หันศีรษะไป แสดงรอยยิ้มและเซี่ยอันน่าพูดว่า:“ ท้องฟ้ามืดแล้ว พวกเราก็ควรที่จะกลับไปแล้ว”
“ตกลง”
เมื่อเสียงเงียบลง เซี่ยอันน่าก็จับมือฉีฉีแล้วเดินจากไป
ฉีฉีประทับใจอวี๋เวย รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ทัศนคติจิตใจดีและยังสวยงามอีกด้วย เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ
เมื่อจะจากไป ยังไปโบกมือให้เธอและพูดว่า:“ คุณอวี๋เวย ครั้งหน้ามีโอกาสมาเป็นแขกของบ้านพวกเรานะ”
เมื่อสบสายตาที่เป็นประกายของฉีฉี อวี๋เวยก็ค่อยๆพยักหน้า
แต่ในตอนที่ฉีฉีไม่เห็น รอยยิ้มนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ขณะขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน เซี่ยอันน่าก็ไม่ได้พูดอะไร รอยยิ้มบนใบหน้าก็ไม่มีและยังดูจริงจังมาก
ในตอนแรกฉีฉียังไม่สังเกตเห็น และยังคงอยู่ในโลกของตัวเอง พูดพล่อยๆเกี่ยวกับความดีของอวี๋เวย
“จึงพูดได้ว่า ถ้าหากว่าฉันสามารถสง่างามเหมือนคุณอวี๋ได้ ฉันก็คงจะยิ้มจนตื่นจากความฝัน.........”
ปัง——
ฉีฉียังไม่ทันพูดจบ เซี่ยอันน่าก็วางแก้วในมือลงบนโต๊ะอย่างเสียงดัง และส่งเสียงที่น่าเบื่อออกมา
ฉีฉีตกใจกับเสียงนี้ และมองไปที่อันน่าอย่างระวัง จากนั้นถึงเข้าใจและถามเธอไปว่า:“ อันน่า เธอกำลังโกรธเหรอ ?”
“ใช่”
“ทำไมเธอถึงโกรธเหรอ ?”
เซี่ยอันน่าหยุดอยู่ครู่หนึ่งและถามกลับไปว่า:“ เธอรู้ไหมว่าอวี๋เวยคนนั้นเป็นใคร ?”
“ใครเหรอ ?”
“แฟนเก่าของเสี่ยวอวี้หลิน คนที่ยังอยู่ในใจของเขา”
“ห๊ะ !?”
ฉีฉีตาขาวโพลน
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย !?
เธอนั่งอยู่บนโซฟา เซี่ยอันน่าพูดอย่างหงุดหงิดว่า:“ ฉันรู้ว่าเรื่องของเธอกับเสี่ยวอวี้หลินมันจบลงแล้ว แต่ในใจของฉันมันก็ยังแคร์อยู่ ฉันหวังว่ามันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ แต่เธอก็ยังเชิญเขามาเป็นแขกที่บ้านอีก”
ไม่คาดคิดเลยว่าอวี๋เวยยังจะมีสถานะแบบนี้ด้วย ฉีฉีเสียใจมากจึงพูดว่า:“ ฉันก็ไม่คาดคิดว่าเธอจะเป็นอวี๋เวยคนนั้น เห้อ ถ้าเจอครั้งหน้า ก็แค่ทำเป็นเหมือนไม่เห็นพอแล้ว”
“อย่างนั้นก็ไม่ได้ เธอไม่สามารถทำเป็นไม่เห็นได้หรอก อย่าทำอะไรน่าเกลียดแบบนั้น และอีกอย่าง เธอก็จะแต่งงานแล้ว หลังจากแต่งงานก็คงจะไม่อยู่ที่นี่แน่นอน อดทนอีกหน่อยเถอะ”
เซี่ยอันน่ายกมือขึ้นก่ายหน้าผาก เซี่ยอันน่ารู้สึกว่าตัวเองหงุดหงิดเกินไปแล้ว
ฉีฉีค่อยๆนั่งข้างๆเซี่ยอันน่า ฉีฉีพูดตำหนิตัวเองว่า:“ อันน่า ฉันขอโทษจริงๆนะ”
“ขอโทษทำไม ฉันนี่สิที่ผิด ฉันใจแคบเกินไป จนเห็นต้นหญ้าเป็นศัตรู”
“นี่ไม่ใช่ความใจแคบของเธอ คนก่อนสวยงามสง่าขนาดนั้น เปลี่ยนเป็นใครก็คงจะแคร์ เมื่อเธอรู้สึกว่าคำพูดของตัวเองไม่เหมาะสม ฉีฉีก็รีบโบกมือและพูดว่า เอ๊ะ ฉันไม่ใช่ว่าเธอไม่สวยนะ เพียงแต่อวี๋เวยสวยกว่านิดหน่อย”
โอ้พระเจ้า ฉันกำลังพูดล้อเล่นไร้สาระบ้าอะไรอยู่เนี่ย !
