วุ่นรักวิวาห์ลวง นิยาย บท 112

“ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเป็นคนอธิบายในส่วนที่สำคัญ คุณอยู่คอยช่วยเสริมข้าง ๆ” ฉินซูพูด

ทั้งสองปรึกษาหารือรายละเอียดของการแข่งขันกันสักอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลับไปที่ห้องประชุม

เมื่อทั้งสองเดินไปได้ไกล ประตูห้องน้ำเปิดออก หานโม่หยางเดินออกมาจากด้านใน

เหอซู ภรรยาทายาทตระกูลฉู่?

นึกไปถึงเสียงที่คุ้นเคยของผู้หญิงเมื่อสักครู่ หานโม่หยางราวกับค้นพบเรื่องที่น่าสนใจ เขากระตุกริมฝีปากอย่างมีความหมายที่ลึกซึ้ง

ภายในห้องประชุม

“มะเร็งเป็นฝันร้ายที่กวนใจมนุษย์มาโดยตลอด ตามจังหวะการพัฒนาที่รวดเร็วของสังคมสมัยใหม่ มะเร็งกำลังแปรสภาพไฟสู่บุคคลที่อายุน้อย ดังนั้นการวิจัยของพวกเรา…”

หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องประชุม แม้ว่าจะสวมหน้ากาก แต่น้ำเสียงที่สงบและเยือกเย็น ทั้งการวิเคราะห์ที่มีระเบียบแบบแผนชัดเจน ตลอดจนดวงตาคู่ใส ที่มีความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของเธอ ทำให้ความสนใจของผู้คนถูกเธอดึงดูดไปโดยไม่ได้ตั้งใจ และตกอยู่ในการนำเสนอของเธอ

ทันทีที่ฉินซูปรากฏตัว สายตาของฉู่โจวก็จำเธอได้ ในเวลานี้เขามองดูการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเธอ ปรากฏรอยยิ้มที่ชื่นชมบนใบหน้าของเขา ในขณะเดียวกัน ภายในใจก็เกิดแผนการในระยะยาวขึ้นมา

และด้านนอกห้องประชุม หน้าต่างกระจกทรงกลมที่กั้นไว้ หานโม่หยางจ้องมองไปยังหญิงสาวคนนั้น รอยยิ้มที่มุมปากของเขายิ่งลึกขึ้น

เมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน เหล่ากรรมการเข้าสู่ช่วงลงคะแนนเสียง

แต่เพราะว่าผลสุดท้ายยังจำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ ดังนั้นฉินซูและคนอื่น ๆ ไม่มีสิทธิเข้าร่วม

หม่าเฉิงพูด “ฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อรอข่าว พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ”

“อาจารย์หม่า ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนด้วยค่ะ” ฉินซูก้มศีรษะและเดินออกไป

หม่าเฉิงมองดูด้านหลังของฉินซู นึกถึงการนำเสนออันยอดเยี่ยมเมื่อสักครู่ของเธอ ที่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป อดไม่ได้ที่จะรู้สึก เด็กคนนี้ไม่เพียงแต่จะมีพรสวรรค์ด้านการแพทย์เท่านั้น ยังเป็นคนที่มีความสามารถด้านการพูดอีกด้วย ไม่แปลกใจที่ฉางเหล่าชื่นชอบเธอ!

เมื่อจางอี้เฟยเห็นฉินซูจากไปโดยไม่หันหลังกลับมา จึงรีบตามไปทันที

เขายังว้าวุ่นกับตัวตนของฉินซู

ทั้งสองเพิ่งจะลงมาถึงชั้นล่าง มีหญิงสาวที่สวมชุดสูททำงานยืนอยู่ด้านนอกลิฟต์ ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เห็นได้ชัดว่าพวกเธอตั้งใจรออยู่ตรงนี่

“นักศึกษาท่านนี้ ประธานหานของเราขอเรียนเชิญ”

ทันทีที่ฉินซูได้ยินก็ขมวดคิ้วอย่างงุนงง “ขออภัยด้วย ฉัน…”

“ประธานหานบอกว่า ครั้งก่อนเร่งรีบ ไม่ทันได้ทักทายคุณ” ผู้ช่วยสาวพูดขึ้น

หัวใจของฉินซูจมดิ่ง ความหมายของคำพูดนี้ ทำไมเธอจะไม่เข้าใจ?

หานโม่หยางรู้ตัวตนของเธอแล้ว

เพียงแต่ เธอเปิดเผยตัวตนเมื่อไหร่กัน?

จู่ ๆ ก็จำได้ว่าตอนที่เธอกำลังพูดนำเสนอการแข่งขันภายในห้องประชุม รู้สึกถึงสายตาที่แผดเผาอยู่ด้านนอกประตู เป็นไปได้มั้ยที่จะเห็นเธอ?

ฉินซูไม่ได้คิดอะไรมาก ในเมื่อหานโม่หยางรู้จักเธอแล้ว เพียงแต่เธอสงสัยเล็กน้อยกับการที่เขาตั้งใจมาเชิญเธอ เขาคิดจะทำอะไร

ฉินซูพยักหน้าและเดินตามผู้ช่วยสาวเข้าไปในลิฟต์

จางอี้เฟยไม่เข้าใจ และคิดจะตามเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ถูกผู้ช่วยสาวขวางไว้

“ขอโทษด้วยคุณจาง ประธานหานไม่ได้บอกว่าอยากเจอคุณ”

จางอี้เฟยมองดูประตูลิฟต์ที่ค่อย ๆ ปิด สีหน้าของเขาอึดอัดกลัดกลุ้มใจ

แปลกจริง ๆ ผู้อำนวยการใหญ่ของหานซื่อที่สง่าผ่าเผย ทำไมถึงตั้งใจที่จะเจอเหอซู?

เว้นเสียแต่ว่าตัวตนของเธอไม่ธรรมดา…

ทันใดนั้นจางอี้เฟยก็คิดเข้าใจแล้ว หัวเราะหึหึ แต่ในไม่ช้ารอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไป เหลือไว้เพียงความเศร้าใจ

รู้ว่าเธอเป็นใครแล้วยังไง เธอแต่งงานกับคุณชายฉู่ที่มีชื่อเสียงมากอยู่แล้ว

ฉินซูเดินมาถึงสำนักงานของผู้อำนวยการชั้นบนสุด เธอเดินเข้าไปภายใต้การนำทางของผู้ช่วยสาว

หานโม่หยางนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวจึงเงยหน้าขึ้นและยกมือ

ผู้ช่วยสาวออกไปอย่างเงียบ ๆ

หานโม่หยางมองฉินซูอย่างสงบสติอารมณ์ท่ามกลางความวุ่นวาย “ภรรยาทายาทตระกูลฉู่ เราต่างมีโชคชะตาที่ลึกซึ้งจริง ๆ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง