เธอพลิกตัวอยากที่จะหยิบขึ้นมาอ่านให้ละเอียด
แต่ฉู่หลินเฉินกลับหยิบเอกสารนั้นไปและพูดอย่างเย็นชา “ยุ่งอะไร? เตียงก็ยกให้เธอแล้วยังไม่รู้จักนอนพักฟื้นให้ดี ๆ อีก!”
ฉินซูตกตะลึงและเพิ่งจะมาตระหนักรู้ตัวอีกทีในตอนนี้ ว่าตนเองกำลังนอนอยู่บน “เตียงผู้ป่วย” ของฉู่หลินเฉินแต่เพียงผู้เดียว
ดังนั้นเมื่อวานเธอครอบครองเตียงของเขา แล้วเขา...
ฉินซูหยุดความคิดทันทีทันใดและไม่คิดอีกต่อไป
สายตาของเธอมองไปที่เอกสารในมือของเขา และพูดอย่างเข้าใจทั้งหมด “นั่นคือหนังสือข้อตกลงการหย่าใช่ไหม?”
เมื่อถูกเธออธิบายจนหมดเปลือกแล้วฉู่หลินเฉินก็ไม่ได้ปิดบัง “ใช่”
“ต้องการให้ฉันเซ็นชื่อตอนนี้เลยไหม?” ฉินซูถาม
ฉู่หลินเฉินปะทะกับสายตาที่ตรงไปตรงมาและจริงใจของเธอ โดยไม่ได้แฝงความลังเลเลยแม้แต่น้อย มันชัดราวกับว่าสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน
สายตาของเขาก้มดูบนมือขวาของเธอที่พันผ้าพันแผลไว้หนาแน่น แล้วจงใจพูดเสียดสี “เกรงว่าเธอจะมีแต่ความปรารถนา แต่ไม่มีแรงแม้แต่จะเขียนตัวอักษรสักตัวออกมา!”
“รอให้เธอดีขึ้นแล้วค่อยเซ็น” พูดจบเขาก็ยัดเอกสารใส่เข้าไปในลิ้นชักของตู้
เมื่อซ่งจิ่นหรงกับหลิวเหวยลู่ทราบข่าวว่าฉินซูได้รับบาดเจ็บก็มาเยี่ยมเธอ และก็ต้องตกใจกับบาดแผลทั่วทั้งร่างกายของเธอ
ซ่งจิ่นหรงถอนหายใจและพูดอย่างเจ็บปวดใจ “เด็กดี ทำไมถึงมีสภาพแบบนี้ได้”
แม้ว่าฉินซูจะไม่ใช่หลานสะใภ้ของเธอแต่เธอก็ชอบเด็กสาวคนนี้
หลิวเหวยลู่กำชับให้ฉินซูพักฟื้นดี ๆ และดีขึ้นไว ๆ
เธอไม่ได้มีอคติต่อฉินซู เพียงแต่หวังให้ฉินซูกับลูกชายของตนจบความสัมพันธ์การสมรสนี้ให้เร็ว เพื่อให้ทุกอย่างกลับสู่ลู่ทางที่ถูกที่ควร
หลังจากทั้งสองจากไป ฉู่หยุนซีก็ออกปฏิบัติการทันทีหลังจากทราบข่าว
หลังจากเธอได้ยินว่าพี่ชายของเธอจะเลื่อนแผนการหย่า เธอก็รีบเข้ามาดูสถานการณ์
ในตอนนี้ฉู่หลินเฉินไม่อยู่ในห้องพอดี หลังจากฉู่หยุนซีเข้ามาในประตูแล้วก็เดินตรงไปข้างเตียง
เธอเยาะเย้ยถากถางสภาพที่น่าเวทนามีบาดแผลไปทั้งร่างกายของฉินซู
จากนั้นก็พูดตรงเข้าสู่ประเด็น “ยัยของปลอม เธอจงใจได้รับบาดเจ็บเพราะคิดที่จะเลื่อนเวลาการหย่ากับพี่ชายฉันออกไปใช่ไหม?”
ฉินซูไม่อยากสนใจความไร้เหตุผลของเธอจึงหลับตาลงเสียเลย
“แกล้งตายใช่ไหม? เธอคิดว่าถ้าเธอจงใจทำตัวน่าสงสารต่อหน้าพี่ชายฉัน แล้วเขาจะเก็บเธอไว้เหรอ ฝันไปเถอะ! เธอไสหัวออกให้ให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้...”
พูดแล้วเธอก็ใช้มือคว้าแขนของฉินซูและจะดึงฉินซูลงมาจากเตียง
ฉินซูลืมตาของเธออย่างรวดเร็วและเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ปล่อยมือ”
“เหอะ ตอนนี้ไม่แกล้งตายแล้วเหรอ” ฉู่หยุนซีกลับออกแรงดึงเธอแรงขึ้น
อย่ามองว่าเธอเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่ชีวิตอยู่ดีกินดี เพราะเมื่อเริ่มใช้กำลังก็ยังคงรุนแรง เดิมทีทั้งร่างกายของฉินซูก็ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว มาถูกเธอลากดึงไปอีก ทั้งร่างกายเจ็บปวดราวกับจะแหลกคามือ
เมื่อเห็นเธอยิ่งเจ็บปวด ภายในใจของฉู่หยุนซีก็ยิ่งมีความสุขและไม่ยอมปล่อยมือ
ร่างหนึ่งรีบก้าวเท้าพุ่งเข้ามาจับแขนของฉู่หยุนซีไว้ น้ำเสียงทุ้มต่ำกล่าวเตือนผสมกับความไม่พอใจ “ปล่อยมือของเธอ!”
“พี่?” ฉู่หยุนซีผงะและปล่อยมือด้วยความตื่นตระหนก
ในที่สุดฉินซูก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก และนอนหอบหายใจอยู่บนเตียง มองไปที่ฉู่หยุนซีอย่างเยือกเย็น ในแววตาเขียนคำไว้สองคำ เป็นบ้า!
“ใครให้เธอวิ่งมาก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่?” ในตอนที่ฉู่หลินเฉินพูดก็ปรากฏพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ฉู่หยุนซีไม่กล้าสบตาเขา ทำได้เพียงก้มศีรษะกัดริมฝีปากและพูดขึ้น “ฉันไม่อยากเห็นผู้หญิงคนนี้อยู่ในบ้านของเรา!”
“ได้ งั้นฉันจะพาเธอกลับไป”
ฉู่หลินเฉินเป่าลมออกมาเบา ๆ และขึ้นเสียงเรียกคนใช้ที่อยู่ด้านนอกประตูเข้ามา
“พยุงเธอไปขึ้นรถ”
คนใช้ค่อย ๆ พยุงฉินซูขึ้นมาอย่างระมัดระวัง
ฉู่หลินเฉินก็ก้าวเท้าออกไปด้านนอก
ทันทีที่ฉู่หยุนซีเห็นก็รีบดึงเขาไว้ “พี่ก็จะไปด้วยเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...