิ้มอ่อน
"เอาล่ะ เธอพักผ่อนเยอะๆแล้วกัน พวกฉันไปก่อน"
เมื่อเห็นว่าเย่ชวูเสวียเตรียมจะออกไป เธอก็ลุกขึ้น และพูดว่า "ฉันไม่พักแล้ว ออกไปพร้อมพวกคุณเลยดีกว่า"
เย่ชวูเสวียรีบกดเธอให้นั่งลงและพูดว่า "อย่าเพิ่ง เธออยู่นี่ดูอาการก่อน ตอนที่ไฟไหม้น่าจะสูดควันเข้าไปเยอะ ระบบหายใจอาจจะมีปัญหาได้"
เมื่อเสี่ยวอวี้หลินได้ยินดังนั้น ก็รีบพูดขึ้น "งั้นพี่รีบไปหาหมอมาดูอาการให้ละเอียด"
เย่ชวูเสวียกรอกตาไปมา
คนบ้านนี้ฉลาดไม่ใช่หรือ? ทำไมอยู่ๆถึงกับโง่ไปได้ นี่เขาดูไม่ออกหรือเนี่ยว่านี่เป็นแค่ข้ออ้างให้เซี่ยอันน่าอยู่ต่อ?
เซี่ยอันน่ารีบพูดว่า "ไม่ต้อง ฉันไม่ได้เป็นอะไร"
"แต่ตรวจหน่อยก็ดีนะอันน่า"
พูดจบเย่ชวู่เสวียก็เตรียมเดินออกไป ก่อนจะออกไปเธอหันมาถลึงตาใส่เขาทีนึง
และในห้อง ก็เหลือเพียงเซี่ยอันน่าและเสี่ยวอวี้หลินสองคน
ทั้งสองนั่งตรงข้ามกัน และทำตัวไม่ถูก...
"เอ่อคือ..."
"เอ่อคือ..."
ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน รู้สึกไม่เป็นตัวเอง
เซี่ยอันน่าก้มหัวและพูดต่อว่า "นายพูดก่อน"
"เธอไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? อย่าปิดบังฉันนะ"
"ฉันโอเคมาก ไม่เป็นอะไรเลย เอ่อ ฉันว่าฉันกลับมหาวิทยาลัยดีกว่านะ"
"ไม่ใช่ว่าพูดรู้เรื่องแล้วหรือ ว่าให้อยู่ดูอาการสักพัก เธอกลับมหาวิทยาลัยก็ไม่มีอะไรทำ อยู่นี่ก่อนก้ได้"
"เอ่อแต่ว่า..."
อยู่ดูอาการก็ไม่จำเป็นต้องจ้องขนาดนั้นก็ได้มั้ง ทำตัวไม่ถูกเลย....
ขณะนั้นเอง เสี่ยวอวี้หลินครุ่นคิด ตั้งแต่ที่รู้จักกับเซี่ยอันน่า ใจของเขาก็เหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะ เดี๋ยวอยู่ๆก็ขึ้น อยู่ๆก็ลง ไม่เข้าใจจริงๆ
เมื่อครู่ที่ได้ยินว่าร้านไฟไหม้ เขาก็รีบวิ่งเข้าไป คิดแต่ว่าขอให้เซี่ยอันน่าปลอดภัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...