วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 65

ไม่ทันตั้งตัวก็มีเสียงดังขึ้นมาจากข้างหลัง ชายตาม่วงมีท่าทีขึงขังและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า " ใครอนุญาตให้เธอเข้ามา?ออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน "

ในขณะเดียวกันดวงตาสีม่วงที่ชวนน่าหลงใหลของเขา ก็สัมผัสได้ถึงพลังที่น่าพิศวง

มู่เวยเวยตกใจสั่นกับเสียงของเขา แต่เธอก็ยังคงอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน เธอแค่ต้องการรู้เรื่องพวกนี้ ไม่อย่างนั้นเธอต้องคิดว่าตัวเองเป็นบ้าไปแล้ว !

"ฉันไม่ไป คุณคือใครกันแน่ ?" มู่เวยเวยถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ปัง------"ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังมาจากข้างหลัง

มู่เวยเวยหันกลับไปดู เธอตกใจมากจนขาอ่อนแรง ประตูที่เธอเห็นมันเปิดอยู่ จู่ๆมันก็ปิดไป

นี่.....

ทำไมอยู่ๆประตูถึงปิดลง ?

ใบหน้าของเธอซีดลงและขนลุกขึ้นมา......

เมื่อเห็นสีหน้าที่หวาดกลัวของเธอ ชายตาสีม่วงมองด้วยสีหน้าเศร้าหมองพลางพูดอย่างเย็นชาว่า “ เธอสมควรได้รับ ”

มู่เวยเวยตกใจกลัวแทบตาย หลังจากที่เธอได้ยินเขา สติเธอก็กลับมาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เหมือนกับมีใครบางคนเคยใช้กับเธอ

ยังไงก็ตาม อยู่ๆมู่เวยเวยก็นึกขึ้นมาได้ คำพูดนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่คล้ายกับเย่ฉ่าวเฉิน ?

"คุณเป็นใคร ? ทำไมถึงปรากฎตัวอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเย่ คุณมีจุดประสงค์อะไรแอบแฝง ?" มู่เวยเวยเกิดคำถามขึ้นมากมาย เธอคิดและคาดเดาไปต่างๆ

อย่างเช่น เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเย่ฉ่าวเฉิน.....

หรือว่าเขามีความขัดแย้งกับตระกุลเย่.....

เขา......เหอะ หรือว่าเขาจะเป็นคนที่มาจากดาวอื่น.....

ใบหน้าของชายตาม่วงเต็มไปด้วยอารมณ์เคียดแค้นและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "เธอรู้หรือไม่ว่ายิ่งเธอรู้มากเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งตายเร็วขึ้น ในเมื่อเธอรู้ความลับของฉันแล้ว เธอก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนฉัน....."

มู่เวยเวยจ้องไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ดวงตาสีม่วงที่ชวนให้หลงใหล เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา มันทำให้บรรยากาศรอบๆดูเย็นลง มันทำให้เธอรู้สึกขนลุกขึ้นมา

ผู้ชายคนนั้น......น่ากลัวจริงๆ

แค่มองเฉยๆ ก็ทำให้ขาของเธอนั้นอ่อนแรง.....

มู่เวยเวยกำหมัดแน่นและพูดอย่างใจเย็นว่า "ฉันไม่กลัวคุณหรอก ฉันจะเรียกเย่ฉ่าวเฉินมาที่นี่ ฉันจะดูซิ ครั้งนี้เย่ฉ่าวเฉินยังจะว่าไงอีก !"

พูดจบ มู่เวยเวยก็หันกลับมา เดินกลับไปที่ประตู

ทันใดนั้นก็มีเงาผ่านข้างหลังมาขวางทางข้างหน้าเธอไว้

"กรี๊ดดดดดด.....ผะ ผี !!" มู่เวยเวยหลับตาปี๋ตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ

"หุบปาก !!"เสียงของชายคนนั้นพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น

มู่เวยเวยตกใจจนรีบยกมือขึ้นปิดปาก ค่อยๆลืมตาขึ้นมา เธอจ้องมองไปที่ชายตรงหน้า ดวงตาสีม่วงคู่นั้นดูลึกลับราวกับว่าจะดูดวิญญาณคนได้

ในตอนนี้ มู่เวยเวยอดไม่ได้ที่จะคิดถึงแวมไพร์ในการ์ตูน

ดวงตาของพวกเขาจะเปล่งประกายประหลาดเช่นนี้

"คุณไม่ใช่คนใช่ไหม ? คุณเป็นแวมไพร์หรือเปล่า ? "มู่เวยเวยสูดหายใจเข้าสองสามครั้ง ก่อนจะถามด้วยความตื่นตระหนกพลางเดินถอยกลับไป

ดวงตาสีม่วงเลิกคิ้วขึ้น และพูดกลับไปว่า "ฉันไม่ใช่ผี แต่ฉันเป็นเซียน !"

