วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 489

เซี่ยอันน่าไม่ได้สนใจบุญคุณความแค้นของต้วนจื่ออิ๋ง เธอสนใจเพียงแค่อาการของต้วนอีเหยา

เงยหน้ามองเสี่ยวอวี้หลิน เซี่ยอันน่าใช้น้ำเสียงออดอ้อนเอ่ย: “ฉันอยากไปเยี่ยมพี่อีเหยา”

สายตาที่ออดอ้อนของเซี่ยอันน่าทำให้เสี่ยวอวี้หลินไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้ จึงพยักหน้าและพูดว่า: “โอเค ฉันไปหารถเข็นก่อน เธอรอเดี๋ยวนะ”

ต้วนอีเหยาอยู่ห้องข้างๆเซี่ยอันน่า ขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเงียบๆด้วยใบหน้าซีดราวกับกระดาษ

ใบหน้าเต็มไปด้วยความกล้าหาญ ขณะเดียวกันกลับทำให้เซี่ยอันน่ากลัว ดวงตาที่หลับสนิทอย่างเงียบสงบนั้นทำให้ผู้คนไม่อาจเหลือบมองสีหน้านั้นได้

เมื่อมองต้วนอีเหยาอย่างนี้แล้ว เซี่ยอันน่ารู้สึกแตกสลายเป็นอย่างมาก

ราวกับเพิ่งได้ออกจากร้านของหวาน ได้พูดคุยเกี่ยวกับทฤษฎีแนวทางชีวิตอย่างเต็มที่และขณะเดียวกันก็กลายเป็นวิถีแห่งความเป็นความตาย

เซี่ยอันน่าร้องไห้สะอึกสะอื้น เธอไม่อาจห้ามน้ำตาให้หยุดไหลได้: “พี่อีเหยา…..”

เย่จิงเหยียนอยู่เฝ้ามาหลายคืนแล้วจนดวงตาของเขาแดง

เมื่อมองร่างของต้วนอีเหยา แววตาของเขามีความเจ็บปวด

เสี่ยวอวี้หลินตบที่บ่าเย่จิงเหยียนเบาๆและพูดว่า: “มีอันน่าเฝ้าอยู่ นายไปพักสักหน่อยเถอะ”

เย่จิงเหยียนไม่ได้พูดอะไรมาก เขาหันหลังเดินตามเสี่ยวอวี้หลินไปที่ชั้นดาดฟ้า

เสี่ยวอวี้หลินยื่นบุหรี่ให้เย่จิงเหยียน

จุดไฟและพ่นควันออกมาอย่างแผ่วเบา แววตาของเย่จิงเหยียนเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและกลุ้มใจ

“คิดวิธีจัดการต้วนจื่ออิ๋งแล้วหรือยัง?”

“ก่อนหน้านี้ ยังคิดถึงเรื่องราวในอดีตและให้ทางรอดกับเธอ แต่ตอนนี้ ไม่คิดเลยว่าเธอจะกล้าทำอย่างนี้กับอีเหยา ฉันไม่ให้อภัยเธออีกแน่

เสียงของเย่จิงเหยียนเรียบนิ่ง แต่เสี่ยวอวี้หลินรู้ ต้วนจื่ออิ๋งได้สัมผัสต่อมโมโหของเย่จิงเหยียนเข้าแล้ว ครั้งนี้ไม่มีอะไรจบลงด้วยดีอย่างแน่นอน

“ฉันยังคิดอยู่เลย ถ้านายไม่ลงมือ ฉันก็ต้องคิดวิธีรับมือด้วยตัวเอง ในเมื่อนายลงมือเอง งั้นฉันก็ไม่ต้องห่วงอะไร”

เพราะเป็นผลทำให้เซี่ยอันน่าบาดเจ็บ แน่นอนว่าเสี่ยวอวี้หลินไม่อาจนิ่งดูดายได้

แต่เมื่อเทียบกับเย่จิงเหยียนแล้วเขายังถือว่าโชคดี

ถึงอย่างไร เซี่ยอันน่าก็พ้นขีดอันตรายและฟื้นขึ้นมาแล้ว

แต่ต้วนอีเหยา……..

เมื่อมองมาทางห้องผู้ป่วย เสี่ยวอวี้หลินก็ได้แต่ถอนหายใจ

เสี่ยวอวี้หลินเอื้อมมือไปตบบ่าเซี่ยอันน่าเบาๆและเอ่ยว่า: “วางใจเถอะ อีเหยาต้องฟื้นขึ้นมา”

“เธอต้องฝ่าอันตรายมากมายขนาดนั้น เรื่องเล็กๆอย่างนี้แน่นอนว่ามันไม่คณามือเธอหรอก เพียงแค่...พูดว่าจะดูแลเธอให้ดี แต่ฉันทำอะไรลงไปทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันนี่มันน่าขยะแขยงจริงๆ!”

ใบหน้าของเย่จิงเหยียนเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและยกมือขึ้นทุบลงบนราวจับ

“โลกมันคาดเดาไม่ได้ นายอย่าโทษตัวเองมากไป ฉันคิดนะ อีเหยาเองก็ไม่อยากเห็นนายหดหู่อย่างนี้หรอก”

เย่จิงเหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ก็ฟื้นคืนความเยือกเย็นและฉลาดสุขุมแล้ว

“โอเค พวกเรากลับไปกันเถอะ”

กลับมาที่ห้องผู้ป่วยใหม่อีกครั้ง ทั้งสองเห็นเซี่ยอันน่านั่งอยู่ข้างเตียงและยังคงมีน้ำตาคลออยู่

เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งร้องไห้

เมื่อเห็นคนกลับเข้ามา เซี่ยอันน่าก็รีบเช็ดน้ำตา

เสี่ยวอวี้หลินโอบเข้าที่ไหล่ของเซี่ยอันน่าด้วยความรักและสงสารแล้วปลอบเธอยู่เงียบๆ

เซี่ยอันน่าเงยหน้ามาพูดว่า: “ฉันคิดว่าพวกคุณต้องจัดการกับเรื่องต่างๆมากมาย ถ้าอย่างนั้นเมื่อพวกคุณไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล ให้ฉันมาดูแลพี่อีเหยาเพื่อเป็นการขอโทษเถอะนะ”

“แต่เธอก็ได้รับบาดเจ็บนะ ยังไม่หายดีเลย”

“แผลฉันนิดเดียวเอง ไม่เป็นไร อีกทั้งคุณหมอก็บอกให้เคลื่อนไหวให้มากๆ ดีต่อการฟื้นตัวของแผลฉันด้วย”

เสี่ยวอวี้หลินอยากที่จะปฏิเสธข้อเสนอนี้ แต่เขารู้ว่าเซี่ยอันน่าอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อต้วนอีเหยาและมันจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นบ้าง

เมื่อมองไปที่เย่จิงเหยียนเห็นเขาไม่ได้คัดค้านอะไร เสี่ยวอวี้หลินจึงพยักหน้าและพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า: “งั้นก็เอางั้นเถอะ”

เมื่อได้รับอนุญาต เซี่ยอันน่าก็ยิ้มออกมาบางๆ

ต่อจากนี้ เมื่อเซี่ยอันน่าไม่มีเรื่องอะไร เธอก็จะวิ่งมาหาต้วนอีเหยาที่นี่อยู่คุยเป็นเพื่อนกับเธอ

แม้ต้วนอีเหยาจะไม่ได้ยิน แต่เซี่ยอันน่าตั้งมั่นที่จะทำมัน

วันนี้ เซี่ยอันน่าทานยาแล้วก็เตรียมไปห้องผู้ป่วยที่อยู่ข้างๆ

พอเปิดประตู เซี่ยอันน่าก็เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคย

“ชูวเสวีย?”

เมื่อได้ยินเสียง เย่ชูวเสวียก็หันกลับมามองด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

“ฉันอยากรีบมาเยี่ยมพวกเธอ แต่ไอ้หนานกงเจาตาบ้านั้น บอกว่าฉันอารมณ์อ่อนไหวเกินไปมันจะส่งผลต่อการพักฟื้นของพวกเธอ จะเป็นจะตายยังไงก็ไม่ให้ฉันมา วันนี้ไม่ง่ายเลยที่เขาจะปล่อยให้มาอย่างสบายใจ ฉันถึงเพิ่งจะหาเวลามาเยี่ยมพวกเธอได้”

เมื่อหันไปมองต้วนอีเหยาตาของเย่ชูวเสวียก็แดงขึ้นอีกครั้ง

“โอเค แล้วเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ต้วนจื่ออิ๋งนั่นสมควรที่จะถูกหั่นเป็นชิ้นๆจริง!”

