คนขับรถเหยียบคันเร่งจนสุด รถวิ่งออกไปด้วยความเร็วสูง
“ช่วยด้วย! พวกนายจะทำอะไร? รู้ไหมว่าฉันเป็นใครถึงกล้าลักพาตัวฉัน?!” หวังอี้หลินตะโกนด้วยความตื่นตระหนก
ชายที่อยู่ในตำแหน่งข้างคนขับดับบุหรี่ “หนวกหู ปิดปากเธอซะ!”
ชายที่นั่งเบาะหลังพบเศษผ้าบนรถ และยัดเข้าไปในปากของหวังอี้หลินอย่างไม่มีมารยาทเลยแม้แต่นิด
กลิ่นนั้นมันเกือบจะทำให้เธอกลอกตาเป็นลม
เธอทำได้เพียงส่งเสียง “อื้อ อื้อ อื้อ”
ปิดปากของหวังอี้หลินเสร็จแล้ว ชายในตำแหน่งข้างคนขับก็มองไปยังฉินซูและส่งเสียงสงสัย “นี่ แล้วทำไมเธอเงียบ!”
ฉินซูดึงมุมปากไม่ได้พูดอะไร ความจริงสายตากลับจับตามองทัศนียภาพนอกหน้าต่างมาโดยตลอด
อยากจะแจ้งตำรวจก็เป็นไปไม่ได้ ทันทีที่ขึ้นรถพวกเขาก็แย่งชิงกระเป๋าของเธอกับหวังอี้หลินไปแล้ว
เธอทำได้เพียงจดจำเส้นทางและสังเกตการเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบ ๆ!
รถแล่นวนไปเรื่อย ๆ และขับเข้าไปในย่านธุรกิจที่เจริญรุ่งเรือง สุดท้ายรถก็เข้าไปจอดในลานจอดรถชั้นใต้ดิน
ผู้ชายสองสามคนพาฉินซูกับหวังอี้หลินขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นเก้า คาดไม่ถึงว่าตลอดทางไม่ได้พบเจอคนนอกเลยแม้แต่คนเดียว
บางทีนี่อาจจะเป็นลิฟต์ส่วนบุคคล
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกก็เป็นทางเดินยาว ที่ยังคงไม่มีแม้แต่เงาของใครสักคนเหมือนเดิม
ฉินซูกับหวังอี้หลินถูกผลัก “เร็วเข้า เดินไปข้างหน้า”
ทั้งสองเดินไปข้างหน้าอย่างเชื่อฟัง ครั้งนี้หวังอี้หลินรู้แล้วว่าร้องตะโกนไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงสงบลงอย่างเชื่อฟัง
ที่ปลายสุดของทางเดินเป็นประตูบานหนึ่ง
ชายที่เป็นผู้นำผลักประตูและพาคนสองคนเดินเข้าไป “ชายคนอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ดูแลอยู่ที่หน้าประตู”
นี่เป็นห้องที่โอ่อ่าหรูหราถึงขีดสุด พรมเปอร์เซียสีแดงเข้ม ผ้าม่านพู่ระย้าสีทองสไตล์ราชวงศ์ และที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากที่สุดก็คือเตียงใหญ่ทรงกลมที่อยู่ตรงกลางห้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...