เซียน ?

ให้ตายเถอะ นี่คิดว่าถ่ายหนังอยู่รึไง ?

มู่เวยเวยกระตุกยิ้มมุมปาก พลางพูดติดตลกด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความปรานี "พี่ชาย ถึงแม้ว่าคุณจะถามใครสักคนเพื่อหาเหตุผลที่น่าเชื่อถือ?คุณพูดว่าคุณเป็นเซียน งั้นคุณก็ต้องอยู่บนสวรรค์สิ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?"

ชายตาม่วงไม่ได้พูดอะไร มู่เวยเวยเห็นท่าทีแบบนั้น จึงพูดต่อไปว่า "ฉันคิดว่าคุณเป็นผีที่ยังไม่ได้ไปเกิด

คุณไม่รู้สาเหตุการตายหรือไม่ก็ยังมีอะไรที่ทำให้คุณไปไหนยังไม่ได้ ฉันพูดถูกใช่ไหม ?"

ชายตาม่วงไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา เขาจ้องมองไปที่เธอพลางพูดหัวเราะออกมาว่า "ข้อสันนิษฐานของเธออยู่ตรงไหนกัน?"

มู่เวยเวยชี้ไปที่พื้น พร้อมพูดด้วยเสียงที่แน่วแน่ว่า "ถ้าเป็นคนจะต้องมีเงาในตอนกลางคืน แต่นี่คุณไม่มี งั้นแสดงว่าคุณเป็นผี !"

"หึ....".ชายตาม่วงกะตุกริมฝีปากเล็กน้อย พลางพูดอย่างแผ่วเบาว่า "ตรรกะความคิดของเธอ....ช่างประหลาด....โง่เขลามาก !"

"ถ้างั้นคุณบอกฉันมาตอนนี้ คุณ....."มู่เวยเวยยังพูดไม่จบ กำลังจะถามบางอย่าง อยู่ๆเธอก็ได้ยินน้ำเสียงที่กังวลของคุณอาหวังดังออกมาจากข้างนอก เขามาที่นี่เพราะได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว

"คุณหนู คุณหนู....."

มู่เวยเวยมองไปที่ชายตาม่วง ในขณะเดียวกันเสียงของคุณอาหวังก็ดังเข้ามาเรื่อยๆ คงไม่ดีแน่ถ้าคุณอาหวังเห็นเธอเข้ามาในเขตต้องห้ามนี้

"ฉันต้องไปแล้ว ไว้มีเวลาเราค่อยคุยกัน "มู่เวยเวยพูดพลางข้ามเขาไปที่ประตูและรีบวิ่งลงไปข้างล่าง

บนชั้นสอง ฉันเห็นคุณอาหวังยืนเคาะประตูเรียกฉันอยู่หน้าห้อง

"คุณอาหวัง ฉันอยู่นี่ "มู่เวยเวยพูดพลางเอื้อมมือไปแตะเขา

คุณอาหวังหันกลับมามองเธอ และถามด้วยความกังวลว่า "คุณหนู ดึกขนาดนี้แล้ว คุณไปอยู่ไหนมา ? ทำไมไม่อยู่ในห้อง ?"

มู่เวยเวยรู้สึกผิดเล็กน้อยก่อนจะโกหกไปว่า "ฉันไปเดินเล่นในสวนมา พอกลับมาก็ได้ยินเสียงคุณเรียกฉัน มาหาฉันดึกดื่นขนาดนี้มีเรื่องอะไรรึเปล่า ?"

"อ่อใช่ !"คุณอาหวังพยักหน้า "คุณชายกำลังรอคุณที่ห้อง เขาบอกให้ฉันพาเธอไปพบเขา"

เย่ฉ่าวเฉินตามหาฉัน ?

