วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 488

“ให้ตายเถอะ คนบ้านนี้น่าสงสารจริงๆ ชีวิตดีๆต้องมาถูกลูกสาวตัวเองก่อกวน”

“ได้ยินมาว่า คุณชายใหญ่บ้านนั้นประสบอุบัติเหตุ ภรรยาเขาก็นอนเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง พวกเขาเป็นคนดีมาก ทำไมพวกเขาย่ำแย่มาถึงจุดนี้ได้กันนะ?”

“หรือไม่ใช่เพราะลูกสาวตัวดีเอาหายนะมาให้พวกเขา ถ้าให้ฉันคิด ลูกสาวคนนั้นเป็นคนก่อเรื่องแน่ๆ ถึงได้เปลี่ยนชีวิตดีๆให้กลายเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้”

เสียงพูดคุยกันของคนหลายคนดังขึ้นเรื่อยๆ จนต้วนจื่ออิ๋งทนต่อไปไม่ไหว

เธอลากกระเป๋าเดินทางของตัวเองรีบเดินออกมา เมื่อวิ่งมาถึงที่ที่ไม่มีใครอยู่ก็เริ่มร้องไห้

ต้วนจื่ออิ๋งร้องไห้หมดแรงจนเธอยืนไม่ไหว

มองท้องฟ้าที่อยู่แสนไกล ต้วนจื่ออิ๋งราวกับได้เห็นหน้าของพ่อที่รักและเอ็นดู

เขารักและทะนุถนอมต้วนจื่ออิ๋งมาโดยตลอดและหัวใจของต้วนจื่ออิ๋งก็เป็นดังความหวัง

แต่ตอนนี้ ความเชื่อใจได้พังทลายไม่เป็นท่า ต้วนจื่ออิ๋งหวาดกลัวไปหมด

“ทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้ ทำไม!”

เจ้าหน้าที่บอกให้เธอแก้ไขตัวเองใหม่

ครั้งสุดท้ายที่พ่อเจอกับเธอ ก็ให้เธอพิจารณาตัวเองให้ดี

ตอนนี้เธอรู้ตัวแล้วว่าตัวเองทำผิดและยอมที่จะแก้ไข แต่กลับไม่มีใครมองเห็นว่าเธอพร้อมปรับตัว

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะขอเลวต่อไป

ให้คนที่เคยทำร้ายเธอและคนในครอบครัวเธอตายไปทั้งหมด!

……

เย่ชูวเสวียยกอาหารว่างเดินเข้ามา เมื่อเห็นว่าที่นั่งว่างจึงเอ่ยถาม: “อ้าว เสี่ยวอวี้หลินล่ะ?”

“ไปแล้ว”

“รีบร้อนอะไรขนาดนั้น? ยังไม่ทันได้ชิมของหวานที่ฉันเพิ่งทำขึ้นมาใหม่เลย”

เซี่ยอันน่าจิบน้ำผลไม้และพูดติดตลกว่า: “คนบ้าระห่ำอย่างเขาจะรู้รสอะไร มีแต่คอยหาเรื่องก่อกวน”

หลังจากได้ยินความคิดเห็นนี้ เย่ชูวเสวียถึงกับกลั้นหัวเราะไม่ไหว ทั้งหัวเราะและพูดว่า: “โธ่ ในโลกนี้มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่กล้าด่าเขาอย่างนี้”

ต้วนอีเหยาที่ยืนอยู่ข้างหลังเย่ชูวเสวียหยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมาและพูดว่า: “เอาล่ะ สายแล้วพวกเราไปกันเถอะ”

“อย่าเพิ่งรีบไปสิ ยังไม่ได้ทานของว่างพวกนี้เลยนะ”

“ฉันลดน้ำหนักน่ะเลยไม่ทาน” พูดแล้ว ต้วนอีเหยาก็มองไปยังเซี่ยอันน่าและ “อันน่า เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอ”

“ไม่รบกวนหรอกค่ะ”

“ไม่เป็นไร ทางผ่านพอดี”

เมื่อเห็นทั้งสองตกลงกันอย่างสบายใจได้แล้ว เย่ชูวเสวียก็ไม่ได้พูดอะไร

เฮ้อ ขนมของเธอไม่น่าสนใจงั้นเหรอ?

ขณะนั่งอยู่บนรถ เซี่ยอันน่ามองหน้าด้านข้างของต้วนอีเหยา อยู่ๆก็นึกถึงเย่ชูวเสวียที่พูดถึงความคิดเห็นของเธอขึ้นมา

เซี่ยอันน่าเม้มปากอย่างลังเลใจก่อนเอ่ยถามว่า: “พี่อีเหยา...คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าฉันจะเรียกคุณอย่างนี้?”

