ริมฝีปากของอรนลินฉีกยิ้มออก ยิ่งขับใบหน้างดงามมีเสน่ห์ขึ้นไปอีก “โทษทีค่ะ ฉันไม่มีเวลาสำหรับเรื่องพวกนี้” ร่างเรียวตอบก่อนจะวางหมวกลงและเดินจากไป
จตุพลมองไปยังดิษพงษ์ด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย “ฮ่า ๆ นายแพ้แล้ว รู้สึกอย่างไรบ้างล่ะห้ะ ตอนนี้ใครที่ต้องกลืนน้ำลายตัวเองกันแน่”
หน้าของดิษพงษ์แดงก่ำด้วยความโกรธ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะตอบโต้อะไรได้
หลังจากนั้นอรนลินก็เดินมาทางพวกเขา “ไปส่งฉันหน่อยสิ”
“รับทราบครับบอส” จตุพลตอบรับก่อนจะพาอรนลินจากไปด้วยท่าทีที่นอบน้อม
ดิษพงษ์เห็นท่าทีที่ไม่พอใจของอาชาขณะมองสองร่างจากไป ผู้เป็นน้องจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “พี่ให้เธอชนะการแข่งนี้เพราะเธอสวยงั้นเหรอพี่อาร์ต”
อาชามองดิษพงษ์ด้วยหน้าบอกบุญไม่รับ ก่อนจะเหลือบไปยังร่างของอรนลินที่กำลังเดินจากไป เขารู้สึกคุ้น ๆ ว่าเคยเห็นรูปร่างลักษณะนี้ที่ไหนมาก่อน แม้จะนึกอยู่ชั่วครู่ก็จำไม่ได้อยู่ดี
……
อรนลินนอนหลับอย่างมีความสุขหลังจากได้รับเงินห้าล้าน เช้าวันต่อมาเธอก็แต่งหน้าและใส่วิกผมให้ดูเฉิ่ม ๆ อีกครั้งตามปกติ ขณะเดียวกัน ด้านล่างของคฤหาสน์นั้นก็มีกำลังครึกครื้นเพราะคนในตระกูลกิตตินนท์อยู่พร้อมหน้ากัน ขาดก็แต่อาชาเท่านั้น
“นี่คือรูปของเธอ เธอมีเสน่ห์มากใช่ไหม ตอนแข่งรถเมื่อคืน เธอโคตรเจ๋ง ผมมาคิดดูแล้ว ถึงแม้พี่อาร์ตจะแพ้เธอเมื่อคืน แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น”
ชายหนุ่มอีกสามคนเหลือบมองไปที่รูปที่ถูกถ่ายเมื่อคืนนี้โดยเพื่อนคนหนึ่งของดิษพงษ์ พวกเขาพูดคุยกันอย่างออกรสถึงเรื่องที่อาชาแพ้การแข่งขันเมื่อคืนนี้
“ฮ่า ๆ ๆ ยากนะเนี่ยที่จะได้ยินว่าอาชาผู้ที่ไม่เคยมีผู้ใดจะสยบเขาได้ ได้พบเจอกับความพ่ายแพ้สักที”
“เธอน่าทึ่งมากจริง ๆ จนอยากให้เธอมาเป็นนางแบบให้กับบริษัทของเราเลย” บดินทร์ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของห้องเสื้อชื่อดังเอ่ยขึ้น
“ถ้าเธอไม่ได้เข้ามาอยู่ในวงการทั้งที่มีหน้าตารูปร่างดีขนาดนั้น มันก็น่าเสียดายออก” จตุภัทรผู้ซึ่งชนะรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมเอ่ยขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ
“เฮ้อ เมื่อคืนผมก็ลืมถามชื่อเธอ แต่เดี๋ยวพี่อาร์ตก็ส่งคนไปสืบมาเองล่ะ เราคงจะได้ข่าวเร็ว ๆ นี้”
จนกระทั่งอรนลินย่างกรายลงมาชั้นล่าง ชายทั้งสี่ก็จบบทสนทนาลง พวกเขาเหลือบมองมายังร่างบางแล้วก็พลันคิด รูปร่างของเธอนั้นช่างแตกต่างจากหญิงสาวเมื่อคืนราวฟ้ากับเหว
อรนลินรู้สึกขอบคุณฝีมือในการแต่งหน้าของตน ไม่อย่างนั้น ผู้ชายพวกนี้คงจะตกหลุมรักเธอเพียงแค่เห็นรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น เธอครุ่นคิดอย่างเข้าข้างตนเอง
อรนลินยิ้มอย่างเย้ยหยัน มันก็ขึ้นอยู่กับว่าพี่อาร์ตเขาจะมีความสามารถมากพอที่จะสืบเรื่องเราได้หรือเปล่า
วิวเหรอ ใครกันนะ หญิงสาวครุ่นคิด
อรนลินรู้ได้ทันทีว่าดิษพงษ์นั้นประทับใจในตัววราภรณ์มาก แต่หญิงสาวก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจนัก ลูกสาวคนโตของตระกูลขจรพงษ์งั้นเหรอ ไม่ยักกะเคยได้ยินเรื่องเธอมาก่อน หญิงสาวครุ่นคิดขณะเดินสบาย ๆ ออกจากประตูโรงเรียนพลางลิ้มรสอมยิ้มในปากไปด้วย
วราภรณ์ หญิงสาวที่ดิษพงษ์กล่าวถึงนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ เธอแต่งกายด้วยชุดที่สั่งตัดจากดีไซน์เนอร์ ผมยาวเป็นลอนถูกมัดไว้ด้านหลัง การแต่งหน้าของเธอดูสวยสดงดงามตามแบบฉบับลูกคุณหนู หลังจากทักทายดิษพงษ์อย่างอบอุ่นแล้ว เธอก็หันมาทางอรนลินก่อนจะกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เธอคือแอลใช่ไหม พี่ชื่อวิวนะ ตั้งแต่เด็ก ๆ พี่โตมากับแดนและคนอื่น ๆ น่ะ จากนี้เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ ถ้าแอลอยากจะไปเที่ยวหรือหาอะไรสนุก ๆ ทำที่แอตทีเซียนี่ ชวนพี่ได้ตลอดเลยนะ”
อรนลินตอบรับอย่างสุภาพ “ได้ค่ะ”
“พี่วิว ไปเที่ยวกับเธอจะไปสนุกอะไร ผมคิดถึงพี่จะแย่แล้วเนี่ย คราวนี้พี่คงไม่ไปไหนอีกแล้วใช่ไหม”
วราภรณ์ยิ้มรับ “ไม่แล้ว พี่ไม่ไปไหนแล้วล่ะ พี่เรียนจบแล้วนะ เลยวางแผนจะมาเป็นเด็กฝึกงานบริษัทในเครือกิตตินนท์น่ะ”
“จริงเหรอ ถ้าเป็นงั้นพี่ต้องดูแลพี่วิวนะพี่อาร์ต”
อาชาไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เขาหันไปสตาร์ตรถและขับออกไปแทน
แววตาแห่งความผิดหวังฉายแวบเข้ามาในดวงตาของวราภรณ์ก่อนจะเหลือบมองอรนลินผ่านกระจกมองหลัง เราจะจากไปอีกได้อย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักร้าย กับเหล่าคุณชายทั้งห้า