มุมปากของฉินซูกระตุกเล็กน้อย
เวินหลีพูดอย่างระมัดระวัง "พี่เสี่ยวซู คุณชายจางเป็นห่วงพี่มาก พวกเรากลัวว่าพี่จะได้รับผลกระทบไปด้วย..."
“ฉันเข้าใจ” ฉินซูยิ้มและมองเวินหลี จากนั้นหันไปหาจางอี้เฟยอย่างติดตลก “คุณไปได้ยินข่าวลือมาจากไหน ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขาจริง ๆ ฉันจะมีเวลานัดพวกคุณมากินข้าวหรือคะ?"
จางอี้เฟยหัวเราะอย่างว่างเปล่า “ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว”
“อืม” ฉินซูพยักหน้าแล้วเหลือบมองจางอี้เฟยอีกครั้ง ดูไม่ออกว่าสีหน้าของเขามีอะไรแปลกไป
เธอยังไม่อยากสงสัยในเรื่องนี้กับเขา จึงปล่อยวางความคิดเหล่านั้นทิ้งเสียก่อน และพูดขึ้น “จางอี้เฟย อีกสักพักฉันจะรบกวนคุณให้พาเวินหลีไปที่บริษัทของคุณหน่อยนะคะ ฉันคงไม่ไปแล้ว”
“ไม่อยากไปดูเหรอ?”
ฉินซูโบกมือ "ฉันเป็นคนทั่วไปที่ไม่มีความสนใจในเรื่องของบริษัท และการออกแบบเสื้อผ้ามากนักน่ะค่ะ"
สีหน้าของจางอี้เฟยเปลี่ยนไป และเขาก็ยิ้มออกมา “จริงสิ คุณสนใจแต่เรื่องการแพทย์เท่านั้น ในจุดนี้พวกเราช่าง....รสนิยมตรงกันจริง ๆ !"
เวินหลีเหลือบมองเขา เธอหยุดคำพูดเอาไว้ สุดท้ายก็หยิบชานมในแก้วขึ้นมาดื่ม
เมื่อกินข้าวเสร็จ จางอี้เฟยจึงพาเวินหลีออกไป
ฉินซูหยิบกระเป๋า เตรียมตัวกลับ
เมื่อเดินผ่านล็อบบี้ของร้านอาหาร เธอก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังมองมา
เธอหันหน้าไปมอง และเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้หน้าต่าง สวมชุดสีดำที่สง่างามอรชร มีผมยาวสีแดงเพลิงสยายอยู่บนหลังของเธอ และปกปิดใบหน้าเอาไว้
อีกฝ่ายกำลังเพลิดเพลินกับกาแฟท่าทางสบาย ๆ โดยไม่ได้หันมามองเธอ
สงสัยจะคิดไปเอง?
ฉินซูดึงสายตากลับมาด้วยความสงสัยเล็กน้อย เธอเดินออกจากร้านอาหารไป
หญิงผมแดงวางแก้วกาแฟลงอย่างไม่เร่งรีบ ริมฝีปากสีแดงเพลิงยกยิ้มขึ้นอย่างไม่อาจรู้ความหมายได้
เมื่อออกจากร้านอาหาร และระหว่างทางกลับบ้านพักต่างอากาศ ฉินซูได้รับโทรศัพท์จากศาสตราจารย์ฉางอีกครั้ง
“ฉันโอนเงินรางวัลในการแข่งขันทางการแพทย์เยาวชนให้คุณแล้ว เธอลองดูนะว่าได้รับหรือยัง”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะศาสตราจารย์ฉาง”
ฉินซูนำมือถือออกมาและเปิดดูข้อความแจ้งเตือน เธอเห็นข้อความว่ามีเงินเข้าบัญชีก็อดประหลาดใจไม่ได้
“ศาสตราจารย์ฉางคะ ทำไมถึงมีตั้งสองแสน? กลุ่มพวกเรามีทั้งหมดเจ็ดคน บวกกับต้นทุนค่าทดลองแล้ว ถ้าเงินรางวันหนึ่งล้าน แบ่งแล้วก็น่าจะเป็นคนละ..."
เสียงหัวเราะเบา ๆ ของศาสตราจารย์ฉางดังมาจากปลายสาย "ยิ่งทำงานหนักยิ่งได้เยอะ เราทุกคนเห็นผลงานของเธอ นี่คือผลจากการพูดคุยกับพวกเขา เธอรับไว้อย่างสบายใจได้เลย"
ฉินซูเม้มปาก "ขอบคุณทุกคนนะคะ"
ฉางเหล่าพูดขึ้นอีก “ตอนแรกฉันอยากจะชวนเธอมาทำโปรเจกต์ต้วยกัน แต่เดาว่าช่วงนี้เธอคงจะปลีกตัวออกมาไม่ได้...อาการของคุณชายฉู่ยังดีอยู่ไหม? ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไร บอกอาจารย์ได้เลยนะ"
เมื่อรู้ได้ถึงความเป็นห่วงจากคำพูดของศาสตราจารย์ฉาง ฉินซูรู้สึกตกใจ จากนั้นเธอก็ส่ายหัวพลางยิ้ม "ศาสตราจารย์คะ ขอบคุณที่หวังดีนะคะ แต่ทางนี้สบายดีค่ะ ข่าวบนอินเตอร์เน็ตถูกกุขึ้นมาโดยผู้ไม่หวังดี"
"อ๋อ จริงเหรื? งั้นก็ดีแล้ว" ฉางเหล่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อคุยโทรศัพท์จบแล้ว ฉินซูก็ตกอยู่ในห้วงความคิด
แค่ในเวลาสั้น ๆ วันเดียวก็มีแต่ผู้คนเธอติดต่อมาเพื่อถามข่าวคราวของฉู่หลินเฉิน ทั้งคนที่มาเพื่อเสาะข่าว และคนที่ห่วงใยอย่างจริงใจ ใครกันนะที่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีกับฉู่หลินเฉิน…
บริษัทห้องเสื้อโม่เฟิง จำกัด
จางอี้เฟยพาเวินหลีไปหาผู้จัดการฝ่ายบุคคล
“พี่เหมยครับ นี่คือเวินหลี พี่ช่วยเธอทำขั้นตอนเข้ามาทำงานหน่อยครับ”
“รับทราบค่ะคุณชาย”
พี่เหมยมองเหวินหลี่และยิ้มอย่างสุภาพ "คุณเวิน ช่วยกรอกข้อมูลหน่อยนะคะ"
“ค่ะ” เหวินหลี่พยักหน้าเบา ๆ
หลังจากเสร็จขั้นตอนแล้ว เวินหลีพูดกับจางอี้เฟยว่า "ไม่คิดเลยว่าจะได้ทำงานที่นี่เร็วขนาดนี้ ขอบคุณนะคะคุณชายจาง"
จางอี้เฟยมองไปที่หญิงสาวเรียบร้อยตรงหน้า เขาเกาหัวและพูดว่า “อย่าเรียกผมว่าคุณชายจางเลย คุณเป็นเพื่อนของฉินซู เรียกชื่อผมก็ได้! เรียกผมว่าอี้เฟยเถอะ!”
เวินหลีสะดุ้ง หูของเธอกลายเป็นสีแดง ชื่อเรียกสองพยางค์นี้อยู่ในปากของเธอแต่กลับพูดไม่ออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...