วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 465

เซี่ยอันน่าคว้าแก้วมาและพูดอย่างดื้อดึงว่า “ฉันดื่มได้ เอามา”

เธอพูดพลางเงยหน้าขึ้นดื่มไวน์แดงในแก้ว

เย่ชูวเสวี่ยปรบมือแล้วมองไปทางเสี่ยวอวี้หลินอย่างยั่วยวน “ดูสิผู้หญิงใจแกร่ง”

เสี่ยวอวี้หลินแสดงสีหน้าอย่างไร้อารมณ์ “เธอใช้วิธีหลอกล่อนี่นา”

เซี่ยอันน่าดื่มเร็วเกินไปจึงรู้สึกเวียนหัว เธอไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

เซี่ยอันน่าเงยหน้าไปมองเสี่ยวอวี้หลินและพูดตรงๆว่า “เสี่ยวอวี้หลินอย่าเยอะ ฉันดื่มของฉัน นายจะพูดมากทำไม”

“เธอโง่หรือเปล่า เย่ชูวเสวี่ยกำลังหลอกเธอดื่มอยู่นะ”

“แค่ดื่มไม่กี่แก้วเอง จะเมาได้ยังไง”

“เธอไม่เข้าใจเย่ชูวเสวี่ยจริงๆ”

เย่ชูวเสวี่ยกำลังดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสนุก เมื่อได้ยินประโยคนี้ เธอก็ท้วงขึ้นอย่างไม่พอใจ “นี่อย่ามาหาเรื่องให้พวกเราสองคนพี่น้องผิดใจกันนะ”

เสี่ยวอวี้หลินหมดคำจะพูด ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เขาก็จะมองดูเฉยเฉยแล้วกัน ไม่ว่าเขาพูดยังไง ก็ไม่มีใครจริงจังอยู่ดี

เสี่ยวอวี้หลินเดินมาข้างหน้าและยื่นมือออกไปพูดว่า “งั้นก็ดี ดื่มไป ฉันไม่พูดแล้ว”

“ก็ไม่ควรพูดตั้งแต่แรก” เย่ชูวเสวี่ยแลบลิ้นใส่เสี่ยวอวี้หลิน จากนั้นก็ยกแก้วขึ้นมาพูดว่า “มาวันนี้เป็นวันของผู้หญิงอย่างพวกเรา ดื่มให้มีความสุข ไม่ต้องสนใจว่าพวกผู้ชายจะพูดอะไร”

“ฉันคิดว่าความคิดนี้ไม่เลวเลย”

ต้วนอีเหยายกยิ้มขึ้นอย่างเห็นด้วย

“รีบมาเร็วชนแก้ว”

แก้วไวน์ชนกันเกิดเสียงกังวาล

ผู้หญิงต่างดื่มและหัวเราะอย่างมีความสุข

เซี่ยอันน่าไม่ได้มีความสุขอย่างนี้มานานแล้ว ถึงแม้ว่าเย่ชูวเสวี่ยกับต้วนอีเหยาจะมีฐานะสูงศักดิ์ แต่ตอนเธออยู่กับพวกเขาเธอก็รู้สึกผ่อนคลายมาก

พวกเขาไม่ดูถูกคนเพียงแค่เพราะว่าฐานะ พวกเขาคบกันที่จิตใจ

เพราะความเมา เซี่ยอันน่าจึงค่อยๆขาดสติ มึนเมาไปกับการชนแก้วกับต้วนอีเหยาและเย่ชูวเสวี่ย

เมื่อเห็นเซี่ยอันน่าดื่มแก้วแล้วแก้วเล่า เสี่ยวอวี้หลินจึงอยากห้าม

แต่เมื่อเห็นเซี่ยอันน่ามีความสุขมาก เขาจึงปล่อยให้มันเป็นไป

ทันใดนั้นต้วนอีเหยาก็ลุกขึ้นเดินมาข้างเสี่ยวอวี้หลิน

ส่งรูปหนึ่งให้เขาและพูดว่า “เรื่องเมื่อคราวก่อนตรวจสอบแน่ชัดแล้ว เป็นแผนของผู้หญิงคนนี้ เธอมีแบล็คเป็นมาเฟีย และตัวการใหญ่ก็คือพี่หก”

เสี่ยวอวี้หลินหรี่ตาและพึมพัมว่า “ที่แท้ก็พี่หก....”