ฉีฉีแทบจะหมดหวัง เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ตัวเองจะโง่ขนาดนี้
เมื่อเห็นท่าทางที่หดหู่ของฉีฉ๊ เซี่ยอันน่าก็หัวเราะออกมา
หลังจากหายใจเข้าลึกๆเพื่อปรับอารมณ์แล้ว เซี่ยอันน่าก็ยกมือขึ้นไปวางบนไหล่ของฉีฉีและพูดว่า:“ พอแล้ว ฉันรู้ว่าเธอคิดจะพูดอะไร ช่างเถอะ ไม่ต้องไปคิดเรื่องของอวี๋เวยเลย อย่างไรซะมันก็ไม่
เกี่ยวข้องกับพวกเรา มาทำเรื่องของตัวเองให้ดีเถอะ”
“อืม ไม่ว่าอวี๋เวยจะดีแค่ไหน ก็กลายเป็นอดีตไปแล้ว เพียงแต่ เธอก็จะแต่งงานแล้ว ทำไมถึงมาหาเรื่องให้เธอไม่สบายใจด้วยล่ะ”
ประโยคนี้ ดูเป็นเรื่องราวมาก
แต่เซี่ยอันน่าไม่อยากจะคิดมาก และไม่กล้าที่จะคิดมากด้วย
เธอคิดว่าตัวเองจะหลบเลี่ยงไม่เห็นได้ ก็สามารถเป็นนกกระจอกเทศได้
แต่อวี๋เวยไม่ได้พูดเรื่องแต่งงานกับเซี่ยอันน่า วันรุ่งขึ้น เธอจึงมาหาถึงห้อง
เมื่อมองไปนอกประตู ก็เห็นอวี๋เวยในชุดนอน เซี่ยอันน่าไม่สามารถพูดได้ว่าในใจของเธอตอนนี้เป็นยังไง
เธอกอดอก อวี๋เวยแสดงสีหน้าขอโทษและพูดว่า:“ เอ่อ กุญแจบ้านของฉันถูกล็อคไว้ในบ้าน โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอาออกมา ตอนนี้ก็ไม่มีที่ไปด้วย จึงมาหาพวกคุณ พวกคุณ คงไม่รู้สึกว่าฉันวู่วามไปใช่ไหม ?”
เซี่ยอันน่ายิ้มจางๆและพูดว่า:“ ที่ไหนกัน พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกัน มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันสิ รีบเข้ามาเถอะ คุณอยากดื่มอะไรหน่อยไหม น้ำผลไม้ ?”
“โอเค”
อวี๋เวยนั่งอยู่บนโซฟามองไปรอบๆและพูดว่า:“ ทิวทัศน์ของคุณที่นี่ไม่เลวเลย มันถูกออกแบบมาด้วยความใส่ใจ”
เทน้ำผลไม้วางไว้หน้าอวี๋เวย เซี่ยอันน่าพูดว่า:“ ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ เสี่ยวอวี้หลินเป็นคนจัดการ”
“จริงเหรอ เมื่อก่อนเขาไม่ใช่คนละเอียดอ่อน ดูเหมือนว่าเพื่อคุณแล้ว เขาเปลี่ยนไปมาก”
“แต่ฉันก็มองไม่ออก ยังเหมือนคนที่ยังชอบแกล้งคนนั้นอยู่เลย”
รอยยิ้มระหว่างคิ้วดูลึกขึ้น อวี๋เวยพูดว่า:“ จริงๆแล้ว ฉันอิจฉาคุณมาก สามารถอยู่ด้วยกันกับคนที่ชอบ และทำในสิ่งที่ชอบได้”
“คุณอวี๋เวยก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ ?”
อวี๋เวยถอนหายใจเบาๆด้วยอารมณ์เล็กน้อยและพูดว่า:“ ฉันไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าฉันจะมีภูมิหลังโดดเด่น แต่ด้วยเหตุนี้ฉันจึงสูญเสียอิสระภาพไป แม้กระทั่งคนที่จะแต่งงานด้วย ฉันยังควบคุมไม่ได้เลย ไม่อย่างนั้น ฉันกับเสี่ยวอวี้หลินก็คงจะไม่.......”
