คุณนายจางดูตามที่เขาชี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นหวังอี้หลิน
บนเวที พิธีรับช่วงต่อกำลังดำเนินไป
ฉู่สวี่ดำรงตำแหน่งในฐานะผู้กุมอำนาจของฉู่ซื่อกรุ๊ป ในพิธีวันนี้เขาจะส่งมอบอำนาจให้ไปอยู่ในมือของฉู่หลินเฉินอย่างเป็นอย่างการ
ภายใต้สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น ทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ฉู่หลินเฉินยืนอยู่ด้านหน้าของไมโครโฟน เนื่องจากตำแหน่งของไมโครโฟนอยู่ต่ำ เขาจึงก้มลงเล็กน้อยและใช้มือข้างหนึ่งจับไมโครโฟน จากนั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ทุก ๆ ท่านที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ต่างก็เป็นพันธมิตรที่สำคัญของฉู่ซื่อมาโดยตลอด ฉู่ซื่อจะเดินไปข้างหน้าอย่างบากบั่นกับทุกท่านต่อไป และสร้างความรุ่งโรจน์ต่อไป!”
เสียงพูดหยุดลงแทนที่ด้วยเสียงปรบมือดั่งสนั่นจากล่างเวที
ฉินซูที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ปรบมือเพื่อแสดงความยินดีกับตนเอง ที่ในที่สุดก็จะหลุดพ้นจากตำแหน่งภรรยาทายาทตระกูลฉู่ที่ยากลำบากนี้สักที
รอจนเสียงปรบมือค่อย ๆ หายไป ฉู่สวี่ก็ก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า “นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อำนาจโดยสมบูรณ์ได้อยู่ในมือของหลินเฉินแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำดีหรือแย่ ฉันก็จะไม่เข้าไปก้าวก่าย ปล่อยให้คนอื่น ๆ จะแสดงความคิดเห็นเอง”
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่งก็ประกาศออกมาอย่างเอาจริงเอาจัง “ตอนนี้งานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ!”
พูดจบเขาก็ก้าวลงจากเวทีราวกับสายลม ใบหน้าสง่าผ่าเผยผ่อนคลายจากการปลดปล่อยภาระที่ยิ่งใหญ่
เขาจับมือภรรยาของเขาหลิวเหวยลู่ ใช้น้ำเสียงเบา ๆ เอ่ยขึ้น “ลู่ลู่ ในที่สุดตอนนี้ผมก็สามารถเดินทางไปเที่ยวรอบโลก ชดเชยที่เป็นหนี้คุณได้แล้วนะ แล้วผมก็จองตั๋วเรียบร้อยแล้วด้วย”
หลิวเหวยลู่จ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจ ข่าวที่กะทันหันแบบนี้ ไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทางของเธอมาก่อนเลย?
แต่เมื่อมองเห็นรังสีที่จริงใจในแววตาของชายคนนั้น เธอก็ยิ้มออกมาอย่างไม่มีทางเลี่ยงและพยักหน้าเล็กน้อย
ภายใต้การบอกใบ้ของฉู่หลินเฉิน ฉินซูจึงจับแขนของเขาลงมาจากเวที
เหล่าบรรดาแขกผู้มาเยือน ต่างพากันก้าวมาข้างหน้าเพื่อทักทาย และแสดงความยินดีกับคนทั้งสองทันที
ในเวลาเดียวกัน เงาของสองคนที่ยืนอยู่ในมุมมืดของงานก็ส่งสายตาเป็นนัยให้กัน จากนั้นก็หมุนตัวออกไปด้านนอก
“ขอแสดงความยินดีกับคุณชายฉู่และภรรยา”
“คุณชายฉู่ ฉันมาจาก บราวน์เทคโนโลยี หวังว่าเราจะร่วมงานกันอย่างมีความสุข!”
“สัญญาระหว่างหมิงสี่กรุ๊ปกับฉู่ซื่อกำลังจะสิ้นสุดแล้ว เราสามารถนัดหมายเวลาเพื่อต่ออายุสัญญากับคุณชายฉู่ได้หรือไม่…”
ประเด็นที่นายทุนเชิงพาณิชย์เหล่านี้คุยกันเอะอะก็เข้าสู่เรื่องการร่วมมือทางธุรกิจ
ฉินซูไม่ได้สนใจในเรื่องพวกนี้ เธอรู้สึกว่าบริเวณโดยรอบเสียงดังอึกทึกคึกโครม ฟังแล้วปวดหัว
แม้ว่าฉู่หลินเฉินจะรับมืออยู่กับบรรดาแขกผู้มาเยือน แต่เขาก็ดูปฏิกิริยาของเธอทั้งหมดเช่นเดียวกัน
เขาเอ่ยขึ้น “เธอไปเดินเล่นรอบ ๆ เถอะ”
“อืม” ฉินซูไม่ได้เขินอายอะไร เธอพยักหน้าเล็กน้อยและเดินไปอีกทาง
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้นอกจากฉู่หลินเฉินแล้ว เธอก็ยังเป็นหนึ่งในจุดสนใจที่ถูกจับจ้องอีกด้วย
เพิ่งจะเดินออกมาได้ไม่ไกล กลุ่มคุณหญิงคุณนายที่มีชื่อเสียงกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาใกล้
โดยปกติแล้วฉินซูไม่ได้สนใจคนเหล่านี้ แต่เธอไม่สามารถละทิ้งฐานะของตนเองได้ จึงจำใจต้องฝืนรับมือกับมัน
“คุณนายฉู่ ชุดกระโปรงตัวนี้ของคุณคือผลงานของอาจารย์ TM ใช่ไหม? มันสวยมากจริง ๆ”
“ต้องใช่สิ แต่ถึงแม้ว่ากระโปรงจะสวยแต่มันก็อยู่ที่คนใส่ด้วย คุณนายฉู่เหมาะสมกับกระโปรงตัวนี้มากจริง ๆ!”
ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันเพียงเพื่อพูดคุยกันเรื่องการแต่งตัว และประจบสอพลอต่อกันก็เท่านั้น
ฐานะที่สูงศักดิ์ของฉินซูแสดงอยู่ที่นี่ บวกกับคืนนี้เธอสง่างามมากจริง ๆ ทำให้การที่ทุกคนชื่นชมเธอก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
แต่หวังอี้หลินที่อยู่อีกด้านกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น
เธอมองดูฉินซูที่ราวกับดาวล้อมเดือน แต่ตนเองที่อยู่ตรงนี้กลับไม่มีใครสนใจ ภายในใจของเธอรู้สึกไม่สงบสุขอีกต่อไป!
ทำไมกัน ก็เห็นได้ชัดนี่ว่าเธอสวมใส่ผลงานของอาจารย์ TM เหมือนกัน! คนพวกนี้ตาบอดเหรอ? ทำไมถึงมองเห็นแต่ฉินซู แต่กลับมองข้ามตนเอง?
หวังอี้หลินสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เธอยกยิ้มและเดินเข้าไป
เธอเดินไปยังตรงหน้าของฉินซู “บังเอิญอะไรขนาดนี้ พวกเราใส่เสื้อผ้าที่ออกแบบโดยอาจารย์ TM เหมือนกันเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...