“ไม่อยู่แล้ว”

“พี่คิดว่าฉันควรคืนดีกับเสี่ยวอวี้หลินไหม?”

ต้วนอีเหยาเอ่ยด้วยสีหน้าปกติ: “เรื่องนี้ ฉันจะคิดอย่างไรก็ไม่มีค่าอยู่ดี สิ่งสำคัญอยู่ที่เธอ”

“แต่ถ้าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับพี่ พี่จะจัดการยังไง?”

“ทำตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น สักวันเธอจะได้ปรากฏตัวขึ้นในที่ที่เธอควรอยู่อย่างสง่าผ่าเผย นั่นหมายความว่า ตำแหน่งและชื่อเสียงของเธอจะต้องเหมาะสมกับเสี่ยวอวี้หลินมากขึ้นและไม่มีใครพูดได้ว่าเธอใฝ่สูง”

คำพูดของต้วนอีเหยา ทำให้เซี่ยอันน่าเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง

แต่ไม่นานความท้อแท้ก็กลับมาอีกครั้ง

เธอลดสายตาลงและพูดว่า: “พี่อีเหยา สิ่งที่พี่พูดเป็นสิ่งที่ฉันกำลังคิดอยู่เหมือนกัน แต่...เปลี่ยนมาเข้มแข็งเหมือนเสี่ยวอวี้หลิน ดูเหมือนจะเป็นงานยากที่ไม่อาจทำสำเร็จได้ในชีวิตนี้”

“ฉันว่าเธอกำลังเข้าใจความหมายของฉันผิดนะ’

ใบหน้าของเซี่ยอันน่าอันน่าเต็มไปด้วยความแปลกใจ “ผิดตรงไหนคะ?”

“ฉันหมายถึงให้แข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่การมีชื่อเสียงจอมปลอมหรือเป็นการก่อตั้งบริษัทและแข่งขันกับเสี่ยวอวี้หลิน แต่เธอต้องทำความฝันให้เป็นจริงและไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ”

“ตอนนี้เธอกำลังพยายามมุ่งไปทางนั้นอย่างหนักและผลลัพธ์นั้นมันออกมาดีมาก เพราะเธอพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว อีกไม่นานเธอก็จะกลายเป็นสาวน้อยอันดับหนึ่งของประเทศ ถึงเวลานั้นแล้วความฝันของเธอจะเป็นจริง ในใจก็จะแข็งแกร่งและสุขใจเป็นอย่างมาก”

“เธอที่เป็นเช่นนี้ได้จะไม่มีทางพ่ายแพ้ต่อคนอื่น เพราะคนที่เธอจะพ่ายแพ้ได้มีแค่ตัวเธอเอง”

ฟังคำพูดของต้วนอีเหยาแล้ว เซี่ยอันน่าก็รู้สึกสะเทือนอยู่ในใจ

บางสิ่งของก้นบึ้งในหัวใจนั้นค่อยๆละลายหายไป

และเกราะแกร่งนั้นหมุนวนมาห่อหุ้มจิตใจเซี่ยอันน่าไว้อย่างหนาแน่นมากขึ้น

เซี่ยอันน่าอมยิ้มและมองไปยังต้วนอีเหยา “พี่อีเหยา ฟังพี่พูดแล้วฉันรู้สึกว่าอยู่ๆชีวิตก็ดูมีหนทางมากมาย และฉันก็ไม่สับสนอีกต่อไปแล้ว เมื่อรู้ว่าในอนาคตต้องพยายามไปในทิศทางไหน”

“ฉันดีใจนะที่ได้ให้คำแนะนำแนวทางการใช้ชีวิตกับเธอ หวังว่าสิ่งที่ฉันพูดกับเธอไปจะมีประโยชน์นะ”

“มีประโยชน์แน่นอนค่ะ อย่างน้อยที่สุด ตอนนี้ฉันไม่วนลูปอยู่ที่เดิมอีกแล้ว และรู้ตัวว่าฉันควรจะทำอย่างไร”

“จริงๆแล้ว คำพูดของฉันเป็นเพียงแค่ผลของคำแนะนำ ในความเป็นจริง หลังจากผ่านไปสองสามวัน เธอก็จะคิดออกได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่ต้องการใครสักคนคอยผลักดันเธออยู่ข้างหลัง”

“ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ก็ต้องขอบคุณพี่มากๆเลยนะค ชูวเสวียพูดถูกพี่เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบมากๆ ได้รู้จักกับพี่เป็นโชคดีของชีวิตฉันจริงๆ”

“สมบูรณ์แบบ?” อยู่ๆต้วนอีเหยาก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงขมขื่น “บนโลกนี้จะมีคนที่สมบูรณ์แบบที่ไหนกันล่ะ ทุกคนไม่ว่าจะมีเสน่ห์มากแค่ไหนก็มีความอึดอัดใจที่ยากจะอธิบายกันทั้งนั้น”

ขณะที่ต้วนอีเหยากำลังพูด สีหน้าของต้วนอีเหยาก็ปรากฏความเศร้าออกมา ดูแล้วไม่เข้ากันเลยสักนิด

เซี่ยอันน่าอยากจะถามอีกแต่พอคิดอีกที ถ้าทำแบบนั้นก็จะดูล่วงเกินมากเกินไป จึงกลืนสิ่งที่อยากพูดลง

ขณะรถเลี้ยวโค้ง ต้วนอีเหยากำลังเตรียมข้ามสะพาน แต่กลับพบรถสีดำหนึ่งคันแล่นเข้ามาด้วยความเร็วสูง

สัญชาตญาณบอกกับต้วนอีเหยาว่าบุคคลนั้นอันตรายมาก ทันทีที่หรี่ตามอง ต้วนอีเหยาจึงเปลี่ยนใจลอดใต้สะพานและเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น

แต่รถที่อยู่ด้านหลังไล่ตามไม่เลิกพุ่งเข้ามาอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น รถของต้วนอีเหยาถูกกระแทกอย่างแรง

“ระวัง!”

ต้วนอีเหยายื่นมือออกมาเพื่อปกป้องศีรษะของเซี่ยอันน่า ขณะเดียวกันก็ควบคุมพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียวพร้อมกับคิ้วที่ขมวดแน่น

เซี่ยอันน่าตกใจเงยหน้าหันมองไปข้างหลังด้วยสีหน้าซีดเซียว

รถคันสีดำที่อยู่ด้านหลัง ข้างหน้ายุบเข้าไปแล้ว แต่อีกฝ่ายยังคงไล่ตามไม่เลิก

“นั่นมันคนบ้าหรือเปล่า ทำไมต้องชนรถพวกเราด้วย?”

“เธอเป็นคนบ้าแน่ๆ และเป็นคนบ้าที่รนหาที่ตาย!”

ต้วนอีเหยามองคนขับรถ เป็นต้วนจื่ออิ๋งที่หายตัวไปได้สักพักหนึ่ง

ดูท่า ชีวิตในคุกคงไม่อาจทำให้ต้วนจื่ออิ๋งสำนึกได้ กลับกันยิ่งทำให้กำเริบหนักขึ้น ถึงได้ยังทำเรื่องบ้าๆอย่างนี้อีก

คนประเภทนี้ ไม่ผิดคาดจริงๆไม่คุ้มค่าให้สงสาร!

ต้วนอีเหยาหรี่ตาลงเตรียมให้ต้วนจื่ออิ๋งได้เห็นความร้ายกาจสักหน่อย

ต้วนอีเหยาเลี้ยวรถกะทันหันเพื่อเปลี่ยนทิศทางของหัวรถ

แต่เมื่อต้วนอีเหยาอยู่ใกล้ต้วนจื่ออิ๋ง เธอก็เห็นเด็กผู้หญิงกำลังร้องไห้ยืนอยู่ระหว่างรถทั้งสองคัน!

เด็กคนนั้นตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงยืนร้องไห้อยู่บนถนน

แม่ของเด็กฝ่าเข้ามาเพื่อช่วยเธอ แต่กลับถูกคนอื่นขวางเอาไว้

ช่วงวิกฤตของเหตุการณ์นี้ ต้วนอีเหยาทำได้เพียงกัดฟันกรอดด้วยความโกรธและหันไปรอบๆ

ต้วนจื่ออิ๋งกลับคว้าเอาโอกาสนี้ ตรงดิ่งปะทะเข้ากับต้วนอีเหยา

และคราวนี้ ด้านหน้าของต้วนอีเหยาเป็นเสาเข็มสะพานขนาดใหญ่

รถพุ่งชนเข้าอย่างแรง เพราะแรงกระแทกแรงมากรถจึงหักโค้งไปด้านข้าง

และที่นั่น คือน้ำทะเลสีเขียวมรกต….

ตูม——

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