มู่เวยเวยตกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร " โอเคค่ะ ฉันทราบแล้ว คุณไปพักผ่อนเถอะ "

"ครับ "

เมื่อเดินไปถึงประตูห้องของเย่ฉ่าวเฉิน มู่เวยเวยเปิดประตูเข้าไป เธอก็เห็นเขานั่งเอนอยู่บนเตียง

เมื่อเห็นเขาในชุดคลุมอาบน้ำเผยให้เห็นกล้ามหน้าอกอันสวยงาม เธอรีบละสายตาและลังเลว่าจะเดินไปดีไหม

" มานี่ " เย่ฉ่าวเฉินเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา" ไม่งั้นฉันจะไปเชิญเธอด้วยตัวเอง "

เย่่ฉ่าวเฉินพูดคำว่า " เชิญ " แก้มของมู่เวยเวยก็แดงระเรื่อขึ้นมา เธอเดินเข้าไปที่ห้องนอนและยืนเว้นระยะห่างจากเตียงสองเมตร เธอถามอย่างใจเย็นว่า คุณเรียกฉันมามีธุระอะไร ?

"ทำไมไปยืนไกลขนาดนั้น กลัวฉันจะทำอะไรเธอรึไง ? "มองไปที่เธอด้วยท่าทีระมัดระวัง รู้สึกได้ถึงไฟในใจของเย่ฉ่าวเฉิน เขาพูดขึ้นด้วยท่าทีที่ดูถูก

"เย่ฉ่าวเฉินฉันขอให้คุณพูดดีๆหน่อย ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ถ้าคุณคิดว่าฉันเป็นคนขี้ขลาด งั้นฉันก็จะออกไปเดี๋ยวนี้" เธอมองเย่ฉ่าวเฉินด้วยท่าทีรังเกียจ !

มู่เวยเวยพูดด้วยความโกรธ หันหลังเตรียมจะออกไป ในใจก็บ่นชายคนนี้ เขาชอบทำให้เธอรู้สึกอับอายและอึดอัด ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเธอไปทำเวรทำกรรมอะไรกับเขา !

......

มู่เวยเวยตอนอยู่บนเตียง เธอมองเย่ฉ่าวเฉินด้วยแววตาเกลียดชัง พลางหาข้อแตกต่างระหว่างชายตาม่วงกับเขา

ดูเหมือนว่านอกจากดวงตาที่แตกต่างกันแล้ว ลักษณะอื่นของพวกเขาแทบจะเหมือนกันหมด ในแง่ของบุคลิกภาพเย่ฉ่าวเฉินเป็นคนใจร้อน ส่วนชายตาม่วงเป็นพวกเยือกเย็น แต่ว่าทั้งสองก็มีจุดที่แตกกต่างกันมาก นั่นคือชายตาม่วงนั้นมีความสามารถแปลกๆ

ว่าทั้งสองคนใช่คนเดียวกันไหม มู่เวยเวยกอดอกคิด ถ้าหากว่าชายตาม่วงคือเย่ฉ่าวเฉิน ถ้าอย่างนั้นทำไมเมื่อครู่ที่เธอมองเขา เขาจึงทำร้ายตัวเอง

นอกจากสายตาที่เป็นประกายของเย่ฉ่าวเฉิน อย่างอื่นก็ดูเป็นปกติหมด ถ้างั้นจะเป็นเขาได้อย่างไร ?

แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าทั้งสองคนต้องมีความเกี่ยวข้องกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่เหมือนกันขนาดนี้หรอก !

"มองพอรึยัง ?" เย่ฉ่าวเฉินถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

ผู้หญิงคนนี้จ้องมองเขาเป็นเวลานาน ไม่รู้ว่าในใจคิดถึงใครอยู่ เมื่อคิดว่าเธอกำลังคิดถึงชายอื่น เขาก็อารมณ์เสียขึ้นมา !

มู่เวยเวยดึงสติกลับมา มองไปที่ท่าทางมืดมนของเขา ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า คนขี้งก คุณคิดว่าฉันเต็มใจมองคุณหรอ คิดว่าฉันชุบตัวให้ดูรวยขึ้นหรอ !

หลังจากด่าในใจเสร็จ มู่เวยเวยก็รู้สึกสบายใจขึ้น และหันกลับมามองเขาอีกครั้ง

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ในขณะที่เธอและเย่ฉ่าวเฉินกำลังนอนอยู่นั้น ก็มีเสียงของเขาดังขึ้นมาจากข้างหลัง

"ผู้หญิงที่ชื่อเฉียวซินโยวที่มาบ้านวันนี้ เธอก็เป็นนักศึกษามหาลัยหนานฮวาหรอ ?"

เมื่อได้ยินเขาถามถึงเฉียวซินโยว มู่เวยเวยก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ตอบไปตามความจริงว่า “ ใช่ เฉียวซินโยวเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉัน เรียนการออกแบบด้วยกันกับฉัน มีปัญหาอะไรรึเปล่า ” ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