“นายรู้จักหรอ”

“อืม เขาเป็นคนเปลี่ยนแปลงได้ดีมาก”

ต้วนอีเหยาพยักหน้า “จริง ทั้งชั่วช้า และโหดร้าย ฉันขอเตือนให้คุณอย่าไปยุ่งกับเขา”

เสี่ยวอวี้หลินแสดงท่าทีอย่างไม่สนใจและพูดว่า “ประโยคนี้พูดผิดหรือเปล่า ก็เห็นๆอยู่ว่าเขามาหาเรื่องฉัน ไม่ว่าเขาเป็นใคร ฉันก็ไม่เคยกลัว”

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง ต้วนอีเหยาก็พูดว่า “ฉันแค่ให้คำแนะนำ จะฟังไม่ฟังก็เรื่องของนาย”

“แต่ยังไงก็ขอบใจนะ”

“ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ไม่ได้ช่วยนาย”

ขณะพูดประโยคนี้ สายตาของเธอก็มองไปที่เซี่ยอันน่า

ตอนนี้เซี่ยอันน่าเหมือนกำลังพูดอะไรกับเย่ชูวเสวี่ยอยู่ ทั้งสองหัวเราะจนแก้มแดง ราวกับเขินใครอยู่

ดูเหมือนว่าต้วนอีเหยาจะชอบเซี่ยอันน่ามาก ที่ช่วยสืบหาในครั้งนี้ ก็เป็นเพราะเธอซะส่วนใหญ่

สำหรับเรื่องนี้เสี่ยวอวี้หลินไม่ค่อยเข้าใจนัก

“มิตรภาพระหว่างผู้หญิงของพวกเธอเกิดขึ้นกระทันหันมาก”

“คิดไม่ออกก็ไม่ต้องคิด ไม่ว่าคิดยังไงก็ไม่เข้าใจหรอก”

ไม่มีใครพูดตรงไปกว่าต้วนอีเหยาแล้ว

เย่ชูวเสวี่ยเห็นทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ จึงแอบเดินมาฟัง

แต่ขณะที่เธอกำลังขยับใกล้เข้ามา เธอก็ถูกจับได้ซะก่อน

ในเมื่อถูกจับได้แล้ว เธอจึงถามอย่างตรงไปตรงมา “นี่แอบมาคุยอะไรกัน”

“ถ้าเธอรู้แล้วจะเรียกว่าแอบหรอ”

คำพูดของเสี่ยวอวี้หลินทำให้เย่ชูวเสวี่ยเม้มริมฝีปากอย่างไม่พอใจ

เธอยกมือขึ้นกอดคอต้วนอีเหยาและพูด “กลับมา พวกเราดื่มกันต่อ”

“ต้วนอีเหยาดื่มต่อไม่ได้แล้ว”

เย่จิงเหยียนดึงต้วนอีเหยากลับไป ในขณะที่น้ำเสียงมีความน่าสงสัย

เย่ชูวเสวี่ยขมวดคิ้วพูด “อะไรเนี่ย มาขวางความสนุกได้ยังไง”

เมื่อเห็นว่าเย่ชูวเสวี่ยเมาแล้วเล็กน้อย เย่จิงเหยียนจึงไม่พูดกับเธออีก

เขาหันไปมองหนานกงเจาและพูด “หนานกงเจามาดูเย่ชูวเสวี่ยหน่อย เธอดื่มต่อไม่ได้แล้ว”

“แต่พวกเราเพิ่งเริ่มเองนะ”

“จบแล้ว”

“ฉันไม่”

“เธออยากท้าทายฉันหรอ”

เมื่อเห็นเย่จิงเหยียนหรี่ตาลง เย่ชูวเสวี่ยก็หยุดทันที

การมีเรื่องกับเย่จิงเหยียนคงไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดนัก

เธอกลืนน้ำลายลงคอและพูดว่า “ใช่ แต่กินของคงไม่เป็นไรมั้ง”

“ดี เก็บแก้วเหล้าไปให้หมด”

ผู้ชายคนนี้นี่....