อวี๋เวยจงใจลากน้ำเสียงของธอ จากนั้นก็โบกมือและพูดว่า:“ ช่างเถอะช่างเถอะ มันเป็นเรื่องในอดีต ไม่พูดแล้ว ตอนนี้ดูพวกคุณมีความสุขมาก ฉันก็ดีใจแทนพวกคุณ”
เซี่ยอันน่าดูออกว่า อวี๋เวยมาที่นี่เพื่อจะมาป้องกัน
การมีอยู่ของเธอ ก็คือทำให้เซี่ยอันน่ารู้ว่าระหว่างพวกเธอมีช่องว่าง รู้ว่า เธอเทียบกับอดีตของพวกเขาไม่ได้
เซี่ยอันน่าเหมือนบอกตัวเองอยู่ว่า อย่าสนใจ
แต่เธอทำไม่ได้ ทำไม่ได้จริงๆ
เซี่ยอันน่าเงียบไป อวี๋เวยก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของเธอสำเร็จแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดมาก และทำให้ความมั่นใจของเซี่ยอันน่าลดลง
ในความเงียบ ฉีฉีก็วิ่งเข้ามาและพูดว่า:“ คุณอวี๋ ฉันโทรไปหาศูนย์ดูแลมา พวกเขาบอกว่า อีกเดี๋ยวจะส่งคนจากบริษัทปลดล็อคมา รอสักครู่ก็เสร็จแล้ว”
“อืม ขอบคุณมากค่ะ”
สิ้นเสียง ฉีฉีก็ไม่รู้จะพูดอะไร ฉากในนั้นจึงเงียบลงอีกครั้ง
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงสองคนที่อยู่ตรงข้าม อวี๋เวยก็ยิ้มและพูดว่า:“ พวกคุณทั้งสองเหมือนจะอดกลั้นมาก”
ฉีฉีส่ายหัวและพูดว่า:“ ไม่นะ เป็นคุณที่ส่องสว่างเกินไป พวกเราไม่รู้ว่าจะจัดการกับตัวเองยังไงดี”
อวี๋เวยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า:“ คุณนี่ก็แปลกนะ อยู่ด้วยกันกับคุณจะต้องสนุกมากแน่ๆ”
“ฮ่าฮ่า ที่ไหนกัน ฉันก็แค่พูดพล่อยๆไปวันๆ มีแค่อันน่าที่ทนฉันได้”
“คุณเจียมเนื้อเจียมตัวเกินไปแล้ว ฉันหวังว่าจะมีเพื่อนร่วมห้องอย่างคุณอยู่กับฉันนะ แบบนี้ ชีวิตในทุกๆวันก็จะยิ่งน่าสนใจขึ้น”
หลังจากพูดแบบนี้ อวี๋เวยก็เหมือนจะคิดอะไรได้ แววตาเป็นประกายและพูดว่า:“ ใช่แล้ว ฉันตรงนั้นสามารถหาเพื่อนร่วมห้องได้ ฉีฉี ย้ายมาอยู่กับฉัน เป็นไง ?”
“เอ่อ........”
คำพูดที่ครึ่งๆกลางของอวี๋เวย ทำให้ฉีฉีรู้สึกแย่ และก็ยังทำให้สีหน้าของเซี่ยอันน่าเปลี่ยนไป
เก่งมาก ดูท่านี้ คงไม่เพียงแต่จะแย่งแฟน แม้แต่เพื่อนก็จะแย่งไป
ผู้หญิงคนนี้ อยากจะรีบฆ่าทิ้งไปจริงๆ
เซี่ยอันน่าลดคิ้วลง ใบหน้าของเธอดูเหมือนจะยิ้ม
ฉีฉีโบกมือและพูดกับอวี๋เวยว่า:“ อย่าล้อเล่นเลย ฉันมีเรื่องแย่ตั้งมากมาย ที่คุณอวี๋ยังไม่เคยเจอ เมื่อคุณเจอแล้ว คุณไม่สามารถทนได้แน่นอน”
“คุณเซี่ยสามารถทนได้ ฉันก็ต้องทำได้”
ในขณะที่อวี๋เวยพูดคำนี้ออกมา น้ำเสียงก็ดูภูมิใจและแฝงไปด้วยความรู้สึก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...