เซี่นอันน่าเข้าใจความรู้สึกเย่ชูวเสวียมากๆ

ตอนที่เธอเพิ่งฟื้นก็โทษแต่คนอื่น

แต่ในเวลานี้ เธอไม่อยากเสียเวลาอันมีค่าเอาตัวไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น

เมื่อวางดอกไม้ลงในแจกัน เซี่ยอันน่าที่มีสีหน้าเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นว่า: “การด่าคนอื่นในตอนนี้ ยังไงก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้แค่หวังว่าต้วนอีเหยาจะฟื้นขึ้นมา คุณหมอบอกว่า พี่อีเหยามีเลือดคั่งในสมอง ให้มันซึมหายไปอีกไม่มากเดี๋ยวเธอก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว ดังนั้นพวกเราต้องเข้มแข็งอีกหน่อย ตอนเธอฟื้นขึ้นไม่อยากให้เธอต้องมาเห็นเราร้องไห้”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ เย่ชูวเสวียก็หยุดร้องไห้และเอ่ยว่า: “อันน่า เธอเข้มแข็งมาก”

แววตามีความกลัดกลุ้มอยู่เล็กน้อย เซี่ยอันน่าเอ่ย: “ อ่อนแอไปก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะทำให้ศัตรูคิดจะรังแกเธอและจะรังแกเธออย่างไรก็ได้”

“อันน่า เธอไปเจอกับอะไรมาเหรอ?”

เซี่ยอันน่าเหม่อไปพักหนึ่งก่อนหันมายิ้มและเอ่ยว่า: “ไม่มีอะไร ก็แค่พูดออกไปเรื่อยแค่นั้น”

“พวกเธอเข้มแข็งอย่างนี้ ฉันจะทำตัวแย่ไม่ได้” เย่ชูวเสวียขยี้ตาแล้วตบเข้าที่แก้มของตัวเองและพูดว่า “พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันจะมาโรงพยาบาลและเปลี่ยนเวรกับเธอเอง พวกเรามาดูแลพี่อีเหยาด้วยกันนะ”

“โอเค”

เย่ชูวเสวียเพิ่งร้องไห้เสร็จ ตอนนี้ก็สงบลงแล้ว เธอเพิ่งเห็นว่าบนมือของเซี่ยอันน่าถือสมุดสีขาวอยู่

“นั่นอะไรเหรอ?”

“อันนี้เหรอ” เซี่ยอันน่าชูและแกว่งไปมาพร้อมเอ่ยว่า “เป็นบทละครน่ะ ผู้จัดการบอกว่าช่วงหลังของปีมีบทละครใหม่ให้ฉันได้ทำน่ะ พอดีฉันถือโอกาสในตอนนี้มาศึกษาไว้สักหน่อยน่ะ”

“อันน่า เธอไม่ใช่ว่ายังเป็นคนป่วยหรือไง ไม่ต้องพยายามขนาดนี้หรอก”

“จะป่วยหรือไม่มันไม่มีผลกับความพยายามของฉัน อยากทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนฉันจะตั้งใจทำมัน”

มองเซี่ยอันน่าที่ยิ้มบางๆ เย่ชูวเสวียจึงพูดว่า: “รู้สึกว่าเธอจะดูเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมนะ”

เซี่ยอันน่ามองอีเหยาที่อยู่บนเตียงและเอ่ยว่า: “เจออะไรมามากมายขนาดนั้น ถ้าฉันยังเป็นเซี่ยอันน่าที่เอาแต่ไม่มั่นใจ นั่นก็คงรู้สึกผิดมากที่พี่ยีเหยาอุส่าช่วยชีวิตฉัน

เย่ชูวเสวียเอื้อมมือไปจับมือที่เย็นขึ้นมาเล็กน้อยของเซี่ยอันน่าและเอ่ยว่า “ดังนั้น พวกเรายิ่งต้องทำให้มันดีขึ้น”

“อืม แน่นอน!”

เซี่ยอันน่าและเย่ชูวเสวียยิ้มและมอบพลังให้กันและกัน

ประจวบกับมีคนมาเคาะประตูพอดี

“คุณเซี่ย มีคนมาหาคุณ รออยู่ที่ห้องผู้ป่วยของคุณน่ะ”

“หาฉัน?”

เซี่นอันน่าคิดและแอบสงสัยว่าจะใช่ฉีฉีมาหรือเปล่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