เมื่อเห็นเย่ชูวเสวี่ยยังไม่ยอมแพ้ หนานกงเจาจึงเตือนเธอว่า “ดื่มเหล้าก็เพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องดื่มหนักเกินไป ตอนนี้บรรยากาศกำลังดี ถ้าดื่มเยอะกว่านี้ พวกเธอต้องขายหน้าแน่”

“ฉันไม่มีทางเมาน่าเกลียดหรอก”

“ไม่ใช่เธอ ถ้าเป็นคนอื่นล่ะ เธอจะยืนดูอยู่เฉยๆหรอ”

เย่ชูวเสวี่ยขยับปากราวกับจะพูดอะไร แต่ก็ไม่พูดออกมา

เมื่อหนานกงเจาเห็นอย่างนั้น เขาจึงเก็บแก้วเหล้าไป

เซี่ยอันน่านั่งอยู่หน้าบาร์คนเดียว เธอกำลังคิดอยู่ว่าเธอควรจะดื่มอีกแก้วไหม แต่แก้วในมือก็ถูกคนเก็บไป

เมื่อเห็นในมือว่างเปล่า เซี่ยอันน่าก็พึมพำว่า “นี่ ทำไมมาเอาแก้วเราฉันไปล่ะ ฉันยังอยากดื่มอยู่นะ”

เสี่ยวอวี้หลินมานั่งข้างเซี่ยอันน่าพอดี เขาพูดข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า “ดื่มน้ำผลไม้เถอะ ดื่มเหล้าเยอะระวังตัวบวมนะ ถ้าเกิดผู้กำกับโทรมาให้เธอไปถ่าย เธอจะไปทั้งหน้าบวมบวมอย่างนั้นหรอ”

“อืม ที่พูดมาก็ถูก”

เซี่ยอันน่าสงบและหายดื้อทันที ตอนนี้เธอเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆ นอนอยู่ตรงนั้น

เมื่อเห็น เซี่ยอันน่าในสภาพนี้ เสี่ยวอวี้หลินก็เกิดอารมณ์บางอย่างขึ้นมาในใจ

เขาค่อยๆขยับเข้าไปใกล้เซี่ยอันน่า และยื่นมือไปเพื่อจะจับไหล่ของเธอ

แต่เซี่ยอันน่ากลับยืดเอวของเธอขึ้นและพูดว่า “ถ้างั้น เราเต้นด้วยกันเถอะ”

เมื่อพูดจบเธอก็ลุกขึ้นมาอย่างกระตือรือร้นเพื่อไปตามหาเครื่องเสียง

เขาดึงเซี่ยอันน่ากลับมาและพูดอย่างเหนื่อยใจว่า “เธอรู้มั้ยว่าเธอทำอะไรอยู่”

“รู้สิ ฉันอยากเต้นนี่นา ฉันเต้นได้ดีมากเลยนะ คุณดูสิ”

เมื่อพูดจบเธอก็ยกมือขึ้นมาเต้นด้วยท่าทางไร้เดียงสา ราวกับนกเพนกวินตัวน้อยๆ

เย่ชูวเสวี่ยตลกกับท่าเต้นของเซี่ยอันน่า เธอชี้มาที่เซี่ยอันน่าและพูดว่า “ฮ่าๆ ในที่สุดวันนี้ฉันก็เจอคนที่เต้นแย่กว่าฉันแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